จลาจลคาซัคสถาน ดันราคายูเรเนียมพุ่ง พร้อมทุบ บิตคอยน์ ลงแตะระดับ 43,000 เหรียญ

สำหรับตลาดคริปโตฯ ในตอนนี้ เรียกได้ว่ากราฟกำลังดิ่งเหวรอบใหญ่กันอีกครั้งโดยเฉพาะบิตคอยน์ที่ปรับตัวลงมาแตะระดับ 43,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ โดยมีสาเหตุมาจากสถานการณ์ทางการเมืองในภูมิภาคเอเชีย ที่ล่าสุด ‘คาซัคสถาน’ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเหมืองขุดบิดคอยน์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ถูกชัดดาวระงับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศ ด้วยเหตุความรุนแรงในการประท้วงที่กำลังลุกลามไปทั่วประเทศ

 

โดย คาซัคสถาน ถือเป็นหนึ่งในประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต ที่มีแหล่งทรัพยากรสำคัญของโลกมากมายมหาศาลอย่าง น้ำมันดิบ และธาตุสำคัญต่าง ๆ เช่น ยูเรเนียม ที่กำลังจะเป็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานยุคใหม่ เช่น พลังไฟฟ้านิวเคลียร์ โดย คาซัคสถาน มีกำลังการผลิตแร่ยูเรเนียมคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของกำลังการผลิตรวมทั้งโลกเลยทีเดียว และที่สำหรับได้ขายไปให้กับอุตสาหกรรมสำคัญอย่าง สาธารณูปโภค ในสหรัฐ และที่อื่น ๆ ทั่วโลก

 

และจากเหตุการประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมของภาคประชาชนในเรื่องของราคาน้ำมัน และราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่คาซัคสภานนั้นเป็นแหล่งพลังงาน ที่ส่งออกน้ำมันและก๊าซให้กับทั่วโลก

 

โดยสถานการณ์การประท้วงที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต (เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 18 นาย ผู้ประท้วงถูกจับกุมกว่า 2,000 คน) และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทางด้านรัฐบาลจึงตัดสินใจปิดกั้นการเข้าถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศ เพื่อตัดการติดต่อสาร ส่งผลให้เหล่านักขุนบิดคอยน์ราว 15% ของตลาดคริปโตฯ โลกต้องหยุดชะงักลง

 

และแน่นอนว่าเหมืองขุดบิดคอยน์ขนาดใหญ่ของโลกเช่นนี้ถูกปิดกระทันหัน ส่งผลให้ราคาเหรียญ Bitcoin ดิ่งลงอย่างน่าใจหายด้วยระดับต่ำกว่า 43,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นราคาที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2021 หลังจากก่อนหน้านี้เคยแตะระดับสูงสุดที่ 69,000 ดอลล่าร์สหรัฐมาแล้ว ในช่วงเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา

 

ตอนนี้ทุกคนในประเทศไทยควรจับตาสถานการณ์นี้ให้ดี เพราะเรากำลังจะได้เห็นการทดลองปิดระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อควบคุมข้อมูลข่าวสาร ขณะเดียวกันระบบอินเทอร์เน็ตก็เชื่อมโยงกับระบบการเงินการธนาคารด้วย นั้นหมายความว่าคนในประเทศคาซัคสถานจะไม่สามารถเข้าถึงเงินในบัญชีของตัวเองได้ ซึ่งตรงนี้ คือตัวเร่งความโกลาหลให้กับสถานการณ์ที่เลวร้ายแล้วให้เลวร้ายขึ้นไปอีกจนเข้าสู่ความไร้ระเบียบโดยสิ้นเชิงนั้นเอง 

 

เมื่อมองกลับมาที่บ้านเราความสามัคคีในเวลานี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ทุกคน ทุกฝ่าย จำเป็นต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อประคับประคองสถานการณ์ของประเทศให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ เพื่อไม่ให้เราก้าวเข้าสู่การไร้ระเบียบโดยสมบูรณ์เหมือนประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

 

ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS
.