KnightsBridge มาตรฐานคอนโดยุคใหม่ สำหรับการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ

จุดเด่นในเรื่องของ Design & Space สู่การเซ็ตมาตรฐานใหม่ที่เหนือและแตกต่าง สำหรับคอนโดมิเนียม KnightsBridge เพื่อลูกค้าที่มีระดับ

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แบรนด์หนึ่งจะประสบความสำเร็จในตลาดคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ แต่ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคได้ ทั้งที่แบรนด์มีอายุเพียง 5 ปี

เบื้องหลังสำคัญที่ทำให้คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ แบรนด์ ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) มีความโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่ง และแรงกดดันทางเศรษฐกิจจาก COVID-19 ระลอกใหม่และกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง นั้นเกิดจากวิสัยทัศน์ของ คุณสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด
ในเครือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) 
ผู้พัฒนาที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค

ผลลัพธ์จากการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้แบรนด์ ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) ครองตำแหน่งอันดับ 1 ผลิตภัณฑ์หมวดคอนโดมิเนียมที่มีนวัตกรรมโดดเด่นที่สุดไปครอง

ด้วยการผสมผสานนวัตกรรมที่ทันสมัย ประกอบกับการออกแบบพื้นที่อย่างลงตัว ซึ่งแบรนด์สามารถเรียกได้เต็มปากว่า ตนเองได้ลอยอยู่เหนืออยู่คู่แข่งอื่น ๆ อย่างเฉิดฉายมานานแล้ว

สิ่งที่ทำให้ลูกค้าหลาย ๆ คนเต็มใจจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีและคุ้มค่ากว่านั้น มาจาก 3 แกนหลัก ด้วยการให้ความสำคัญในเรื่องของ Design, Space และ Service

 

คุณสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ในเครือ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เล่าให้ฟังว่า คอนโดมิเนียมไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) วางโพสิชันในระดับไฮเอนด์ ทำให้ต้องตีโจทย์ว่า การเป็นผู้มาทีหลังในกลุ่มนี้ ต้องแตกต่างอย่างไร

จุดเด่นในเรื่องของ Design & Space สู่การเซ็ตมาตรฐานใหม่ที่เหนือและแตกต่าง คือ สิ่งที่แบรนด์ได้ออกแบบจากต้นแบบมาสู่การพัฒนาโครงการภายใต้คอนเซ็ปต์ The Revolutionary of Living

โดยออริจิ้น สร้างความแตกต่างด้วยการออกแบบพื้นที่ (Space) ทั้งภายในและภายนอกให้มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกันทุกมิติ และ สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ด้วย 4 แนวคิดการออกแบบพื้นที่ (Space) 3 มิติ โดยเฉพาะมิติความสูงที่พิเศษกว่าคอนโดทั่วไป ประกอบด้วย

  1. Vertical Space การใช้งานพื้นที่แนวตั้งให้มีประโยชน์สูงสุด เพราะพื้นที่เป็นสิ่งที่มีจำกัด อะไรที่ซ้อนกันได้ก็เอามาซ้อนกัน คล้ายกับการที่ที่ดินมีจำกัด จึงต้องเอาบ้านหลายๆหลังมาซ้อนกันเป็นคอนโด
  2. Value Space การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า แบบไม่เคยปรากฏมาก่อน
  3. More Space การออกแบบให้ผู้อยู่อาศัย ใช้ชีวิตในพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งพื้นที่ภายในห้อง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
  4. Flow Space การเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกอาคาร ด้วยการออกแบบพื้นที่ (Space) ที่มีการเล่นระดับ สร้างความเชื้อเชิญให้เดินไปทำกิจกรรมยังพื้นที่ต่าง ๆ

 

จาก 4 แนวคิดนำไปสู่ Duo Space ห้องเพดานสูง ซึ่งถูกดีไซน์ให้ห้องเปิดโล่ง กว้างสบายไม่อึดอัด เพดานสูง ช่วยทำให้ห้องดูหรู มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และยังเพิ่มการมองเห็นวิวมากกว่าห้องรูปแบบเดิม ๆ

ดังจะเห็นได้จากบนทำเลสุดฮอต KnightsBridge Space พระราม 9, KnightsBridge Space รัชโยธิน และ KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107 ในคอนเซ็ปต์ SPACE MAKES POSSIBLE ให้พื้นที่ที่มากกว่ากับดีไซน์ Duo Space โดยการออกแบบ Layout สไตล์เพดานสูง 4.2 เมตร ไม่ใช่แค่ยูนิตพิเศษ แต่เป็นทั้งโครงการ

รวมถึงการเลือกใช้ดีไซน์ ที่มีการเอาความคลาสสิก มาตีความในรูปแบบใหม่ให้ทันสมัย โดยบุคคลิกของแบรนด์ Knightsbridge สะท้อนถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ในสังคมชั้นสูง ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตในระยะเวลาอันรวดเร็ว และอาศัยอยู่ในย่านหรูหราในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

“ดีเอ็นเอของแบรนด์ KnightsBridge คือการพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับของกลุ่ม HIGH-END เราคัดสรรทำเลที่ตอบโจทย์การเดินทางทุกรูปแบบ พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย หลากหลาย ใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การก่อสร้าง การออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ เพื่อให้ห้องพักอาศัยและตัวโครงการสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง” คุณสิริพงศ์ กล่าว

 

 

นอกเหนือจากจุดเด่นข้างต้น แบรนด์ย่อยแต่ละแบรนด์ยังมีจุดเด่นเพิ่มเติมเป็นของตัวเอง เริ่มจาก KnightsBridge Prime ตอบโจทย์ความเป็นที่สุดในด้านต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่ด้านทำเล (Prime Area) ด้านการออกแบบ (Prime Design) ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก (Prime Facility) เพื่อมอบสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร

อาทิ Auto Parking รองรับการจอดได้ถึง 65%, EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รองรับการเปลี่ยนผ่านแห่งอนาคต, พื้นที่ส่วนกลางถึง 3 ชั้น พร้อมพื้นที่สีเขียวกว่า 1 ไร่, Executive Meeting Room ,Private Meeting Room, Sky Co-Working Space ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่, ห้อง Steam แยกชาย-หญิง, สระว่ายน้ำที่มีส่วน Pool Bar กับ Pool Bed และ Fitness ขนาดกว่า 100 ตร.ม. ในแบบ Double Space ฯลฯ

สิ่งที่คุณสิริพงศ์ บอกกับ Business+ ได้สะท้อนความเป็น Premium และ Good Quality ของแบรนด์ ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) และเราก็ไม่แปลกใจว่า ทำไมยอดขาย 73% สำหรับกลุ่มคอนโดมิเนียม ในไตรมาสแรกปีนี้ ทำให้บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) สร้างผลงานที่โดดเด่นมากทีเดียว