เข้าจุด Start!! ก.ล.ต.ไฟเขียวไฟลิ่ง ‘บริทาเนีย’ บริษัทลูก ORI อสังหาฯ น้องใหม่โปรไฟล์ไม่ธรรมดา

หลังจากที่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อ Spin-Off บริษัทย่อยอย่าง บริษัท บริทาเนีย จํากัด (มหาชน) หรือ BRI เมื่อช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด ‘บริทาเนีย’ ได้รับการการอนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงาน ก.ล.ต. สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และก.ล.ต.ได้นับหนึ่งไฟลิ่งไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2564 เพื่อเสนอขายหุ้น IPO และเข้าซื้อขายใน SET หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วยเกณฑ์เกณฑ์กำไร (Profit Test)

โดยธุรกิจของ ‘บริทาเนีย’ เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และทาวน์เฮ้าส์ และอสังหาริมทรัพย์อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 252,650,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 29.6% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้

ซึ่งก่อนการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชน ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 100% และภายหลังการเสนอขายจะเหลือถือหุ้น 70.37%

สำหรับรายได้ของ ‘บริทาเนีย’ 3 ปีย้อนหลังถือว่าเติบโตอย่างโดดเด่น ถึงแม้จะเจอกับผลกระทบโควิด-19 ในปี 2563 แต่รายได้และกำไรสุทธิก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
– รายได้ปี 2561 อยู่ที่ 515.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 71.65 ล้านบาท
– รายได้ปี 2562 อยู่ที่ 1,561.01 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 207.14 ล้านบาท
– รายได้ปี 2563 อยู่ที่ 2,342.09 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 348.72 ล้านบาท
– รายได้ครึ่งปี 2564 อยู่ที่ 1,761.04 ล้านบาท จากครึ่งปี 2563 ที่ 1,300.43 ล้านบาท (+35.42%) และมีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ที่ 287.71 ล้านบาท

ด้านอัตราส่วนทางการเงินถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
– อัตรากำไรขั้นต้นล่าสุด 31.88%
– อัตรากำไรสุทธิ 16.34% แสดงให้เห็นว่าความสามารถในการทำกำไรสุทธิค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 10.35%
– อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 5.12 เท่า ถึงแม้จะมีหนี้สินมากกว่าส่วนของผู้ถือหุ้นถึง 5 เท่า แต่ถือว่าลดลงมาอย่างต่อเนื่องจากปี 2562 สูงถึง 9.98 เท่า (ค่าเฉลี่ยกลุ่ม 1.25 เท่า)
– อัตราส่วนสภาพคล่องถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีที่ 1.26 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ มีความสามารถในการใช้คืนหนี้ระยะสั้นสูง มีความคล่องตัวมาก
– อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ 7.95% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี และสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มซึ่งอยู่ที่ 4.12%
ขณะที่บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปี

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ในแง่ของการสร้างรายได้ กำไรสุทธิ รวมไปถึงอัตราส่วนทางการเงินของ บริทาเนีย โดดเด่นเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มอสังหาฯ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยกัน แต่อย่าลืมว่า ทุกธุรกิจย่อมมีความเสี่ยงเป็นของคู่กัน

โดย ‘บริทาเนีย’ ยังมีความความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หลัก ๆ เป็นเรื่องของความเสี่ยงจากการที่บริษัทฯ มีรายได้หลักจากโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านแนวราบชนิด ซึ่งหากมีผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ เช่น นโบบายการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน ก็จะกระทบทันที

และยังมีความเสี่ยงจากแนวโน้มต้นทุนการก่อสร้าง ราคาวัสดุก่อสร้าง และต้นทุนค่าแรงที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงาน และแรงงานฝีมือ และความเสี่ยงจากการแข่งขันสูงในอุตสาหกรรม ภัยธรรมชาติ ตลาดการเงิน และปัจจัยมหภาคอื่น ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนเข้าลงทุนทั้งสิ้น

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ข้อมูล : BRI ,SET

ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #BRI #SET