ความลับของ TSMC ผู้ผลิตชิปเซ็ตยักษ์ใหญ่ของโลก กับแผนการมูลค่า 100,000 ล้านเหรียญ

ชิปเซ็ต อยู่ในทุก ๆ สิ่ง พวกมันกำลังขาดแคลนภายใต้สถานการณ์โรคระบาด และนั้นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเราในตอนนี้ที่คิดจะซื้อรถยนต์หรือเครื่องเล่นเกม PS5 ต่างก็ยากจะหาสิ้นค้าได้ การเป็นบริษัทที่ผลิตชิปกว่า 24% ของทั้งโลก และ 90% ของชิประดับสูง และเป็นชิปที่มีขนาดเล็กมากและเร็วมากซึ่งถูกใช้งานในสมาร์ทโฟนชื่อดังอย่าง ไอโฟน ในทุกวันนี้ รวมไปถึง ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ และรถยนต์อัจฉริยะ

นาย Rick Cassidy ประธานและซีอีโอของ TSMC Arizona ในอเมริกา (ทำงานกับ TSMC มา 23 ปีแล้ว) เผยว่า “พวกเรามีผลิตภัณฑ์ที่ได้นำไปใช้ในดาวอังคารครั้งล่าสุด และถ่ายรูปดาวอังคาร” Taiwan Semiconductor Manufacturing หรือ TSMC นั้นนอกจากจะทำชิปให้กับไอโฟนใหม่ ๆ แล้ว พวกเขายังผลิตชิปให้กับเครื่องบินรบของสหรัฐ โดยชิปที่ของพวกเขาเป็นหน่วยประมวลผลกลางในระดับสูง ตอนนี้พวกเขากำลังลงทุนมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน 3 ปีจากนี้เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตท่ามกลางการขาแคลนชองชิป “หากรวมผลลัพธ์ทั้งหมดพวกเรากำลังจะผลิตชิปได้มากกว่า 12 ล้าน Wafers ต่อปี”

ภายใต้ความไว้ใจในระดับโลกที่มีให้กับทาง TSMC กำลังจะทำให้ซัพพลายของชิปเปราะบาง ขาดแคลน และสร้างความตึงเครียดให้กับการเมืองระหว่างประเทศ พวกเราแทบจะผูดขาดตำแหน่งผู้นำ และทั้งหมดของการดำเนินการผลิตชิป นั้นทำให้ไต้หวันกลายเป็นชาติสำคัญของสหรัฐ รวมไปถึงโลกตะวันตก จนกระทั่งถึงตอนนี้ TSMC ยังคงปิดโรงงานผลิตชิปในสหรัฐ คุณ Tony Chen ซึ่งเป็น Technical Director TSMC เผยว่า “โรงงานที่สหรัฐมีพื้นที่ประมาณราว ๆ 2.3 ล้านตารางฟุต” สหรัฐ ถือเป็นบ้านเกิดของซิลิคอนระดับสูง แต่หลายทศวรรษที่ผ่านมามันได้สูญเสียตลาดไปให้กับเอเชีย ที่ซึ่งตอนนี้ผลิจชิปคิดเป็นมากกว่า 75% ในตอนนี้

TSMC กำลังจะนำชิประดับสูงของโลกกลับไปที่สหรัฐพร้อมกับโรงงานมูลค่ากว่า 12,000ล้านดอลลาร์สหรัฐในกลางทะเลทรายอริโซน่า ตอนนี้มันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และน่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในปี 2024 ซึ่งจะเป็นการผลิตชิปที่มีเทคโนโลยีระดับสูงที่สุดในปีสหรัฐอเมริกา

ทำไม TSMC จึงลงทุนในสหรัฐ

เมื่อตอนที่คุณมอร์ริส ชาง (นักธุรกิจชาวไต้หวัน-อเมริกัน ที่สร้างอาชีพในสหรัฐอเมริกาและไต้หวัน เขาเป็นผู้ก่อตั้ง ตลอดจนอดีตประธานและซีอีโอของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company, เกิดที่จีน เรียน ฮาร์วาร์ด เอ็มไอที และสแตนฟอร์ด) ได้เสนอไอเดียแรกสำหรับ TSMC ในช่วงกลางทศวรรษ 80 นักลงทุนต่างตั้งข้อสงสัย หลังจากคุณมอร์ริส ชาง ทำงานที่บริษัท Texas Instruments 25 ปี เขาก็ย้ายไปอยู่ที่ไต้หวัน และถูกรัฐบาลร้องขอให้ตั้งบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing ก่อนจะกลายมาเป็นผู้นำของโลกในวันนี้

ไอเดียของเขาในตอนนั้น มุ่งอยู่ที่แค่การผลิตเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในตอนนี้ว่า Pure-Play Foundry “เมื่อคุณมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมันจะทำให้คุณทำได้ดี พวกเราใส่ทุกอย่างที่เรามีลงไปในแค่หนึ่งสิ่ง” นาย Rick Cassidy ประธานและซีอีโอของ TSMC Arizona ในอเมริกา กล่าว คุณมอร์ริส ชาง เดิมพันครั้งใหญ่บนความจำเป็นซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ในช่วงทศวรรษ 80 ตอนที่ก่อตั้งบริษัทในช่วง 1987 ยักษ์ใหญ่อย่าง Intel และ Texas Instruments ภูมิใจในการออกแบบและทำการผลิตชิปด้วยตัวพวกเขาเอง นั้นทำให้ตอนที่ผู้ก่อตั้งบริษัทอย่างคุณมอร์ริส ชาง ออกไปหาเงินทุนจากบริษัทจำนวนมาก พวกเขาบอกว่าไอเดียนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ และต่อให้สำเร็จมันก็ไม่สามารถจะขยายออกไปได้อยู่ดี

พร้อมการกับทำชิปที่ซับซ้อนมากขึ้น การทำมันกลายเป็นภาระอันหนักหนา การสร้างโรงงานในวันนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี และเงินทุนมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทชิปยักษ์ใหญ่อย่าง Intel, NVIDIA, Broadcom, Qualcomm และ AMD จะทำมันทั้งหมดเองพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูงไปด้วย

ยกตัวอย่าง Intel

ทุกวันนี้ Intel ยังคงออกแบบและผลิตชิปด้วยตัวพวกเขาเอง และนั้นทำให้ตอนนี้พวกเขาล้าหลังบริษัทอย่าง Samsung และ TSMC ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่พึ่งพาการผลิตชิปจากฝั่งของ TSMC “ถ้าคุณคือนักออกแบบที่หลักแหลม คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินพันล้านดอลลาร์สหรัฐและโรงงานอยู่ด้านหลังคุณ สำหรับครั้งแรกของการปรากฎตัวของทาง TSMC”

ณ ตอนนี้ขั้นตอนสำคัญ ๆ ของการผลิตชิปถูกควบคุมโดยบริษัทที่หลากหลายอย่าง ARM และ MIPS ที่มุ่งอยู่กับ IP และสถาปัตยกรรม ที่ได้สร้างบล็อกสำหรับออกแบบชิป ต่อจากนั้นก็จะเป็น Electronic design automation (EDA) อย่างบริษัท Cadence และ Synopsis ซึ่งเขียนซอฟต์แวร์สำหรับออกแบบชิป แต่มีแค่บริษัทเดียวนั้นก็คือ ASML ที่ทำเงินกว่า 180 ล้านดลลาร์สหรัฐบนเครื่องจักรที่เรียกว่า Extreme Ultraviolet light Machines โดยใช้แสงในการแกะสลักออกแบบชิปที่มีเทคโนโลยีระดับสูงจำนวนมาก นอกจกานี้ก็มีบริษัทที่ไม่มีโรงงานผลิตชิปและออกแบบชิปเองจำนวนมากอย่าง Apple, Qualcomm, NVIDIA และอื่น ๆ อีกจำนวนมาก และบริษัทเหล่านี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งนั้นก็ทำให้ TSMC เข้ามาช่วยอุดช่องว่างตรงจุดนี้

นั้นทำให้ TSMC กระโดดเข้าคว้าตลาดแห่งนี้และเดินหน้าไปสู่การแซงเจ้าตลาดเดิมอย่าง Intel และกลายเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีการผลิตระดับสูงของโลกในวันนี้ รวมไปถึงมูลค่าบริษัทก็ติดอยู่ 1 ใน 10 ของบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกตอนนี้

TSMC จดทะเบียนในตลาดหุ้นไต้หวันปี 1994 และในปี 1997 มันกลายเป็นบริษัทแรกจากไต้หวันที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และในปี 2000 บริษัทกลายเป็นหนึ่งใน 20 บริษัทที่ผลิตชิประดับสูงของโลก พร้อมกับการเวลาที่เคลื่อนคล้อยไปบริษัทจำนวนมากถูกทิ้งไว้ข้างหลังในวันนี้ หรือเพียงแค่ 2 บริษัทเท่านั้นที่ยังคงสามารถทำชิประดับสูงขนาด 5 นาโนเมตรได้ในวันนี้คือ TSMC และ Samsung ในปี 2013 บริษัท Apple พึ่งพา TSMC ในการผลิตชิปซีรีย์ A สำหรับไอโฟน หลังตีตัวออกห่าง Samsung ซึ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงในตลาดสมาร์ทโฟน นอกจากนั้นแล้ว Apple ก็พาตัวออกห่าง Intel ด้วยเช่นกันหลังเป็นพันธมิตรกันมากว่า 15 ปี ทำให้ตอนนี้ไอโฟนทุกเครื่องของ Apple จะมีชิปที่ผลิตจาก TSMC อยู่ภายในเป็นจำนวนมาก

คุณ Joanne Itow ซึ่งเป็น Manufacturing Managing Director ของ Semico Research “TSMC ยังคงเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง (ในที่นี้หมายถึงได้รับเครดิตน้อยกว่าที่ควรจะเป็น) Apple จะได้รับเครดิตเมื่อไอโฟนตัวใหม่ของเพวกเขามีการเปิดตัว” ด้านนาย Rick Cassidy ประธานและซีอีโอของ TSMC Arizona ในอเมริกา บอกว่า “พวกเราปล่อยให้ผลิตภัณฑ์ของพวกเราพูดแทนด้วยตัวมันเอง ความสำเร็จของพวกมันได้นำทั้งหมดไปสู่ธุรกิจซึ่งพวกเราก็หวังแบบนั้นมาตลอด”

แปลและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ที่มา : CNBC