เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์

‘Popcorn Out Of Cinema’ ความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อของ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์

ท่ามกลางสถานการณ์โคโรนาไวรัสที่เริ่มเบาบางลง แต่ยังไม่มีการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ทำให้ในไตรมาสที่ 1 ทาง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ยังไม่ได้เอาหนังใหญ่ลงจอมากนัก โดยหนังฟอร์มใหญ่อย่าง ‘Spider-Man No Way Home’ ซึ่งคาบเกี่ยวกับปีที่แล้วทำรายได้ให้ทางบริษัทไปประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นบล็อกบัสเตอร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

รวมไปถึง ‘Dr.Strange and The Multiverse Of Madness’ ที่ฉายไปในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 ก็ถือว่าดีมาก โดยทำรายได้กว่า 400 ล้านบาท ขณะที่ตอนนี้ปัจจัยท้าทายของโรงภาพยนตร์คือยังให้คนดูเข้าได้เพียง 75% เท่านั้น พร้อมคาดหวังว่าปลายไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 3 ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) น่าจะอนุญาตให้กลับมานั่งได้ 100% ซึ่งตรงนี้จะมาช่วยเรื่องรายได้ตอนหนังใหญ่เข้าฉาย ทำให้โรงภาพยนตร์สามารถทำรายได้ได้ดีกว่าเดิม โดยช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หนังฟอร์มใหญ่จำนวนมากเริ่มเข้าฉายพอดี

โดยคุณนรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า หนึ่งธุรกิจที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่อย่าง Popcorn Out Of Cinema หรือ การขายป๊อปคอร์น นอกโรงภาพยนตร์ มีการเติบโตอย่างมากและสม่ำเสมอ ปัจจุบันรายได้จากตรงนี้เฉลี่ยประมาณเดือนละ 50 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายของเราที่ต้องการต่อเดือนคือเดือนละ 100 ล้านบาท

โดยโมเดลที่เราใช้ในการสร้างตลาดก็มีทั้งการส่งถึงบ้านผ่านแพลตฟอร์มดิลิเวอรี สองคือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ สามก็คือคีออส ซึ่งเป็นโมเดลที่เรากำลังพัฒนาและน่าจะประสบความสำเร็จที่สุด เช่น การตั้งบูทขนาดเล็กขายหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตของทุก ๆ ห้าง ขณะที่ในไตรมาส 3 ป๊อปคอร์นของบริษัทก็เตรียมวางขายใน 7-Eleven อีกด้วย รวมไปถึงการวางขายในร้านกาแฟ ซึ่งตอนนี้กำลังมีการพูดคุยอยู่กับหลายแบรนด์

โดยในครึ่งปีที่เหลือจากนี้ทางเมเจอร์จะมุ่งเป้าไปที่การนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาสู่โรงภาพยนตร์ในปริมาณที่มากขึ้น โดยจะนำเสนอผ่านทั้งภาพยนตร์ของทางฝั่งหนังฮอลลีวูดและหนังไทย โดยแค่เฉพาะหนังไทยที่เป็นของทางฝั่งเมเจอร์ผลิตเองตอนนี้ก็อยู่ที่ 20 เรื่อง ซึ่งจะเป็นลักษณะโลคัลฟิล์มค่อนข้างเยอะ เช่น หนังพูดภาษาเหนือ ภาษาอีสาน และภาษาใต้ เป็นต้น

โดยหนังภูมิภาคจะขายได้ดีในภูมิภาคนั้น ๆ ขณะที่ถ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ผู้บริโภคหนังกลุ่มนี้จะอยู่บริเวณนิคมอุตสาหกรรม และหนังพูดภาษาเหนือและภาษาอีสานของทางเมเจอร์ก็ไปได้ไกลถึงประเทศเพื่อนบ้าน อย่างลาวและกัมพูชาอีกด้วย ทำให้ปีนี้และปีหน้าเราจะมุ่งผลิตหนังท้องถิ่นในลักษณะแบบนี้ให้เยอะขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งจะผลักดันให้ตลาดต่างจังหวัดของเมเจอร์เติบโตได้มากยิ่งขึ้น

ขณะที่ในฟากของการขยายสาขาบริษัทมีแผนที่จะขยายไปยังหัวเมืองรองต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ โดยโมเดลที่เราใช้บุกก็คือการไปเปิดในห้างสรรพสินค้าอย่างบิ๊กซีและโลตัส ผ่านจำนวนโรงภาพยนตร์ซึ่งจะอยู่ที่ 2-4 โรงฯ ต่อสาขาเท่านั้น อย่างล่าสุดในปีนี้เราเพิ่งมีการเปิด ‘จันทบุรี ซีนีเพล็กซ์’ ในช่วงวันที่ 26 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา อีกขาที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ M-Pass ซึ่งเป็นโปรแกรมบอกรับสมาชิกของทางเมเจอร์แบบดูหนังไม่จำกัดจำนวนเรื่อง ซึ่งมีค่าสมาชิกรายเดือนอยู่ที่ 200 บาทสำหรับนักเรียน และ 300 บาทสำหรับผู้ใหญ่

ตอนนี้มีสมาชิกอยู่ในระบบประมาณ 150,000 ราย พร้อมเป้าหมายปลายปีนี้จะแตะ 500,000 คนได้ ตรงนี้จะต่อยอดให้ทางเมเจอร์สามารถขายป๊อปคอร์นและโฆษณาต่อไปได้อีก สำหรับแอปพลิเคชันตอนนี้ทางเมเจอร์กำลังมีการอัปเดตแอปพลิเคชันใหม่ให้กับลูกค้าทั้งฝั่ง Android และ IOS โดยข้อดีคือ เน้นไปที่ผู้ใช้งานเป็นหลัก เช่น ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อตั๋วได้โดยผ่านขั้นตอนที่น้อยที่สุด พร้อมเก็บข้อมูลลูกค้าเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปใช้ทำ ‘การตลาดแบบเจาะจงตัวบุคคล’ เพื่อมอบข้อเสนอที่พิเศษให้ถูกใจลูกค้าคนนั้น ๆ โดยเฉพาะ

รวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการชมภาพยนตร์ให้กับลูกค้า ล่าสุดทางเมเจอร์ได้มีการนำนวัตกรรมระบบการฉายภาพยนตร์ใหม่ล่าสุดของโลก “IMAX Laser” นำร่อง 3 สาขาในไทย ได้แก่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ,ไอคอน ซีเนคอนิค และ IMAX สาขาใหม่ที่ เมกา ซีนีเพล็กซ์ พร้อมทั้งเปิดโรงภาพยนตร์ในระบบ ScreenX PLF ภาพ 3 จอ ขนาดกว้างสุด 20 เมตร ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มอีก 1 แห่ง ที่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และเดินหน้าอัปเกรดเครื่องฉายดิจิตอลเปลี่ยนเป็นเครื่องฉายเลเซอร์ หรือ “ LASERPLEX” ในโรงภาพยนตร์ปกติ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเปลี่ยนไปแล้วกว่า 120 โรงฯ

ผู้เขียน : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #major #PopcornOutOfCinema