ที่สุดของวงการ MICHELIN PILOT SPORT EV นวัตกรรมเหนือชั้นของยางรถสปอร์ตไฟฟ้า

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าความร้อนแรงของกระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่เพียงแต่อยู่ในความสนใจของทั่วโลก แต่กำลังขยายวงกว้างในประเทศไทยเองด้วย ณ ขณะนี้ โดยจากการคาดการณ์ มิชลินระบุว่า ภายในปี 2030 จะมีจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 18 ล้านคัน และ 1 ใน 3 ของรถยนต์สปอร์ตจะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทั้งในรูปแบบ PHEV หรือ BEV

 

จากสถิติที่ข้างต้น กล่าวได้ว่า มิชลินได้ศึกษาและวางแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นอย่างดี จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ไฟฟ้า MICHELIN Pilot Sport EV เพื่อตอบโจทย์ของเมกะเทรนด์นี้

 

คุณวิเนต องค์เนกนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด B2C ประเทศไทย บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เล่าถึงสถานการณ์ภาพรวมของตลาดยางรถยนต์ ให้เราฟังว่า “เนื่องจากสถานการณ์การระบาด Covid-19 ที่ผ่านมา ทำให้มีการสัญจรน้อยลง ผู้คนไม่ได้ออกเดินทางเหมือนเมื่อก่อน มีผลทำให้ตลาดยางรถยนต์ของไทยใน ช่วงมกราคม-ตุลาคมที่ผ่านมา หดตัวลดลงประมาณร้อยละ 10 บวกกับสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย ผู้คนรายได้น้อยลง แต่ต้นทุนการผลิต ต้นทุนการขนส่งกลับเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนวัสดุดิบในการผลิต จึงเป็นความท้าทายของบริษัท ฯ เป็นอย่างมากในการรักษาฐานลูกค้า และปรับราคาให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด”

 

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความท้าท้ายที่เกิดขึ้น มิชลินกลับค้นพบสิ่งที่เรียกว่า ‘Pocket of Growth’ หมายถึง ในปัจจัยลบที่เกิดขึ้น แบรนด์พบว่ายังดำเนินธุรกิจได้ดีในการจับกลุ่มลูกค้าในตลาดยางขอบใหญ่ ตั้งแต่รุ่น 17-21 นิ้ว ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้จะขึ้นอยู่กับกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูง หรือรถสปอร์ต โดยผู้บริโภคเซกเมนต์ดังกล่าว ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ มองหาสินค้าคุณภาพ ประสิทธิภาพสูง และมีแบรนด์ที่ไว้ใจได้เป็นที่น่าเชื่อถือ” คุณวิเนต กล่าว พร้อมระบุว่า จากกระแสรถยนต์ไฟฟ้าในไทยและทั่วโลกที่ผู้คนตื่นตัวกันอย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งรวมไปถึงรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าด้วย มิชลิน จึงได้ศึกษา insight และ pain point ของผู้บริโภคที่มีความต้องการการใช้งานที่แตกต่างระหว่างยางรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป

 

และพบข้อเท็จจริงว่า ส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะให้ความสนใจในความจุของแบตเตอรี่ (battery range) ที่ต้องเพียงพอต่อการออกเดินทาง ทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะมองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมกับแบตเตอร์รี่ขนาดใหญ่ เป็นเหตุให้น้ำหนักโดยรวมของตัวรถเพิ่มขึ้นและแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือ“แรงเหวี่ยง” ที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ส่งผลถึงการเข้าโค้งที่มีความแม่นยำน้อยลง ดังนั้น ยางสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะรถสปอร์ตไฟฟ้าจึงต้องมีคุณสมบัติในการรองรับน้ำหนักและเข้าโค้งได้ดี อีกทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีการทำงานที่ค่อนข้างเงียบเพราะไม่มีเครื่องยนต์สันดาป การบดถนนของยางจึงต้องเก็บเสียงได้ดี และสามารถรับความแรงของการออกตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้อย่างทนทาน”

MICHELIN Pilot Sport EV

จากความต้องการหมด จึงเป็นที่มาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รุ่น MICHELIN Pilot Sport EV ยางสำหรับรถสปอร์ตไฟฟ้า จากเทคโนโลยี Electric Grip Compound™นวัตกรรมที่ได้รับจากการค้นคว้าวิจัยยางสำหรับการแข่งขัน Formula Eจากประสบการณ์กว่า 6 ปี

 

“ยาง MICHELIN Pilot Sport EV จะมอบความรู้สึกให้ผู้ขับขี่ในระดับที่เรียกว่า ‘High Performance’ เพราะควบคุมการขับขี่ได้ดี เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ เกาะถนนแน่นทั้งแห้งและเปียก เนื้อยางแข็งแกร่ง รวมไปถึงการเก็บรายละเอียดในทุกดีไซน์ แก้มยางมีลวดลายและลักษณะพื้นผิวคล้ายกำมะหยี่ เช่นเดียวกับยางมิชลินที่ใช้ในสนามแข่ง Formula E อีกด้วย

 

ด้วยเทคโนโลยี MICHELIN Acoustic™ ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการลดระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารลงได้ถึง 20% และที่สำคัญ MICHELIN Pilot Sport EV ยังเป็นยางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการผลิตได้ถึง ร้อยละ 25” คุณวิเนต กล่าว

 

สำหรับความท้าทายต่อจากนี้ คุณวิเนต มองว่า “ช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ จนถึงปี 2565 ตลาดยางรถยนต์มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเราเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ มีการผ่อนคลายมาตราการต่าง ๆ และเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา คาดว่าธุรกิจท่องเที่ยวจะฟื้นฟู เศรฐกิจโดยรวมดีขึ้น พร้อมกับความกังวลของผู้บริโภคในเรื่องของสุขภาพที่ยังคงมีอยู่ ทำให้หลายคนเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่าการขนส่งสาธารณะ ส่งผลให้ตลาดยางรถยนต์เติบโตขึ้น รวมไปถึงภาครัฐที่กำลังพิจารณาสนับสนุนให้มีการบริโภครถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศมากขึ้น

 

ด้วยปัจจัยเหล่านี้เองจึงเป็นหลักใจสำคัญที่ทำให้มิชลินเห็นโอกาส และต้องการพัฒาต่อยอดสินค้าให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นไป เพื่อรองรับกับความต้องการที่หลากหลายให้มากที่สุด”