DeeMoney Neo App ผู้นำฟินเทคสัญญาติไทย สู่เป้าหมาย ‘Borderless Financial App’

สำหรับผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงิน และการลงทุนแล้ว สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือเรื่องของความรวดเร็วและปลอดภัย เมื่อทำทั้ง 2 สิ่งนี้ให้สมบูรณ์แบบได้ก็จะได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ‘DeeMoney Neo App’ คือผู้นำตลาด Fin Tech สัญชาติไทยที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานของคนไทย และคนที่อยู่ในประเทศไทย ด้วยการพัฒนาระบบและฟังก์ชันใช้งานอยู่ตลอดเวลา ทำให้ลูกค้าเกิดความภักดีต่อแบรนด์ จนเป็นที่มาของรางวัล “ผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินและการลงทุนยอดเยี่ยมแห่งปี”

บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด เจ้าของแอปพลิเคชัน DeeMoney Neo App ซึ่งเป็น Financial Technology (Fin Tech) สัญชาติไทยได้รับใบอนุญาตภายใต้ “ใบอนุญาตบริการโอนเงินระหว่างประเทศที่ไม่ใช่ธนาคาร MT125590013”, “ใบอนุญาตแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ MC125590070”, “ใบอนุญาตการให้บริการโอนเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ บ(4) 033/2561” และ “ใบอนุญาตการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ บ(2) 001/2565” โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งการทำตามกฎเกณฑ์ครบถ้วน พร้อมมีใบอนุญาตรับรอง และการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสทำให้ DeeMoney Neo App กลายเป็นแอปพลิเคชันทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก

คุณอัศวิน พละพงศ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สวัสดีช้อป จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญด้านการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก โดย DeeMoney Neo App เป็นแอปพลิเคชันที่คนไทยทำเองทั้งหมด ตั้งแต่การออกแบบ วางระบบ สร้างระบบ ไปจนถึงการให้บริการ

สำหรับเป้าหมายหลักของ DeeMoney Neo App คือลูกค้าบุคคลที่เป็นคนไทย และเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งทุกคนมีความจำเป็นต้องโอนเงินข้ามประเทศ โดยสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ อัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียม ความรวดเร็ว และความปลอดภัย เพราะเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด หากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และค่าธรรมเนียมต่ำก็จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

เราได้ทำการศึกษาความต้องการของลูกค้าจากแพลตฟอร์มเดิมที่มี จากนั้นจึงเริ่มออกแบบ และสร้างแพลตฟอร์มของตัวเองขึ้นมา โดยคนไทยทั้งหมด เนื่องจากบริษัทฯ ต้องการสร้างแอปพลิเคชันที่ให้บริการด้านการเงินโดยคนไทย สินค้าต้องเป็น Made in Thailand ซึ่ง FinTech ในประเทศไทยสามารถพัฒนาให้เป็นสินค้าที่ยอมรับในตลาดโลก ทั้งนี้ หากเทียบกับธนาคารแล้ว เราถือว่าเป็น FinTech เจ้าแรก ๆ ที่มี Option มากกว่า และเราก็เป็นผู้นำคนแรกที่ Challenge ในธุรกิจนี้ เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสการโอนเงินที่สะดวกสบาย และประหยัดได้มากกว่า

หลักการออกแบบจนกลายมาเป็น DeeMoney Neo App

คุณอัศวิน กล่าวว่า หลักในการออกแบบ DeeMoney Neo App คือ การให้ความสำคัญกับภาษาที่ใช้ในแอปพลิเคชัน และการใช้งานที่ต้องตอบโจทย์ลูกค้าคนไทย หรือคนที่อยู่ในเมืองไทย ซึ่ง DeeMoney Neo App เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ส่งผลให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ตลอดเวลา ดังนั้น ลูกค้าจึงมีความเชื่อถือเพราะสามารถติดตามกระบวนการโอนเงินได้ตลอด

เราให้ความสำคัญกับกฎหมายของประเทศไทย ซึ่ง DeeMoney Neo App ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ทางด้านการเงินครบถ้วน ขณะที่ต้องให้ความสำคัญด้านภาษา ซึ่งต้องตอบโจทย์การใช้งานต้องตอบโจทย์ลูกค้า  เรามีเบอร์โทรศัพท์เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อได้ในเมืองไทย และมี Call Center ที่ให้บริการได้ทั้งหมด 9 ภาษา และสามารถติดต่อได้ในเวลาประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Line หรือ E-mail รวมไปถึงมีสาขาหน้าร้านให้ลูกค้าสามารถเข้ามาติดต่อได้ด้วยเช่นกัน

จุดแข็งของ ‘DeeMoney Neo App’ (ทำเป็นกรอบ)

  1. สกุลเงินที่หลากหลาย
  2. อัตราแลกเปลี่ยนถือว่าดีที่สุดในตลาด
  3. ค่าธรรมเนียมถูกที่สุดในตลาด
  4. มีระบบการโอนเงินที่รวดเร็วที่สุดในตลาด

ลูกค้าที่เคยใช้ DeeMoney Neo App จะรู้ว่า DeeMoney Neo App เป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์ และมีการแนะนำแบบปากต่อปาก หากดูยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจะเห็นว่ายอดดาวน์โหลดเกินแสนครั้ง และเป็นแอปพลิเคชันที่มีเรตติ้งสำหรับแอปพลิเคชันสูงถึง 4.7”

เร่งพัฒนาทุกมิติเพื่อตอบโจทย์ความต้องการโลกอนาคต

คุณอัศวิน กล่าวในตอนท้ายว่า เราให้ความสำคัญกับการวางโครงสร้างตั้งแต่เริ่มต้น โดยผู้พัฒนาต้องวางโครงสร้างให้ถูกต้องเพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต และเราจะพัฒนาระบบอยู่ตลอดทุกเวลา เพราะธุรกิจนี้ไม่สามารถหยุดการพัฒนาได้ นอกจากนี้ยังมีการตั้ง Road Map เป็นระยะเวลา 3 ปี ดังนั้น ในช่วง 3 ปี ทำให้เห็นแผนของการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างชัดเจน

ด้าน คุณศักดิ์ชัย สิริปัญญาวุฒิ Chief Technology Officer (CTO) กล่าวว่า เราสร้างแพลตฟอร์ม DeeMoney Neo App ขึ้นมาเองทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การเก็บข้อมูลทั้ง Inbound และ Outbound และมีโจทย์ว่าต้องทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถต่อยอดได้ นี่คือจุดเริ่มต้นของโจทย์ที่จะสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาใหม่

นอกจากนี้ยังต้องออกแบบให้ดูทันสมัย ใช้งานง่ายสำหรับลูกค้า ที่สำคัญต้องสามารถให้บริการได้ครบวงจร ตั้งแต่การสมัครใช้บริการ ยืนยันตัวตน เก็บเอกสารโดยที่ลูกค้าไม่ต้องเข้ามาที่สาขา และกระบวนการทั้งหมดต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายทุกอย่าง

เราระดมความคิดกันเพื่อหา User Interface ที่ดีที่สุดสำหรับการโอนเงิน นอกจากนี้ลูกค้าจะสามารถเห็นข้อมูลทั้งหมดภายในแอปพลิเคชัน โดยที่ไม่ซ่อนข้อมูลใด ๆ ตามคอนเซปต์ของเราคือ “What You See Is What You Get” ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าจะสามารถเห็นได้เลยว่าถูกหักค่าบริการต่าง ๆ เท่าไหร่ และปลายทางการโอนเงินจะเหลือเท่าไหร่ นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเข้าไปตรวจสอบขั้นตอนของการโอนเงินได้ตลอดเวลาว่าถึงขั้นตอนไหน

ถ้าหากเปรียบเทียบ DeeMoney Neo App กับ FinTech เจ้าอื่นที่มีอยู่ในตลาด จะเห็นได้ว่า DeeMoney Neo App ให้อัตราการแลกเปลี่ยนโอนเงินระหว่างประเทศที่ดีกว่า และคิดค่าธรรมเนียมต่ำกว่า ด้วยเทคโนโลยีที่เราพัฒนาขึ้นมาทำให้ Cost of Operation ต่ำลง และเมื่อต้นทุนของบริษัทน้อยลงก็เท่ากับว่าสามารถส่งต่อ Benefit ให้แก่ลูกค้าในแง่ของค่าบริการที่ต่ำลงได้นั่นเอง

แผนการพัฒนาในอนาคต

เมื่อถามถึงแผนการพัฒนาในอนาคต คุณศักดิ์ชัย กล่าวว่า ยังมีอีกหลายส่วนที่จะสามารถพัฒนา ซึ่งปัจจุบัน DeeMoney Neo App มีเสาหลักคือการโอนเงินระหว่างประเทศ แต่ในอนาคต DeeMoney Neo App  จะกลายเป็น Borderless Financial App และมีกลุ่มเป้าหมายคือ ทุกคนที่ต้องการมีเครื่องมือที่จะบริหารเงินได้ดีขึ้น นอกจากนี้จะขยายตลาดไปยังต่างประเทศอีกมายมาย จากปัจจุบันสามารถโอนเงินไปได้กว่า 40 ประเทศทั่วโลก