Hotel

เปิด 4 อันดับโรงแรมที่สามารถทำกำไรสูงสุดในปี 65

ในปี 2565 ที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมยังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยเฉพาะโรงแรมที่มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ถึงแม้ว่าในปีที่แล้ว ภาพรวมของยอดเข้าพักจะฟื้นตัวจากปี 2564 ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้เลย

โดย อัตราเข้าพักแรม (Occupancy Rate) ถูกคาดการณ์ว่าจะกลับสู่อัตราเดิมก่อน COVID-19 หรือราว 60% ได้ในปี 2567 และในปี 2566 ถูกคาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นมาที่ 45% ดังนั้น ผลประกอบการในปี 2565 ของกลุ่มโรงแรม จึงยังไม่ฟื้นตัวมากเท่าที่ควร

ทาง ‘Business+’ ได้รวบรวมข้อมูลผลประกอบการของโรงแรมที่ทำกำไรสุทธิสูงสุด 4 อันดับแรกในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในตลาดหลักทรัพย์ ที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาเป็นที่เรียบร้อย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มี.ค.2566) พบว่า ส่วนใหญ่แล้วกำไรสุทธิสามารถฟื้นตัวได้จากปี 2564 แต่การฟื้นตัวนั้น ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดได้เลย

Hotel.

– บริษัทที่มีกำไรสูงสุดคือ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (CENTEL) เจ้าของโรงแรม Centara Hotels & Resorts ประกาศกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 398.08 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิสูงถึง 1,733.21 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับก่อน COVID-19 มีกำไรสุทธิ 1,744.24 ล้านบาท (ปี 2562)

– อันดับที่ 2 บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR)เจ้าของโรงแรมที่อยู่ในหลากหลายประเทศ ตัวอย่างโรงแรมในประเทศไทย เช่น สันติบุรี เกาะสมุย ,ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ,ทราย ลากูน่า ภูเก็ต ,เนเบอร์ เกาะสมุย บ่อผุด โดย SHR ได้ประกาศกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 14.38 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิสูงถึง 1,234.33 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับก่อน COVID-19 ขาดทุนสุทธิ 466.85 ล้านบาท (ปี 2562)

– อันดับที่ 3 บมจ.ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล (LRH) เจ้าของโรงแรม Laguna Phuket , Banyan Tree Bangkok ,Banyan Tree Phuket ได้ประกาศกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 7.11 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิสูงถึง 1,031.76 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับก่อน COVID-19 มีกำไรสุทธิสูงถึง 364.10 ล้านบาท (ปี 2562)

– อันดับที่ 4 บมจ.วีรันดา รีสอร์ท (VRANDA) เจ้าของโรงแรม Veranda Resort & Villas Hua Hin Cha am

Veranda Hua Hin โดย VRANDA ได้ประกาศกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 1.11 ล้านบาท เทียบกับปี 2564 ที่ขาดทุนสุทธิสูงถึง 107.25 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับก่อน COVID-19 มีกำไรสุทธิสูงถึง 83.19 ล้านบาท (ปี 2562)

สำหรับในปี 2566 เป็นปีที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวถูกมองว่าจะฟื้นตัว หลังจากไทยเปิดประเทศอย่างเต็มที่ และนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศต่างเดินทางกลับเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะมากกว่าปี 2565 เป็นเท่าตัว แต่การฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม และที่พักอาจจะยังไม่ทั่วถึง ซึ่งจะกระจุกอยู่เพียงแค่ในบางจังหวัดเท่านั้น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวไทยเอง อาจจะยังไม่สามารถใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ จากภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป

โดยทาง ‘ศูนย์วิจัยกสิกรไทย’ ยังมีมุมมองที่ระวังต่อการฟื้นตัว โดยอัตราการเข้าพักของสถานพักแรมทั่วประเทศทั้งปี 2566 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 52%-60% ยังต่ำกว่าปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 70.08% ขณะที่รายได้ธุรกิจโรงแรมและที่พักปี 2566 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 แสนล้านบาท ต่ำกว่าก่อนที่จะเกิดการระบาดของ COVID-19 เช่นกัน

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/