อนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม นำ Aurora ฝ่าวิกฤตทุกความท้าทาย

ปีที่ผ่านมา ทุกองค์กรต่างฝ่าวิกฤตระดับโลกอย่าง COVID-19 แต่สำหรับร้านเพชรทองออโรร่า (Aurora) ต้องเผชิญความท้าทาย 2 ระลอก

 

  1. กระแสลงทุนสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin เพิ่มขึ้นทั่วโลก แม้ราคาในตอนนี้ จะทำสถิติราคาร่วงลง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า พลังของสกุลเงินดิจิทัลนี้ ได้ท้าทาย ‘ทองคำ’ พอสมควร
  2.  COVID-19 ทำให้ผู้จำหน่าย ผู้ผลิตทองคำหลายราย ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ต้องปรับองค์กรและแผนธุรกิจกันใหม่ แต่ ออโรร่า (Aurora) โดยทายาทรุ่นสอง คุณอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม กลับนำ Aurora ฝ่าวิกฤตที่ใหญ่หลวงนี้มาได้

 

“เป็นปีแห่งความท้าทายยิ่งสำหรับเรา ทั้งกระแสลงทุนสกุลเงินดิจิทัล Bitcoin เพราะต้องยอมรับว่า ถูกนำไปเปรียบเทียบ ขณะที่ COVID-19 ทำให้ผู้จำหน่าย ผู้ผลิต ทองคำ หลายรายไม่รับซื้อทองจากลูกค้า แต่เรารับซื้อคืนทั้งหมด หมายความว่า สิ่งที่เราให้คำมั่นกับลูกค้ามาตลอด 48 ปี วันนี้เรายังยึดมั่นในปรัชญานั้นอย่างมั่นคง แต่ก็ต้องยอมรับว่า เราก็ประสบปัญหาเหมือนกัน

 

รายได้อาจไม่ดีเท่าปีก่อนหน้า แต่เรามองในองค์รวมมากกว่า หมายถึง เรามองและให้ความสำคัญกับลูกค้ามาอันดับแรก วัดได้จากมาตรฐานการผลิตทองคำในรูปแบบใหม่ ๆ จากนวัตกรรมอันทันสมัย สัมผัสได้จากคอลเลคชันรูปแบบต่าง ๆ ยังคงทยอยออกมาเป็นระยะ ๆ  ขณะที่ การบริการหลังการขาย ถือเป็นอีกจุดสำเร็จของแบรนด์ ทั้งการออกใบรับประกัน 3 รูปแบบ ทั้งออกใบปรับประกัน ทองคำ แท้ 96.5%, ใบรับประกันสำหรับการล้าง ซ่อม ต่อทองฟรี ตลอดอายุการใช้งาน

 

และใบรับประกันซื้อทองคืนในราคาสูงสุดตั้งแต่ -3% จนถึง -10% ตามที่ทาง สคบ.กำหนด ซึ่งก็ต้องบอกว่า ยังไม่มีผู้ประกอบการร้านค้าทองคำรายใดในประเทศไทย ที่กล้ารับประกันได้ครบทั้ง 3 เรื่องเช่นนี้ ซึ่งผมมองว่า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร้านเพชรทองออโรร่า (Aurora) ฝ่าวิกฤตใหญ่ในปีที่ผ่านมาได้” คุณอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด ระบุ พร้อมกับบอกว่า

 

 

“ที่ผ่านมาทุกครั้ง ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตเล็ก หรือใหญ่ แต่จุดที่ทำให้องค์กรนี้ (Aurora) ก้าวข้ามมาอย่างมั่นคง เกิดจาก 2 องค์ประกอบสำคัญ นั่นคือ 1. ลูกค้า ‘เชื่อมั่น’ ในแบรนด์ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระดับสูงสุดให้แก่ลูกค้าตลอดไป การรักษาชื่อเสียงของแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้านึกถึงเราเป็นแบรนด์แรกเมื่อต้องการซื้อทองคำ

 

และองค์ประกอบที่ 2 คือ โปรดักต์ ที่มีความหลากหลายครอบคลุม 3 กลุ่มลูกค้า ได้แก่กลุ่ม Young Gen อายุ 20 – 30 ปี กลุ่ม Urban Life อายุ 31 – 40 ปี และกลุ่ม Middle Age อายุ 41 – 55 ปี โดยกลยุทธ์ในการพัฒนาสินค้าและบริการให้เป็นนวัตกรรมนั้น ทางแบรนด์ได้มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง (Differentiate Strategy) ลงไปในทุกรายละเอียดของสินค้าในทุกมุมมอง โดยเฉพาะมุมมองของลูกค้าเป็นสำคัญ เพื่อพัฒนาสินค้าได้อย่างตรงโจทย์ความต้องการในการสวมใส่เครื่องประดับหรือใช้งานได้จริง ภายใต้มาตรฐานทองคำแท้ระดับโลก

ออโรร่าทำความเข้าใจในความชอบที่แตกต่างกันของทุกช่วงวัย อันส่งผลถึงการออกแบบดีไซน์ที่ต้องการความเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เช่น กลุ่ม Young Gen จะชอบเครื่องประดับเส้นเล็ก มีจี้ มีตุ้งติ้ง สามารถใส่ได้ในทุกวัน หรืออย่างกลุ่ม Urban Life จะชอบแบบไม่ซ้ำใคร แตกต่างในลวดลาย เราต้องดีไซน์แบบ Customize ได้ สั้นยาวเล็กแคบ ต้องตอบโจทย์ได้หมด เป็นต้น

และภายใต้การดำเนินงานที่มุ่งเน้นการพัฒนามาตรฐานให้ดียิ่งขึ้น นอกจากแบรนด์ Aurora ได้รับการการันตีความสำเร็จด้วยรางวัลระดับโลกถึง 4 ปี ซ้อน  ‘World Branding Awards สาขา Brand Of The Year’ จัดขึ้นโดย World Branding Forum โดยมีเกณฑ์พิจารณาตัดสินผ่านการให้คะแนนจาก 3 ด้านประกอบกัน ได้แก่ การประเมินแบรนด์ (Brand Evaluation) การวิจัยตลาดผู้บริโภค (Consumer Market Research) และการโหวตออนไลน์ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมลงคะแนน (Public Online) ซึ่งแบรนด์ Aurora เป็นร้านทองแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับรางวัลระดับโลกนี้

ล่าสุด แบรนด์ Aurora รับรางวัลชนะเลิศด้านวัตกรรม จากโครงการ Product Innovation Awards 2021 และ No.1 Brand In Thailand 2021 หมวด Gold Shop จากนิตยสาร Marketeer ไปครองอีก 2 รางวัล

ต่อไปนี้หากคิดจะหาของขวัญที่มีคุณค่าอย่างแท้จริงสักชิ้น ทองคำคงจะกลายเป็นทางเลือกลำดับแรก ๆ เป็นแน่ เพราะทองคำสามารถแปรเปลี่ยนเป็นสภาพคล่องได้ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ดังนั้นหากคิดจะซื้อทองคำ ออโรร่าจึงกลายเป็นร้านทองลำดับแรกและร้านเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลการันตีระดับประเทศและระดับโลก ที่ทุกคนมั่นใจและเชื่อใจได้อย่างแท้จริงตามคอนเซปท์ของแบรนด์ที่ว่า ‘ของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า’