Silverlake ผู้นำด้านระบบ Core Banking

IDC ได้วิจัยและสรุปผลว่า ระบบหลักของธนาคารหรือ Core Banking จะต้องได้รับการปรับเปลี่ยนเนื่องมาจากความต้องการให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้ โดยต้องอาศัยสะพานเชื่อมระหว่างการสร้างการเติบโตทางธุรกิจกับความสามารถในระยะยาวของแพล็ตฟอร์มดิจิทัลของระบบธนาคารหลัก และต้องมั่นใจได้ว่า ระบบธนาคารจะสามารถใช้ได้ทั้งในปัจจุบันและรองรับความต้องการหลัก ๆ ของธนาคารที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส จํากัด (Silverlake Axis Lid. หรือ “SAL”) เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนใลยี ซอฟต์แวร์ และบริการสําหรับองค์กรขนาดใหญ่ โดยมุ่งเน้นด้านบริการทางการเงิน ซึ่งลูกค้ากว่าร้อยละ 40 เป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 20 อันดับแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 โดย Mr.Peng Ooi Goh ผู้ก่อตั้งและ Group Executive Chairman ในปัจจุบันมีลูกค้าองค์กร มากกว่า 380 รายในกว่า 80 ประเทศทั่วเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกา โดย ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มาเลเซีย และได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

คุณอูรชา พงษ์วัฒนา CEO-North ASEAN, PH, LK บริษัท ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส กล่าวว่า “ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส ดําเนินธุรกิจมากว่า 35 ปี เป็นผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีบริการหลักของธนาคาร หรือ Core Banking ที่มีประสบการณ์สูง เราไม่ใช่ System Integrator แต่เราเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาทางเทคโนโลยี มีทีมนักพัฒนา (Developer) และผู้ติดตั้งระบบ (Implementor) ของเราเองทั้งหมด จึงสามารถให้บริการลูกค้าในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เนื่องจากเรามีพนักงานคนไทยที่สามารถสื่อสารและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการทํางานที่ใกล้ ชิดกับสํานักงานใหญ่ จึงสามารถประสานการทํางานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ลูกค้าจึงมั่นใจได้ทั้งเทคโนโลยีและบริการที่เป็นเลิศที่มีมาอย่างต่อเนื่้องของเรา ด้วยความโดดเด่นใน 3 ด้านได้แก่

Experience – เรามีประสบการณ์ในการติดตั้งระบบ ไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทย หรืออาเซียนเท่านั้น แต่กว่า 8o ประเทศทั่วโลก

Expertise – เรามีความเชี่ยวชาญชํานาญ เพราะเราเน้นเทคโนโลยีสำหรับสถาบันการเงินเท่านั้น ไม่ได้แยกไปทําด้านอื่น ๆ จึงเข้าใจความต้องการ และพร้อมพัฒนาร่วมไปกับลูกค้า

Execution – เราให้บริการตั้งแต่เริ่มต้นจนโครงการสําเร็จ แม้ในเวลาที่จําเป็น ไม่เคยทิ้งงาน

จากหลักการทำงานของเราทำให้ปัจจุบันเทคโนโลยีบริการหลักของธนาคาร ของซิลเวอร์เลค แอ็คซิส ได้รับความไว้วางใจจากธนาคารไทย ทั้งธนาคารของรัฐ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) ธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และบริการทาง การเงิน อาทิ Cardx และ Autox

คุณอูรชา ให้ข้อมูลเพิ่มว่า “สําหรับโชลูชันที่ ซิลเวอร์เลค แอ็คซิส ให้บริการ อยู่ในตลาดประเทศไทย มีด้วยกัน 3 แพล็ตฟอร์ม ได้แก่ Silverlake Axis Integrated Banking Solution (SIBS) ซึ่งเป็นระบบ Core Banking หลักของบริษัทที่มีการพัฒนามาต่อเนื่อง มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัย เป็นระบบที่พร้อมรองรับการขยายตัว เมื่อเปรียบเทียบกับ ระบบเมนเฟรมที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และดูแลรักษายากกว่า

Silverlake Digital Banking MÖBIUS Open Banking Platform เป็นแพลตฟอร์มสําหรับธนาคารในอนาคต 4th Generation โดยสร้างและออกแบบบนเนทีฟคลาวด์ ซึ่งสามารถทํางานได้ทั้งบน Public Cloud และ Private Cloud และ Silverlake Symmetri Retail Banking and Card Solutions ซึ่งทํางานอยู่บนระบบ UNIX มีเสถียรภาพสูง สามารถรองรับการขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เป็นระบบที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในตลาด ทั้งหมดขึ้นอยู่กับทางเลือกของลูกค้า ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยีทั้งหมด หรือพัฒนาบางส่วน ด้วยระบบที่มีความยืดหยุ่น รองรับความต้องการลูกค้าที่แตกต่างกัน”

ความสําเร็จของลูกค้า คือความสําเร็จของซิลเวอร์เลค

ตลอดเวลากว่า 35 ปี ซิลเวอร์เลคได้ขยายการให้บริการและเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 1989-2010 มีลูกค้าทั้งหมด 24 สถาบันการเงินใน 38 ประเทศ ในขณะที่ปี 2011-2021 มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 25 ราย อีก 30 ประเทศ มีการเติบโตเกือบ 100% ส่วนบริการ Channel /Front End เพิ่มการเติบโต 380% และบริการ Card เพิ่มขึ้นเกือบ 300%

ทั้งนี้ 2 ใน 3 ของธนาคารขนาดใหญ่ในสิงคโปร์ เลือกใช้ระบบของซิลเวอร์เลค นอกจากนี้ ธนาคารใหญ่ ๆ ในภูมิภาค ก็เลือกใช้ One Platform ซึ่งสามารถรองรับการทํางานของสาขาในหลายประเทศ โดยโฮสติ้งระบบไว้ที่สํานักงานใหญ่ที่เดียว โดยมีความยืดหยุ่นต่อกฎเกณฑ์ของประเทศต่าง ๆ จึงตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละประเทศได้ ช่วยประหยัดเวลาและ ค่าใช้จ่าย ทันต่อการแข่งขันทางการตลาด

ร่วมปรับเปลี่ยน Core Banking ธนาคารไทย

ในประเทศไทย ซิลเวอร์เลคให้บริการลูกค้ามา อย่างต่อเนื่อง ปี 2018 ปรับเปลี่ยนระบบบริหารหลักให้ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 หลังจากนั้น 3 เดือน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ขึ้นระบบใน วันที่ 10 มีนาคม 2019 ซิลเวอร์เลคก็สามารถทําได้เพราะมีบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากพอที่สามารถอิมพลีเมนต์พร้อมกัน ได้ 2 ระบบในระยะเวลาใกล้กัน จากความสําเร็จดังกล่าว ซิลเวอร์เลคจึงได้รับความไว้วางใจให้ดูแลระบบของธนาคารอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2030

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D Bank ประสบปัญหาในการเปลี่ยน ICore Banking มา 3 รอบ ใน 10 ปี จนมาเลือกใช้บริการของซิลเวอร์เลค ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2024 จึงพร้อมขึ้นระบบ Core Banking อย่างเป็นทางการ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของธนาคารในการบริการลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ

เดือนพฤศจิกายน 2024 CardX บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ได้ประสบความสําเร็จในการยกระดับประสบการณ์การให้บริการบัตรเครดิต และสินเชื่อสวนบุคคล ด้วยการอิมพลีเมนต์แพลตฟอร์ม การออกบัตรดิจิทัลรุ่นที่ 4 อย่างเต็มรูปแบบบนพับลิกคลาวด์เป็นรายแรกในประเทศไทย (First fully 4th Generation Digital Card Issuing Platform on Public Cloud)

ตอบสนองการดำเนินของธนาคารสู่อนาคต

โซลูชันการธนาคารของซิลเวอร์เลคนําเสนอฟังก์ชันการทํางานแบบ end-to-end สําหรับลูกค้า ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงินและธนาคารพาณิชย์ ที่ต้องการระบบอัตโนมัติทั่วทั้งองค์กร และมีความยึดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ได้รับการออกแบบมาสำหรับสถาบันการเงินที่มุ่งเน้นการเติบโตในเชิงพาณิชย์ รวมถึงธนาคารชุมชนและสถาบันการเงินระดับกลาง

เมื่อมีการใช้งาน Generative Al กันอย่างแพร่หลายเพื่อสร้างความสะดวกสบายในการทํางาน แต่สำหรับ ซิลเวอร์เลค แล้วจะต้องคิดค้นพัฒนาการนํา AI มาช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมการเงิน เพื่อสร้างความทันสมัย และสร้างรายได้ให้แก่สถาบันการเงิน โดยท้ายที่สุดวัตถุประสงค์ของเรา คือ การบรรลุเป้าหมายการดำเนินงานที่จะช่วยให้สถาบันการเงินพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงจากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในอนาคต ให้สามารถทํางานได้โดยมีการแทรกแซงจากคนน้อยที่สุด ถึงแม้ว่าความเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์นี้ยังคงเป็นก้าวที่สําคัญ การดําเนินงานโดยอัตโนมัตินี้จะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถทุ่มทรัพยากรไปกับความคิดริเริ่มเชิงกลยุทธ์ได้ เนื่องจาก Al สามารถจัดการงานที่ต้องปฏิบัติในแต่ละวัน เพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการ และรับประกันการดําเนินงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องมีการควบคุมดูแลด้วยตนเอง สถาบันการเงินจึงควรพร้อมที่จะเปิดรับใช้งาน Al และซิลเวอร์เลคก็สามารถช่วยสถาบันการเงินเตรียมความพร้อมสําหรับอนาคตได้

ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้จึงเป็นช่วงเวลาสําคัญที่ธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศไทยต้องพิจารณาตัดสินใจเลือกระบบที่ทันสมัยเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้ปริโภครุ่นใหม่ โดยสามารถตอบสนองความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเลือกผู้พัฒนาระบบที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง ที่พร้อมจะเดินเคียงคู่ไปกับสถาบันการเงินเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนบริการทางการเงินในยุคดิจิทัลให้ก้าวหน้าต่อไป

ที่มา : สัมภาษณ์พิเศษ

เขียนและเรียบเรียง : ธนิต แกล้วเดชศรี

ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus

Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829