TechProfit

เปิดผลงาน 4 บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกได้ทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ออกมา โดยพบว่า 4 บริษัทใหญ่ที่ทั่วโลกจับตามองแสดงผลงานออกมาได้ค่อนข้างดี ถึงแม้ว่าไตรมาส 1 ของปีนี้จะยังเป็นไตรมาสที่ต้องเผชิญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจชะลอตัว และเงินเฟ้อ แต่บริษัทเหล่านี้ยังสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจคลาวด์ รวมไปถึงรายได้จากการโฆษณา นอกจากนี้การปรับแผนลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่บริษัทมองว่าไม่จำเป็นออกไปก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนกำไรสุทธิในไตรมาสดังกล่าว

โดย Microsoft เจ้าของธุรกิจซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก มีรายได้ 52.86 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 18.3 พันล้านดอลลาร์ เติบโต 9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงแม้ว่า Microsoft จะเผชิญกับยอดขายพีซีที่ลดลง ซึ่งเป็นผลให้รายได้จากการขายระบบปฏิบัติการ Windows หดตัว แต่มีรายได้จากธุรกิจคลาวด์ ซึ่งรวมถึง Azure public cloud, Enterprise Services, SQL Server และ Windows Server เพิ่มขึ้น 16% นอกจากนี้รายได้จาก Search Engines อย่าง Bing ที่ได้นำ Chat GPT เข้ามาประยุกต์ใช้ได้ทำให้มีผู้ใช้งานแบบแอคทีฟรายวันเพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านราย หนุนให้รายได้จากบริการค้นหา โฆษณาเพิ่มขึ้น 10%

นอกจากนี้ช่วงกลางเดือน ม.ค.2566 ที่ผ่านมา ทาง Microsoft ได้ประกาศแผนปรับลดพนักงานจำนวน 10,000 คน คิดเป็นเกือบ 5% ของพนักงานทั้งหมด ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการปรับลดพนักงานนี้ก็จะเป็นตัวสนับสนุนให้บริษัทแห่งนี้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นได้เช่นเดียวกัน

มาต่อกันที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google และ Youtube มีรายได้ไตรมาส 1/2566 ที่ 69.79 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 15.05 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3% ซึ่งในภาพรวมแล้วทาง Alphabet ได้เปิดเผยว่า รายได้จากธุรกิจโฆษณาของ Google ลดลงเล็กน้อยเป็น 54,548 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 54,661 ล้านดอลลาร์ ของไตรมาส 1/2565 ซึ่งเกิดจากการโฆษณาใน Google Network และโฆษณาใน YouTube ที่ลดลง แต่ในส่วนของโฆษณา Search Engines ยังคงเพิ่มขึ้น

ซึ่ง Alphabet ได้รับผลกระทบ 3 ปัจจัยหลัก ๆ ในไตรมาสดังกล่าว คือ ค่าใช้จ่ายครั้งเดียวจากการปลดพนักงานและการปิดสำนักงาน 2.6 พันล้านดอลลาร์, ค่าเสื่อมราคาลดลง 988 ล้านดอลลาร์ จากการปรับอายุการใช้งานเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เครือข่าย, การปรับเวลาจ่ายผลตอบแทนพนักงานในรูปแบบหุ้น

โดยทาง Alphabet เป็นอีกหนึ่งบริษัทเทคโนโลยีที่ได้ประกาศเลิกจ้างงานประมาณ 12,000 ตำแหน่ง คิดเป็น 6% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก ในช่วงเดือนม.ค.2566

ด้าน META เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่อย่าง FaceBook เป็นเพียงรายเดียวที่กำไรสุทธิลดลงจาก 4 บริษัทที่ได้รวบรวมมา โดยมีรายได้ 28.6 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 5.7 พันล้านดอลลาร์ โดยกำไรสุทธิได้ลดลง 23% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน  ถึงแม้ว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้นโดยที่โฆษณาที่เป็นรายได้หลักขององค์กร มีการแสดงโฆษณาใน Family of Apps เพิ่มขึ้น 26% ซึ่งทาง Meta มีจำนวนผู้ใช้งานรวมทุกแพลตฟอร์มเพิ่มเป็น 3.81 พันล้านคน แต่ในส่วนของธุรกิจเมตาเวิร์ส ยังขาดทุนต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา Meta ต้องประสบกับผลขาดทุน 3,992 ล้านดอลลาร์ และทาง Meta เองก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้ปลดพนักงาน 11,000 คน เมื่อปลายเดือนตุลาคมปี 2565

ตบท้ายกันที่ Amazon มีรายได้ไตรมาส 1/2566 ที่ 127.4 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 3.2 พันล้านดอลลาร์ พลิกจากขาดทุนสุทธิ 3.8 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 1/2565 โดย Amazon พลิกเป็นกำไรในไตรมาสนี้ด้วยการเติบโตของธุรกิจ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่ครอบคลุมและถูกนำมาใช้มากที่สุดในโลก ซึ่งสามารถทำรายได้ในไปกว่า 21,354 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่ธุรกิจโฆษณา มีรายได้ 9,509 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21%

TechProfit

ทาง ‘Business+’ มองว่า แนวโน้มการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผ่านมาอาจจะเผชิญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจชะลอตัว สาเหตุที่เรามองอย่างนั้น เป็นเพราะธุรกิจคลาวด์ และการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ยังคงเป็นที่ต้องการสำหรับลูกค้าระดับองค์กร นอกจากนี้ บริษัททั่วโลกไม่ว่าจะทำธุรกิจด้านใดหากต้องการทำการโฆษณาออนไลน์ หรือ หาความต้องการของลูกค้าที่แท้จริงในยุคปัจจุบันก็จำเป็นต้องอาศัย Machine Learning หรือ AI เข้ามาช่วยเสริม เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูล และส่งโฆษณาได้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ นั่นเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุนให้บริษัทเทคโนโลยีเติบโตได้ในอนาคต ประกอบกับการปรับลดพนักงานลงของบริษัทเหล่านี้ ก็ถือเป็นการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่จะส่งผลดีต่อกำไรสุทธินั่นเอง

ที่มา : CNBC , variety , cnn

เรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #บริษัทเทคโนโลยี #บริษัทไอที