MST ขยายเส้นทางบริการ Cyber Security ครบวงจร

MST ขยายเส้นทางบริการ Cyber Security ครบวงจร

เกือบ 30 ปีที่บริษัท เมจิกซอฟท์แวร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MST ให้บริการด้านซอฟต์แวร์และพัฒนาระบบงานให้กับลูกค้าทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นที่รักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า การให้บริการด้วยทีมงานคุณภาพ พร้อมกับความก้าวหน้าในการศึกษาและนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องมาประยุกต์ เพื่อสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าและผู้ร่วมธุรกิจ จนเป็นบริษัทซอฟต์แวร์แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองระบบคุณภาพ ISO9001 : 2008 Certified จาก SGS มาตั้งแต่ปี 2544

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงก่อให้เกิดการประยุกต์ใช้งานใหม่ ๆ ตามความต้องการของตลาดและพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดการใช้งานแอปพลิเคชันในรูปแบบใหม่ ๆ แล้ว ยังได้กลายเป็นช่องทางผู้ไม่ประสงค์ดีใช้โอกาสนี้กระทำการทุจริตได้อีกด้วย

เป็นเวลามากกว่า 10 ปี ที่ MST ได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจการให้บริการระบบป้องกันการทุจริตและป้องกันการฟอกเงินแก่สถาบันการเงิน ซึ่งได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง Fraud Prevention and Detection บริษัทฯ ได้นำเข้าซอฟต์แวร์จากประเทศอิสราเอลและสหรัฐอเมริกามาให้บริการแก่สถาบันการเงินในประเทศไทย อาทิ ธนาคาร บริษัทลิสซิ่ง และบริษัทประกันภัย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้ลงทุนพัฒนาซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาเองจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบุคลากรที่สั่งสมมา เพื่อเป็นทางเลือกและตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายตามความเหมาะสมสำหรับกลุ่มลูกค้าสถาบันการเงินอีกด้วย

นอกจากนี้ MST ยังมีระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยบริหารจัดการองค์กรที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO อาทิ ISO9000 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ได้พัฒนาขึ้นในประเทศไทย ได้แก่ e-Smart ISO และ ISO DCaaS ซอฟต์แวร์สำหรับบริหารจัดการระบบคุณภาพตามมาตรฐาน ISO และ SHE ซอฟต์แวร์สำหรับบริหารจัดการระบบความปลอดภัย สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อม ซึ่งซอฟต์แวร์เหล่านี้จะช่วยให้การดำเนินงานภายในองค์การเป็นไปตามมาตรฐานสากลและช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้กับองค์กรของคุณได้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้ากว่า 200 รายในระยะเวลากว่า 10 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานและฐานการผลิตสินค้าของบริษัทข้ามชาติ
เช่น ญี่ปุ่น ในนิคมอุตสาหกรรมรอบ ๆ กรุงเทพมหานคร อาทิ อยุธยา ชลบุรี ระยอง จึงทำให้บริษัทฯ มีโอกาสได้นำเสนอสินค้าและบริการโซลูชันใหม่ ๆ ด้าน Cyber Security ให้กับองค์กรเหล่านั้นอีกด้วย

ขยายโอกาสการบริการด้าน Cyber Security
ปัจจุบัน MST เป็นผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์ด้าน Development and Integration Tools ซึ่งประกอบด้วยซอฟต์แวร์ที่เป็นเครื่องมือในการพัฒนาและ Integrate ระบบซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ขององค์กรให้สามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น Magic XPA, Magic XPI และ Applinx ช่วยให้องค์กรของคุณสามารถสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ด้าน Cybersecurity จากอิสราเอล เช่น ObserveIT, Cymulate, etc. และบริษัทยังเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมกับบริษัทญี่ปุ่น 2 ราย ได้แก่ Amiya Corporation ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ ALog ซึ่งเป็นโซลูชัน Log Management และอีกหนึ่งราย คือ NTT TechnoCross ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ iDoperation ซึ่งเป็นโซลูชัน Privileged Access Management (PAM) ซึ่งโซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยบริหารจัดการกับความเสี่ยงภายในองค์กรที่เกิดจากการทุจริต การละเมิดสิทธิ
ความไม่ระมัดระวัง หรือความไม่ปลอดภัยในการดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้องค์กรของคุณสามารถลดผลกระทบหรือป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งบริษัทฯ ได้เน้นการทำตลาดกับฐานลูกค้าปัจจุบัน รวมไปถึงการขยายฐานไปสู่ลูกค้าใหม่ที่ทางพาร์ตเนอร์ได้แนะนำมา

แนวโน้มทิศทางใหม่ของบริษัท
MST ยังคงเน้นเรื่อง Cyber Security เพราะเมื่อลูกค้ามีความต้องการด้านไอที หรือใช้ดิจิทัลมากขึ้น ก็มีโอกาสโดนโจมตีมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเกิดความกังวลทั้งตัวลูกค้าเอง และลูกค้าของลูกค้าด้วย อาทิ เมื่อธนาคารลดจำนวนสาขาลงและเปิดบริการให้ลูกค้าทำธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น วิธีการยืนยันตัวตนสามารถทำได้ผ่านทางสมาร์ตโฟน ซึ่งปัจจุบันลูกค้าบางคนมีหลายเครื่อง หรือหลายเบอร์ติดต่อ ดังนั้นการยืนยันตัวตนเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ บริษัทฯ มีแผนการขยายธุรกิจไปสู่การบริการเทคโนโลยีการยืนยันตัวตน ซึ่งนอกจากการยืนยันด้วยรหัสผ่าน รหัส OTP หรือการยืนยันด้วยการสแกนใบหน้า ในปัจจุบันได้รวมไปถึงการเก็บพฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชันทางการเงินด้วย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งการเดินทางที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน พฤติกรรมการติดต่อคนอื่น พฤติกรรมการใช้งานในสมาร์ตโฟน เป็นต้น ดังนั้นเมื่อพฤติกรรมผิดปกติ ระบบก็จะแจ้งเตือนเจ้าของบัญชี หรือธนาคาร เพื่อให้ตรวจสอบการใช้งานให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้นต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายที่จะนำ AI มาช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับโครงการต่าง ๆ อาทิ การออกแบบ การพัฒนาและการทดสอบระบบโปรแกรม เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในกระบวนการต่าง ๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพออกสู่ตลาด

 

ที่มา : สัมภาษณ์พิเศษ

เขียนและเรียบเรียง : ธนิต แกล้วเดชศรี

ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus

Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

Youtube : https://www.youtube.com/@thebusinessplus7829