สู่เส้นทางเบอร์ 1 ของไฮเออร์ บนแนวคิด ‘นวัตกรรม-ดีไซน์’ : Product Innovation Awards 2020 : รางวัลของใช้ภายในบ้าน ประเภทเครื่องปรับอากาศ

ไฮเออร์ คว้า 2 รางวัลยอดเยี่ยม Product Innovation Awards 2020 ประเภทเครื่องปรับอากาศและตู้เย็น ไปครอง ในฐานะที่สินค้ามีดีไซน์และนวัตกรรม ตอบสนองการบริการเป็นเลิศ

หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ ไฮเออร์’ หรือ บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ก้าวขึ้นไปยืนแถวหน้าของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้สำเร็จ เกิดจากการเตรียมความพร้อม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูจุดขายด้านคุณภาพ ดีไซน์ นวัตกรรมที่ล้ำสมัย และฟังก์ชันที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และพร้อมส่งมอบความสุขรวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนทั่วโลกให้ดีขึ้น

สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ ภายใต้สโลแกน ‘Haier Healthy Air Provider ไฮเออร์มอบอากาศที่บริสุทธ์ ไปพร้อมกับความเย็นให้กับผู้บริโภค’ โดยไฮเออร์ได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อและควบคุมเครื่องปรับอากาศ ผ่านแอปพลิเคชัน Haier Smart Air 2 บนจุดขายด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ ดีไซน์ที่สวยงาม นวัตกรรมล้ำสมัย และฟังก์ชันที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

มร.จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกกับเราว่า Haier Smart Home เป็นสินค้าในคอนเซ็ปต์ใหม่ของไฮเออร์ (Haier) ซึ่งบริษัทฯ มุ่งขยายตลาดไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก กับจุดขายในยุคดิจิทัล โดยจะใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อสร้างความสะดวกสบายและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค ซึ่งเทคโนโลยี IoT ของไฮเออร์จะเป็นในลักษณะ IoT Ecosystem Community แบบ win-win หรือที่เรียกว่าแผนธุรกิจที่เอื้อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย

ทั้งนี้ เทคโนโลยี IoT ที่เชื่อมต่อกับธุรกิจเครื่องปรับอากาศ รุ่น Puri Cool VIP Series มีให้เลือก 3 ขนาด ประกอบด้วย ขนาด 10,000 BTU, 13,000 BTU และ 18,000 BTU ซึ่งผู้บริโภคโหวตให้เป็นสินค้านวัตกรรมดีเด่นอันดับ 1 จากเหตุผลที่ว่า “เป็นผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างสะดวกสบายมากขึ้น” โดยไฮเออร์ติดตั้งเทคโนโลยี ที่สามารถเชื่อมต่อเครื่องปรับอากาศกับสมาร์ทโฟน จึงทำให้สามารถสั่งการเครื่องปรับอากาศผ่านแอปฯ ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้

เครื่องปรับอากาศ รุ่น Puri Cool VIP Series จะเชื่อมต่อกับแอปฯ บนสมาร์ทโฟน สามารถควบคุมตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศได้ทุกอย่าง จากทุกที่ ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้านก็สั่งงานเครื่องปรับอากาศของคุณได้ เช่น การตั้งค่า เปิดปิดเครื่อง ไปจนถึงการควบคุมเครื่อง ปรับทิศทางลม ปรับอุณหภูมิ และนอกจากนี้ยังมีแอปฯ Haier Smart Life ที่จะมาช่วยตอบโจทย์ลูกค้าแอร์ไฮเออร์ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการรวบรวมข้อมูลของแอร์ต่าง ๆ เช่น Error code (รหัสข้อผิดพลาด) ซึ่งจะขึ้นโชว์บนตัวเครื่องเมื่อแอร์มีปัญหา จึงสามารถรู้ปัญหาเบื้องต้นได้ และในอนาคตก็ยังจะสามารถแจ้งซ่อมผ่านแอปฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศรุ่น Puri Cool Series มาพร้อมเทคโนโลยี Self-Purify ฟอกอากาศและสามารถกรองฝุ่นได้เล็กถึง 0.3 ไมครอน เล็กกว่า PM2.5 ถึง 8 เท่า กรองฝุ่นได้ 99.99% ด้วย Super IFD ฟิลเตอร์ที่ช่วยกรองมลพิษในอากาศ และดักจับฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับเครื่องฟอกอากาศ เสริมฟังก์ชันเพื่อสุขภาพยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Self-Cleaning หนึ่งเดียวที่เครื่องปรับอากาศสามารถล้างตัวเองได้ ใช้เวลาเพียง 20 นาที

ผู้ใช้จึงสามารถล้างแอร์ได้เองตามจำนวนครั้งที่ต้องการ และส่งผลดีต่อสุขภาพเพราะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจสะสมอยู่บนคอยล์เย็น ทำให้แอร์สะอาดอยู่ตลอด และช่วยยืดเวลาในการเรียกช่างแอร์ให้ไม่ต้องมาล้างบ่อย ๆ

นอกจากฟีเจอร์ที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว ยังมีฟังก์ชันควบคุมความชื้นอย่างแม่นยำ ด้วยเทคโนโลยี Dehumidification ทำให้ผิวไม่แห้งจนเกินไป และไม่รู้สึกเหนียวตัวจากความชื้น ทำให้ช่วยป้องกันการเป็นหวัดได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามีฟังก์ชันเพื่อสุขภาพครบจบอยู่ในเครื่องปรับอากาศเพียงเครื่องเดียว ตามสโลแกน ‘เลือกเย็นแบบสุขภาพเลือกแอร์ไฮเออร์’

และที่เป็นไฮไลท์ในเรื่องของการประหยัดพลังงาน เครื่องปรับอากาศรุ่นนี้ก็ยังมีเทคโนโลยี Human Sensor เซนเซอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับจำนวนสมาชิกภายในห้องเพื่อเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน อีกทั้งเครื่องปรับอากาศรุ่น Puri Cool VIP series นี้ยังใช้น้ำยาทำความเย็นแบบ R32 ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยสาร CFC ที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า จากผลการสำรวจข้อมูลจากผู้บริโภค ไฮเออร์ คือแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 11 ปีซ้อน และในประเทศไทย มร. จาง ตั้งเป้าให้แบรนด์ไฮเออร์ขึ้นอันดับ 1 ในทุกกลุ่มสินค้าภายใน 3 ปีจากนี้