The Business Plus บิสิเนสพลัส
อนาคตในวันนี้และนับจากวินาทีนี้สิ่งที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนโลกซึ่งอยู่เบื้องหลังธุรกิจและอุตสาหกรรมทุกประเภท ซึ่งถือเป็นทั้งหัวใจของการอยู่รอดและเติบโตนั่นคือ เทคโนโลยี โดยเทคโนโลยีในวันนี้ไม่ได้มีบทบาทเป็นเพียงแค่องค์ประกอบทางธุรกิจอีกแล้ว แต่มันได้สถาปนาตัวเองให้กลายเป็นแกนกลางของความสำเร็จและล้มเหลวในธุรกิจวันนี้และอนาคตจากนี้ ซึ่งหนึ่งในผู้นำที่โดดเด่นที่สุดของยุคปัจจุบันก็คือ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
คุณอโณทัย เวทยากร รองประธานบริหาร ตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ ภูมิภาคเอเชียใต้ เดลล์ เทคโนโลยีส์ เผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 จนถึงไตรมาสแรกของปี 2022 มีลูกค้าเดลล์จำนวนมากทำ Digital transformation แม้ความท้าทายทางเศรษฐกิจจะสูงและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีกลายเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับองค์กร เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันและการดำเนินงานในอนาคต
โดยตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เดลล์ เทคโนโลยีส์ ก็ได้เข้าไปช่วยลูกค้าเปลี่ยนผ่านได้มากมาย เนื่องจากบริษัทมีเทคโนโลยีที่ดี อุปกรณ์เชื่อมต่อที่มีคุณภาพสูง และมีโซลูชันที่ครบวงจร ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างรอบด้าน
ขณะที่ในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เดลล์ เทคโนโลยีส์ ได้เผยผ่านในงาน Dell Technologies World 2022 ว่าในปัจจุบันในกลุ่มธุรกิจ Storage หรือ พื้นที่จัดเก็บ บริษัทถือว่ามีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มความต้องของลูกค้ามากที่สุด พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวในงานนี้มากกว่า 500 ฟีเจอร์ ทำให้ตอนนี้การให้บริการในกลุ่ม Data Management หรือการบริหารจัดการข้อมูล บริษัทสามารถทำได้อย่างครบวงจรในทุกแพลตฟอร์ม พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หมด
โดยเฉพาะความสามารถในการต่อยอดไปยัง Multicloud ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางเดลล์ให้ความสำคัญมาก เพราะเทคโนโลยีกำลังเดินไปในทางนั้น ตรงนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้หลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
ขณะที่ในด้านของความยั่งยืนหรือการทำเพื่อสังคมและเพื่อโลกนั้นทาง เดลล์ เทคโนโลยีส์ มียุทธศาสตร์ใหญ่อย่าง Progress made real ซึ่งเป็นการสร้างเทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การสร้างความก้าวหน้าให้กับมนุษยชาติ หรือ Creating Technology for Human Progress ตรงนี้จึงทำให้เกิดโครงการ Moonshot Goal 2030 ซึ่งเป็นแผนทางด้านสังคมซึ่งมีการตั้งเป้าไปจนถึงปี 2030 ผ่านการดำเนินงาน 4 เสาหลักด้วยกัน
1.ความยั่งยืน (Advancing sustainability) ผ่านการนำเอาแนวคิดอย่าง Circular Economy หรือระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน มาปฏิบัติจริง อย่างเช่น นำมาใช้เพื่อลดขยะและคาร์บอนฟุตพรินต์เพื่อตอบสนองต่อแนวทางการดำเนินงานเพื่อโลกขององค์กรอย่าง ESG
2. การบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความเท่าเทียม (Cultivating Inclusion) บริษัทมุ่งผลักดันความเท่าเทียมในหลากหลายบริบทไม่ว่าจะเป็น ความเท่าเทียมกันทางเพศ เชื้อชาติ ภาษา สีผิว และวัฒนธรรม ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญ ตัวอย่างเช่น ความเท่าเทียมกันทางเพศ บริษัทพยายามผลักดันให้ผู้บริหาร 40% ของบริษัทต้องเป็นผู้หญิง นอกจากนี้ยังรวมไปถึงปลูกฝังเทคโนโลยีใหม่และทักษะใหม่ให้กับคนทำงานด้วย
3. การเอาเทคโนโลยีไปช่วยผู้คน (Transforming life with technologies) บริษัทตั้งเป้าจะนำเอาเทคโนโลยีเข้าไปสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับคนทั่วโลกอย่างต่ำ 1,000 ล้านคน ผ่านโครงการต่าง ๆ ที่บริษัททำ เช่น Solar Lab เป็นโครงการที่นำเอาตู้คอนเทนเนอร์ไปติดตั้ง โซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) เพื่อส่งไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้นักเรียนที่นั่นสามารถเข้าถึงความรู้ผ่านทางเทคโนโลยีของบริษัทได้
โดยปัจจุบันทำไปแล้ว 21 แห่งในทวีปแอฟริกาและอเมริกาใต้ รวมไปถึงการนำเอาเทคโนโลยีของบริษัทเข้าไปช่วยด้าน Healthcare ในชนบทของประเทศอินเดียเพื่อคอยตรวจสอบโรคต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลได้รับข้อมูลก็จะสามารถหาทางป้องกันได้
4.จริยธรรมและความเป็นส่วนตัว (Intigrity and Privacy) คือสองสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับบริษัทที่จะต้องใส่ใจให้กับลูกค้า เพราะนี่คือประเด็นที่มีความอ่อนไหว การจัดการที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดความกังวลให้กับลูกค้าที่ใช้งานเทคโนโลยีของเดลล์ได้
โดยในโครงการ Moonshot Goal 2030 บริษัทตั้งเป้าจะนำสินค้าที่ขายไปกลับมารีไซเคิลให้ได้ 100% ภายในปี 2030 ยกตัวอย่างเช่น เมื่อขายโน้ตบุ๊กได้ 100 ล้านเครื่องก็ต้องเอากลับมารีไซเคิลให้ได้ 100 ล้านเครื่อง เป็นต้น เช่นเดียวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เมื่อก่อนจะมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของผิตภัณฑ์และความทันสมัยเป็นสำคัญ แต่ตอนนี้บริษัทมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสินค้าไปที่เรื่องความยั่งยืนเป็นสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ที่เป็นโน้ตบุ๊กของเดลล์ประมาณ 80-95% แพ็กเกจจิ้งจะถูกทำมาจากวัสดุที่รีไซเคิลได้
สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2022 เดลล์ เทคโนโลยีส์ มีรายได้เติบโต 16% คิดเป็นมูลค่า 26,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทุกกลุ่มธุรกิจทำผลการดำเนินงานได้ค่อนข้างดี อย่างฝั่งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ พีซี มีตัวเลขรายได้ประมาณ 15,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโต 17% ขณะที่ฝั่ง Server & Storage ของกลุ่มองค์กรมีสัดส่วนอยู่ที่ 9,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโต 16% ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่ดีท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้
ผู้เขียน : เอกพล มงคลพัฒนกุล
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #DellTechnologies
