Mazda BT-50 ปิกอัพสไตล์เอสยูวี สำหรับคนยุคใหม่

“การที่รถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 ได้รับรางวัลสุดยอดสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมแห่งปี 2565 นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างของชาวมาสด้า และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมวิศวกรในการพัฒนายนตรกรรมที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

มาสด้ารู้สึกเป็นเป็นเกียรติอย่างยิ่งและขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และส่งมอบประสบการณ์อันเป็นที่น่าปรารถนาให้กับลูกค้าต่อไป เพื่อสร้างโลกที่ยังคงสวยงาม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และสร้างสังคมให้น่าอยู่ตลอดไป”

คำกล่าวของคุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความรู้สึกในโอกาสที่แบรนด์มาสด้า คว้ารางวัลชนะเลิศ BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2022 ในหมวดรถกระบะ 1 ตัน ไปครอง

หากมองย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่รถปิกอัพมาสด้า B1500 บี-ซีรีย์ เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม ปี 1961 จนถึงปัจจุบัน รถปิกอัพของมาสด้าถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดการออกแบบของ ‘โคโดะ ดีไซน์’

ผลลัพธ์ที่ได้จึงเกิดเป็นความสมดุลลงตัว ระหว่างรูปลักษณ์ของรถปิกอัพที่แข็งแกร่ง กับคุณภาพที่เต็มเปี่ยมไปด้วยนวัตกรรม เพื่อทำให้ช่วงเวลาในการขับขี่บนท้องถนน เต็มไปด้วยความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

คุณธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปิกอัพ Mazda BT-50 เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ BUSINESS+ PRODUCT INNOVATION AWARDS 2022 ในหมวดรถกระบะ 1 ตัน ไปครองสำเร็จ ต้องย้อนถึงวัตถุประสงค์ของการออกแบบ คือ มาสด้าต้องการสร้างยานพาหนะที่ลูกค้าภูมิใจที่ได้ครอบครอง ด้วยการผสมผสานระหว่างแนวคิดการออกแบบของ ‘โคโดะ ดีไซน์’ ผสานกับความทรงพลังและความแข็งแกร่งสไตล์รถปิกอัพ

การออกแบบภายใต้แนวคิดโคโดะ ดีไซน์ แสดงออกถึงความเรียบง่าย โดดเด่น สง่างาม ประณีตเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด และนำมาผสมผสานกับความรู้สึกบึกบึนจากรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งของรถปิกอัพ ผลลัพธ์ที่ได้จึงเกิดเป็นความสมดุลลงตัว ระหว่างรูปลักษณ์ของรถปิกอัพที่แข็งแกร่ง กับคุณภาพของการออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เช่นเดียวกับรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีของมาสด้า

ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงคุณภาพที่เกินความคาดหวังจากรถปิกอัพในการขับขี่หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับเพื่อออกไปสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้ง หรือขับขี่ในเมือง หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ ออกแบบมาเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ และช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกท้าทายในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบออฟโร้ด หรือขับขี่ในชีวิตประจำวัน

คุณค่าของรถปิกอัพ มาสด้า BT-50 ใหม่

ด้วยแนวคิดการออกแบบภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ที่ถูกถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจากรถยนต์นั่งและรถเอสยูวีตระกูล CX-Series ซึ่งมาสด้าได้นำเอาแนวคิดการออกแบบนี้มาผสมผสานกับรูปลักษณ์อันทรงพลังสไตล์รถปิกอัพได้อย่างลงตัว จึงทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นปิกอัพที่โดดเด่นที่สุดในตลาด สอดรับกับการขับขี่ได้ทุกสถานการณ์ โดดเด่นและแตกต่างจากปิกอัพทั่วไปในตลาด เป็นปิกอัพสไตล์เอสยูวีที่เหมาะสำหรับคนยุคใหม่

ภายในเรียบหรูพรีเมียม คัดสรรด้วยวัสดุที่ใส่ใจในคุณภาพ มีความประณีต พิถีพิถันในทุกรายละเอียด ทั้งยังตอบโจทย์การใช้งานด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ดีเซล 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 3.0 ลิตร 190 แรงม้า และ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังมั่นคงรับมือได้กับทุกสภาพถนน รวมถึงพร้อมด้วยเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัยครบครัน ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายดาย ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุดในคลาสถึง 16.1 กิโลเมตร/ลิตร

ฟังก์ชันการใช้งาน-สนุกกับกิจกรรมที่ท้าทายอย่างชาญฉลาด

ปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของรถปิกอัพ ที่รวมถึงอัตราเร่งอันทรงพลังของเครื่องยนต์ดีเซลเมื่อออกตัวจากจุดสตาร์ท และความสามารถในการขับขี่บนถนนขรุขระ รวมถึงสามารถขับลุยน้ำได้สูงถึงระดับ 800 มม. อีกทั้งยังให้ความรู้สึกนุ่มนวล และการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับรถครอสโอเวอร์เอสยูวี เมื่อต้องการเร่งความเร็ว เช่น การเร่งเครื่องเพื่อให้เหมาะสมกับการจราจรบนทางหลวง สามารถให้พละกำลังที่เหลือล้น และตอบสนองต่อความตั้งใจของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ง่ายต่อการขับขี่ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบออฟโร้ด หรือเลี้ยวในที่แคบ

นอกจากนี้ กระบะท้ายรถก็ยังสามารถรับน้ำหนักได้อย่างเหลือเฟือ และยังง่ายต่อการขนถ่ายสิ่งของอีกด้วย รวมถึงฟังก์ชันอันหลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งาน รวมถึงพวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง

กุญแจรีโมตอัจฉริยะ สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมตและมีฟังก์ชันเปิดไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ (Welcome Light) รวมถึงมือจับที่ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลัง ขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบ Infotainment รวมถึงหน้าจอแสดงผลความคมชัดสูง WXGA และฟังก์ชันการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟน ซึ่งฟังก์ชันต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยมอบความสะดวกสบาย และทำให้การขับขี่ในทุกสถานการณ์เต็มไปด้วยความสนุกในทุก ๆ วัน