Esso

ทำไมชื่อใหม่ของ ESSO ถึงต้องเป็น ‘บางจาก ศรีราชา’

ภายหลังจาก บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) หรือ ‘ปั้มบางจาก’ ได้เข้าซื้อกิจการ (Take Over) บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) หรือปั้ม ESSO และชำระเงินทั้งกับผู้ถือหุ้นใหญ่ รวมถึงการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยเสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนต.ค. ทำให้สามารถปิดดีลการซื้อหุ้นได้ทั้งหมด 76.3% นั่นทำให้ บางจาก กลายเป็นเจ้าของ เอสโซ่ เต็มตัว ซึ่งล่าสุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแรกขึ้นทันที นั่นคือการประกาศเปลี่ยนชื่อ และชื่อย่อของเอสโซ่ ซึ่งบางจากได้ส่งคำร้องกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และจะมีผลเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป

ซึ่งทำให้ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์เดิมจาก ESSO เป็น BSRC ซึ่งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะแจ้งวันที่จะเปลี่ยนแปลงชื่อย่อหุ้นอีกครั้ง และภายหลังจากการประกาศเปลี่ยนแปลงชื่อออกมา ก็เกิดเป็นคำถามขึ้นทันทีว่า ทำไมถึงต้องเป็น ‘บางจาก ศรีราชา’ แล้วคำว่า ศรีราชา มาจากอะไร?

โดยที่ ‘Business+’ พบข้อมูลว่า จริงๆ แล้ว ‘เอสโซ่’ คือบริษัทพลังงานจากต่างชาติที่เข้ามาทำตลาดในไทยยาวนานถึง 129 ปี (นับตั้งแต่ปี 2437) แต่ได้มีการซื้อกิจการและเปลี่ยนชื่ออยู่หลายครั้ง ซึ่งชื่อเดิมคือ บริษัท แสตนดาร์ดแว๊คคั่มออยล์ จำกัด และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ บริษัท เอสโซ่ แสตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด โดยที่จุดสำคัญที่นำมาสู่การเปลี่ยนชื่อ เป็นบางจาก ศรีราชา คือ เอสโซ่มีโรงกลั่นน้ำมันอยู่ที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งได้จัดตั้งมานานตั้งแต่ปี 2508 และปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงสุด 174,000 บาร์เรลต่อวัน และถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการกลั่นและค้าน้ำมัน รวมถึงเคมีภัณฑ์แบบครบวงจร ซึ่งมีฐานธุรกิจหลักอยู่ที่ศรีราชา ประกอบไปด้วย โรงกลั่นน้ำมันและโรงงานอะโรเมติกส์ รวมไปถึงหน่วยผลิตยางมะตอยน้ำ

ซึ่งการมีฐานผลิต และโรงกลั่นน้ำมันอยู่ในศรีราชาจำนวนมากและครบวงจรทำให้คาดการณ์ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บางจาก เลือกใช้คำว่า ศรีราชา มาต่อท้าย เพราะเดิมบางจากเองมีเพียงโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง (กำลังการผลิตสูงสุด 120,000 บาร์เรลต่อวัน)

ดังนั้น ภายหลังจากปิดดีลก็ทำให้ BCP ได้กลายมาเป็นเจ้าของโรงกลั่นศรีราชา และคลังน้ำมันบางแห่งของ เอสโซ่ (การพ่วงชื่อว่า ศรีราชา ก็จะทำให้สามารถแยกได้ง่ายว่าส่วนไหนคือบางจาก หรือส่วนไหนคือเอสโซ่เดิม) โดยมีกำลังการกลั่นน้ำมัน (Nameplate Capacity) เพิ่มขึ้นเป็น 2.94 แสนบาร์เรลต่อวัน กลายเป็นโรงกลั่นที่ขนาดกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้สถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ ก็เพิ่มขึ้นเป็น  2,145 สาขา (เทียบปั้มปตท. ขณะนี้อยู่ที่ 2,158 สาขา) แบ่งเป็น สถานีบริการน้ำมันบางจาก 1,343 สาขา รวมกับ สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ 802 สาขา

สำหรับการออกแบบ Logo และชื่อย่อใหม่นั้น นอกจากคำว่า ศรีราชาแล้ว ตัว logo ใหม่ก็สื่อไปถึง ESSO ในตัวย่อของหลักทรัพย์ที่มีชื่อเต็มคือ ‘BRSC’ โดยที่ตัวอักษร RSC นั้นเป็นตัวหนังสือสีแดง ซึ่งเป็นโทนสีของ ESSO นั่นเอง

อ่านคอนเทนต์ย้อนหลังเกี่ยวกับการซื้อกิจการของบางจากกับเอสโซ่ได้ที่ https://www.thebusinessplus.com/bcp-4/ 

https://www.thebusinessplus.com/esso-2/

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ที่มา : bsrc , SET

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#thebusinessplus #ราคาน้ำมัน #BCP #ESSO #ปั๊มบางจาก #ปั๊มเอสโซ่