‘มิชลิน’ พัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยจุดแข็งที่เหนือกว่าคู่แข่ง

ยังคงเป็นแบรนด์ที่ออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ตรงใจผู้บริโภคได้อย่างสม่ำเสมอสำหรับ ‘มิชลิน’ ด้วยกลยุทธ์การพัฒนานวัตกรรมที่เน้นความรวดเร็วก้าวล้ำ และอัดแน่นด้วยคุณภาพ จึงหาได้ยากที่จะมีคู่แข่งตามทัน ซึ่งกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ทำให้ปีนี้เป็นอีกปีที่มิชลินได้รับรางวัล BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS ประเภท ยางรถยนต์ไฟฟ้า สำหรับยางรุ่น “MICHELIN PILOT SPORT EV”

คุณวิเนต องค์เนกนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด B2C ประเทศไทย บริษัท สยามมิชลิน จำกัด กล่าวกับเราว่าแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของมิชลิน มีหลายส่วนประกอบเข้าด้วยกัน

ส่วนแรก คือ การศึกษาแนวโน้มตลาด โดยที่มิชลินทำการศึกษาข้อมูลว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มีทิศทางเติบโตอย่างไร เช่น ในช่วงที่ผ่านมารถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มเติบโตสูงมากในตลาดรวมทั่วโลก โดยนับตั้งแต่ปี 2021 ถึงปี 2024 มีแนวโน้มว่าจะเติบโต 8 เท่าตัว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มิชลินมุ่งเน้นไปที่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ “MICHELIN PILOT SPORT EV” ขึ้นมา

ส่วนที่ 2 ต้องเข้าใจลูกค้าที่เลือกใช้รถยนต์แต่ละประเภทว่ามีความต้องการอย่างไร หรือลูกค้ามี Pain Point อะไรบ้าง เช่น ลูกค้าที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าจะมีความกังวลในเรื่องของระยะทาง และระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ ดังนั้น ยางรถยนต์ไฟฟ้า “MICHELIN PILOT SPORT EV” จึงถูกออกแบบมาเพื่อลดการใช้พลังงาน โดยหลักการคือยางจะมีแรงต้านทานการหมุนต่ำ ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลกว่าการใช้ยางรถยนต์แบบทั่วไป

นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้ “MICHELIN PILOT SPORT EV” มีเสียงบดถนนที่เงียบขึ้น เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีเสียงเครื่องยนต์ ส่งผลให้เสียงของยางค่อนข้างชันเจน โดยมิชลินได้คำนึงถึงเรื่องดังกล่าวและออกแบบยางรถยนต์ที่มีโฟมดูดซับเสียงอยู่ภายใน

ในขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงการรับน้ำหนักของรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงของรถไฟฟ้าแตกต่างกับแบบเครื่องยนต์ปกติ และมีน้ำหนักที่มากกว่า ซึ่งหากนำยางปกติมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าอาจทำให้รอบการเปลี่ยนยางเร็วขึ้น เพราะมีการสึกหรอมากกว่าเดิม ดังนั้น มิชลินจึงออกแบบยาง “MICHELIN PILOT SPORT EV” ให้เหมาะกับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้รองรับน้ำหนักและแรงเหวี่ยงที่ไม่เหมือนกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป

จุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง นำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นหนึ่ง

คุณวิเนตกล่าวว่า จุดแข็งสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ยางรถสปอร์ตไฟฟ้า “MICHELIN PILOT SPORT EV” ซึ่งเป็นยางสำหรับรถยนต์ High Performance เช่น รถสปอร์ตไฟฟ้า(EV) ที่มีสมรรถนะสูง เริ่มมาจากการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับการจัดการแข่งขันฟอร์มูล่าอี (Formula E) ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยมิชลินได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับการแข่งขันนี้มาตั้งแต่ช่วงแรกในปี 2013 ส่งผลให้มิชลินได้เรียนรู้และพัฒนานวัตกรรม รวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ จากการแข่งขันมาโดยตลอด และนำความรู้เหล่านั้นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน

เทคโนโลยีที่เรานำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ถูกทดสอบจากการใช้งานจริง โดยมิชลินเป็นผู้ผลิตยางให้กับการแข่งขันในสนามแข่ง จึงได้เรียนรู้ว่ายางรถยนต์ไฟฟ้าต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างเพื่อให้มีสมรรถนะสูง การเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้มิชลินสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อยู่เสมอ

เร่งเครื่องพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยากที่จะตามทัน

คุณวิเนต กล่าวในตอนท้ายว่า มิชลินยังเดินหน้าพัฒนาและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ โดยผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาคือ ยางรถยนต์ไฟฟ้า MICHELIN e.PRIMACY ซึ่งเป็นยางที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์แบบไฮบริดทั่วไป เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ตรงจุด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีขึ้นให้กับการขับขี่

โดยราคาของ MICHELIN e.PRIMACY จะราคาสูงกว่ายางรถยนต์สำหรับรถยนต์ปกติอยู่ประมาณ 4% เนื่องจากยางรุ่นนี้มีเทคโนโลยีเฉพาะตัวที่เหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ แต่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันก็ยังสามารถใช้ MICHELIN e.PRIMACY ได้เช่นกัน และจะได้รับ Benefit เป็นการประหยัดน้ำมัน และยังช่วยยืดอายุการใช้ยางได้ยาวนานขึ้นได้อีกด้วย

รถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างกับรถที่เราคุ้นเคยกันตรงที่มันไม่มีเครื่องยนต์ แต่ใช้แบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าในการหมุนล้อ โดยที่คุณสมบัติของมอเตอร์ไฟฟ้าจะมีแรงบิดรถยนต์ (Torque) สูง ดังนั้น ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของมิชลินจะถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ”

สำหรับกลยุทธ์ในปี 2022 ของมิชลิน คือการออกสินค้าและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่ มิชลินจะใช้นวัตกรรมใหม่ล่าสุดเสมอ รวมไปถึงนำนวัตกรรมเหล่านี้มาปรับใช้กับยางรุ่นใหม่เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการขับขี่ ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของมิชลินก้าวล้ำเหนือคู่แข่งอยู่เสมอ