เกิดกระแสข่าวว่า ‘เจดีดอทคอม’ ซึ่งเป็นบริษัท E-commerce รายใหญ่จากประเทศจีนกำลังอยู่ในระหว่างการซื้อกิจการบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของอังกฤษ ซึ่งการซื้อเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะเป็นการขยายตลาดในประเทศอังกฤษและทำให้ เจดีดอทคอม เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนได้ทันที
โดยสำนักข่าวนิกเกอิเอเชีย อ้างข้อมูลที่มาจากแหล่งข่าวว่า เจดีดอทคอม (JD.Com) ซึ่งทำธุรกิจ E-commerce และบริการโลจิสติกส์รายใหญ่ของจีน (ธุรกิจคล้ายคลึงกับ Amazon) อยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าซื้อกิจการเคอร์รีส (Currys) บริษัทเครือข่ายร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของอังกฤษ หลังจากที่ตลาดในประเทศจีนเกิดการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างมาก
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการคอนเฟิร์มการซื้อกิจการครั้งนี้ โดย JD.Com ได้ระบุว่า “ยังไม่มีการรับประกันว่าจะมีการยื่นข้อเสนอใด ๆ ให้กับเคอร์รีส หรือหากมีการยื่นข้อเสนอไป เงื่อนไขก็ยังไม่แน่นอน จะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้งในช่วงเวลาที่เหมาะสม” เจดีดอทคอมระบุในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน
ทั้งนี้การยื่นข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เจดีดอทคอมสามารถเข้าสู่ตลาดยุโรปได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอังกฤษ เนื่องจากเคอร์รีสมีสาขาทั่วอังกฤษ รวมถึงในไอร์แลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์ ซึ่งความแตกต่างของ 2 บริษัทคือ ยอดขาย 2 ใน 3 ของ Currys มาจากการขายสินค้าหน้าร้าน ซึ่งแตกต่างจาก JD.Com ที่ดำเนินธุรกิจออนไลน์เป็นหลัก
โดยแหล่งข่าวระบุว่า ข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นจากดีลครั้งนี้และจะเกิดเป็น win win strategy คือ การเข้าถึงตลาดยุโรปได้เร็วขึ้น และโอกาสในการนำสินค้าจากยุโรปเข้าสู่จีนมากขึ้น และยังมีการพูดถึงว่า หากการซื้อกิจการเกิดขึ้นจริง ทาง JD.Com อาจจะร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปด้วยการเข้าไปลงทุน หรือสร้างระบบโลจิสติกส์ของตัวเองอีกด้วย
อนึ่งก่อนหน้านี้ JD เคยเข้ามาทำกิจการในประเทศไทย แต่เผชิญกับผลขาดทุนสุทธิจนทำต้องถอนตัวออกจากตลาดไปเมื่อต้นปี 2023
อ่านคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/jdcentral/
ที่มา : IQ
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #JD.Com #เจดีดอทคอม