ตัวเลขเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 4/66 เติบโต 1.7% ซึ่งเกิดจากการผลิตภาคนอกเกษตรที่ขยายตัว การใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชนที่เพิ่มขึ้น และการส่งออกและการนำเข้าสินค้าขยายตัว
อย่างไรก็ตามในภาคการผลิตนั้น ยังมีอีกหลายกลุ่มธุรกิจที่หดตัวลง โดยเฉพาะภาคการก่อสร้างที่หดตัวอย่างมากถึง 8.8% ส่วนหนึ่งเกิดจากการลงทุนภาครัฐที่ลดลง สวนทางกับธุรกิจที่พักแรมและบริการด้านอาหารที่มีการเติบโตถึง 10.00% ซึ่งเกิดจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศเพิ่มขึ้น และมีข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจดังนี้
นอกจากด้านการผลิตแล้ว มาดูในส่วนของการคำนวณ GDP ด้านรายจ่ายกันบ้าง โดยพบข้อมูลว่า
- การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัว 7.4% จากการใช้จ่ายสินค้าหมวดคงทน ได้แก่ ยานพาหนะขยายตัว สินค้าไม่คงทนขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนสินค้ากึ่งคงทนและหมวดบริการชะลอตัว
- การลงทุน ลดลง 0.4%
- การลงทุนภาคเอกชน ขยายตัวจากการก่อสร้าง ได้แก่ที่อยู่อาศัย อาหารประเภทไม่ใช่ที่อยุ่อาศัย ด้านเครื่องจักรเครื่องมือ
- การลงทุนภาครัฐ ลดลงทั้งด้านก่อสร้างและด้านเครื่องมือเครื่องจักร
- การใช้จ่ายภาครัฐบาล ลดลง 3.0%
- การส่งออกสินค้าและบริการ ขยายตัว 4.9% จากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตร และรายรับจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัว
- การนำเข้าสินค้าและบริการ ขยายตัว 4.0% จากสินค้าวัตถุดิบ สินค้ากลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าทุน และรายจ่ายการท่องเที่ยวที่ขยายตัว
และยังมีรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมอีกมากมายซึ่งสามารถอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับ GDP ไทยฉบับเต็มได้ที่ : https://www.nesdc.go.th/main.php?filename=QGDP_report&fbclid=IwAR2lvCk2jnRyQCSvt6P-6phUbKtqFd4hqUNDcKdvrMatuBEO4r8yc5kJ2HU
ที่มา : สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #JD.Com #เจดีดอทคอม