หลังจากอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ก็มีการพูดถึงภาวะเงินฝืด จนทำให้คาดการณ์กันว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แต่ก็มีอีกแนวคิดว่ายังไม่ควรลดอัตราดอกเบี้ย เพราะสาเหตุที่เงินเฟ้อที่ลดลงนั้น เกิดจากราคาสินค้าที่ลดลงเพียงบางกลุ่มไม่ได้กระจายในวงกว้าง ขณะที่เศรษฐกิจของไทยยังขยายตัวได้จึงยังไม่สมควรลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้
ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2567 มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี ขณะที่ 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี ดังนั้นผลสรุปจากเสียงของกรรมการส่วนใหญ่จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ โดย กนง.ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันยังสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งเอื้อต่อการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในระยะยาว
ทั้งนี้ ‘Business+’ มองว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ คณะกรรมการส่วนใหญ่มองว่ายังไม่ควรลดอัตราดอกเบี้ยมี 3 สาเหตุหลักๆ นั่นคือ
- ราคาสินค้าไม่ได้ปรับลดลงเป็นวงกว้าง แต่กระจุกเพียงบางกลุ่ม เช่น กลุ่มพลังงานที่ได้รับผลจากการขยายมาตรการช่วยเหลืะค่าครองชีพของภาครัฐ แต่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงเป็นบวก
- อุปสงค์ในประเทศยังไม่ได้อ่อนแอ การบริโภคยังขยายตัวดีต่อเนื่อง
- การส่งออกและการผลิตมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปซึ่งก็จะทำให้เศรษฐกิจยังสามารถเติบโตได้
- การลดดอกเบี้ยนโยบายอาจทำให้การลงทุนต่างชาติลดลง ซึ่งประเด็นนี้เป็นจุดเปราะบางสำหรับประเทศไทยอย่างมาก โดยในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นที่ถูกเงินทุนต่างชาติขายออกมากที่สุด คือ อินเดีย มูลค่า 3,141 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย ไทย มูลค่า 870 ล้านดอลลาร์
ที่มา : กนง.
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ที่ Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#thebusinessplus #BusinessPlus #เงินเฟ้อ #เงินเฟ้อไทย #เงินเฟ้อทั่วไป #เงินเฟ้อพื้นฐาน #CPI