คุณภาพมาเป็นอันดับ 1 หัวใจธุรกิจแบรนด์ ‘บ้านผลไม้’

ถือเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับทายาทธุรกิจ กับช่วงรอยต่อที่เป็นคนหนุ่มสาว เพื่อจะรักษามาตรฐานความสำเร็จของคนรุ่นก่อตั้งได้เหมือนเดิม กรณีนี้ก็เช่นกันสำหรับ “บ้านผลไม้” แบรนด์ผู้ผลิตสินค้าแปรรูปผลไม้ ในวันที่ส่งต่อมายังทายาทธุรกิจ

ลองมาติดตามเรื่องราวของแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าแปรรูปผลไม้ “บ้านผลไม้” โดยบริษัท บ้านผลไม้ (ประเทศไทย) จำกัด กับรางวัลชนะเลิศธุรกิจสตาร์ทอัพยอดเยี่ยมแห่งปี จากโครงการ Thailand Top SME Awards 2023 ว่ามีเส้นทางธุรกิจอย่างไร

คุณสุทัตตา ปัทมโยธิน ผู้จัดการ บริษัท บ้านผลไม้ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มต้นบทสนทนากับเราว่า “เราเป็นธุรกิจครอบครัว เริ่มต้นจากคุณนริชา กุลนานันท์ มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับโครงการโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ จ.เชียงราย และเชียงใหม่ และโครงการตามพระราชดำริ ที่ จ.สกลนคร และบุรีรัมย์ จากนั้นก็เริ่มธุรกิจบ้านผลไม้ เพราะตั้งใจดำเนินธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ในการดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนตามนโยบายการพัฒนาประเทศ โดยการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของท้องถิ่น เพื่อเพิ่มมูลค่า พร้อมทั้งให้ความรู้เรื่องมาตรฐานเกษตรอุตสาหกรรมแก่เกษตรกรและชุมชน

อีกทั้งยังสร้างรายได้ให้กับแรงงานท้องถิ่นหลายครอบครัวได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ผ่านการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ ผลไม้อบแห้ง และยึดมั่นจากนโยบายหลัก คือ ให้คุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง หมายความว่าเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีคุณภาพดี สายพันธุ์และความแก่-อ่อนที่เหมาะสม จากนั้นนำมาผ่านกรรมวิธีแปรรูปที่ถูกสุขลักษณะทุกขั้นตอน โดยไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งสี ไม่เติมน้ำตาล หรือเติมอย่างน้อยที่สุด เมื่อเวลาลูกค้ารับประทานแล้ว ได้กลิ่นและรสชาติที่เป็นธรรมชาติเป็นผลไม้แท้

แน่นอนว่า การใส่ใจในทุกรายละเอียดของสินค้า ผลไม้อบแห้ง บ้านผลไม้ ได้ผ่านการศึกษาทดลองมาเป็นระยะเวลานาน ก่อนที่จะผลิตออกมาจำหน่ายได้ โดยนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ (เคมีและวิศวกรรมเคมี) ของทีมงานผู้ริเริ่มได้นำมาประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้า

ริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีคุณภาพดี สายพันธุ์เฉพาะและความแก่อ่อนที่เหมาะสม นำมาผ่านกรรมวิธีแปรรูปที่ถูกสุขลักษณะปลอดภัยทุกขั้นตอน โดยไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งสี ไม่เติมน้ำตาล หรือเติมอย่างน้อยที่สุด เพราะเมื่อเวลารับประทานแล้ว ทุกคนจะได้กลิ่นและรสชาติที่เป็นธรรมชาติเป็นผลไม้แท้ ที่มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่น รสชาติไม่เหมือนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตแบบ mass production โดยผู้บริโภคจะได้รับความเป็นธรรมชาติ ตามเทรนด์รักสุขภาพในปัจจุบัน

ทั้งหมดที่กล่าวมา ถือเป็น Key Success Factors ที่เหนือกว่าผู้จัดจำหน่ายสินค้าประเภทเดียวกัน

“เรามีความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ที่นำมาจำหน่าย เนื่องจากเรามีความชำนาญในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะตามความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ โดยเน้นความเป็นธรรมชาติ ตามเทรนด์รักสุขภาพในปัจจุบัน เราสามารถผลิตตามรูปแบบเฉพาะตามความต้องการได้ และสามารถผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อน และไม่เป็นแบบ mass production เนื่องจากเรามี production unit ในหน่วยย่อยสามารถปรับเปลี่ยนได้  มีความยืดหยุ่นในการผลิตสูง” คุณสุทัตตา บอกกับเราว่า

“พฤติกรรมผู้บริโภคกับแนวโน้มรักสุขภาพ มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ผู้บริโภคไม่ได้สนใจแค่ส่วนคุณภาพของสินค้า แต่ยังตระหนักถึงปัจจัยอื่นที่มีผลกับสิ่งแวดล้อม และการรักษ์โลกมากขึ้นไปด้วย ขณะที่แนวทางการทำงานของบ้านผลไม้ มีความตั้งใจในการทำเกษตรอุตสาหกรรม ที่พัฒนาความเป็นอยู่ของคนในชุมชน และรักษาพื้นที่ทำกินในท้องถิ่นเป็นทุนเดิมแล้ว เราใส่ใจในสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทำให้เรามีการเพิ่มนโยบายในด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

โดยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ธรรมชาติสะอาดที่ไม่ก่อมลพิษ (Green Energy) อย่างตู้อบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Greenhouse Dryer) และเพื่อลดการใช้พลังงานจากแก๊สหุงต้มและไฟฟ้า นอกจากนี้ยังได้ใช้ความรู้เทคโนโลยีในการปรับปรุงพัฒนารูปแบบการอบในตู้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เพิ่มกำลังผลิตได้มีถึง 1.5 เท่าโดยมีประสิทธิการอบสูงสุด

นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงกับชุมชนใกล้เคียงนำของเสียจากการผลิตอย่าง เปลือกผลไม้และเมล็ดผลไม้ไปทำเป็นเชื้อเพลิงพลังงาน หรือเพิ่มมูลค่าเป็นสารปรับปรุงคุณภาพดินให้ชาวบ้านได้นำไปเพาะปลูกต่อ และยังสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ เป็นการหมุนเวียนการใช้งานจากของเสีย (Zero Waste) มุ่งสู่การปฏิบัติตามหลัก BCG Model เพื่อสร้างระบบที่มีการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนในการสร้างรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย

สำหรับเป้าหมายรวมถึงแผนงานในอนาคต กับ S-Curve ใหม่ ๆ คุณสุทัตตา บอกว่า ทางแบรนด์เตรียมการขยายสถานที่ผลิตและพัฒนามาตรฐานในช่วง 3 ปีนี้ เพิ่มกำลังการผลิตได้ 2 เท่า และสามารถขยายตลาดจากการขายปลีกเป็นการผลิตขายแบบ bulk ให้กับกลุ่ม B2B ในอุตสาหกรรมอาหารมากขึ้น และในส่วนของ S-Curve ใหม่ ประกอบธุรกิจตามเทรนด์สุขภาพ และ customize เป็นอาหาร functional food เฉพาะสำหรับผู้บริโภคที่มีความต้องการเฉพาะทางโภชนาการ

ขณะที่ Roadmap ของแบรนด์ คือเรามุ่งมั่นดำเนินธุรกิจต่อไปตามจุดมุ่งหมายเพื่อผลิตผลไม้แปรรูปที่อร่อย เป็นธรรมชาติ มีคุณค่าทางโภชนาการ ดีต่อสุขภาพ และมีความเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ โดยการผลิตได้รับการรับรองในมาตรฐานสากล มีการขายและขยายตลาด ทั้งแบบ B2B ในอุตสาหกรรมอาหาร และ B2C ให้กับผู้บริโภคโดยตรง จำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

และยังคงดำเนินการแบ่งปันความรู้ด้านการเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตรแก่ชุมชน เพื่อสร้างรายได้ พร้อมการสร้างเครือข่ายการผลิต และสร้างระบบแบ่งปันผลกำไรทั้งระบบเพื่อการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน รวมไปถึงพัฒนาโรงงานและระบบการผลิตให้เป็นโรงงานสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อม ตามนโยบาย BCG Model เพื่อสร้างระบบที่มีการพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืนในการสร้างรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย