ฟูจิฟิล์ม เดินหน้าแคมเปญยุติวัณโรค ตอกย้ำปณิธานในการสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นให้แก่คนทั่วโลก ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ล้ำสมัย

เทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence : AI) มาใช้ในวงการแพทย์ เพื่อให้แพทย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกับวัณโรค ซึ่งหากได้รับการตรวจพบในระยะเริ่มต้น คนไข้ก็จะด้รับการักษาที่ทันท่วงที

Business+ มีโอกาสร่วมพุดคุยกับ มร.โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ที่มาพูดถึงบทบาทของฟูจิฟิล์ม และการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วโลกเพื่อเร่งยุติการแพร่ระบาดของวัณโรคด้วยการมุ่งเน้นโครงการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ

บทบาทของฟูจิฟิล์มในการร่วมยุติวัณโรค 
ภายใต้พันธกิจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้สังคมผ่านการร่วมแก้ไขความท้าทายด้านสุขภาพทั่วโลก ฟูจิฟิล์มตระหนักถึงความเร่งด่วนในการยุติการแพร่ระบาดของวัณโรค ภัยร้ายที่กระทบประชากรกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ทั้งยังเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนจำนวนมหาศาลตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ฟูจิฟิล์ม จึงเดินหน้าใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสุขภาพมาต่อยอด เพื่อร่วมเป็นกลไกในการต่อสู้กับโรคร้ายดังกล่าว

มร.โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า ‘วัณโรค’ เป็นภัยสุขภาพร้ายแรง โดยเป็น 1 ใน 3 โรคติดต่อที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก ทุก ๆ ปี มีผู้ป่วยวัณโรคมากกว่า 10 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 1.5 ล้านคน จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าทุก ๆ วัน จะมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคเกือบ 4,400 ราย และติดเชื้อกว่า 30,000 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับโรคที่สามารถป้องกันและรักษาได้ ทั้งนี้ เกือบ 90% ของผู้ป่วยวัณโรคอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาและราวครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อในพื้นที่เหล่านี้ ไม่สามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองและการรักษาอย่างเหมาะสม

ด้วยเหตุนี้ ฟูจิฟิล์มจึงมุ่งมั่นยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติในการยุติวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2030 ด้วยการนำเสนออุปกรณ์เอกซเรย์แบบพกพาขนาดกะทัดรัดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองวัณโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและเข้าถึงยาก

ทั้งนี้ ฟูจิฟิล์มก้าวสู่ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟิล์มเอกซเรย์ที่เป็นที่ยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลก เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสุขภาวะที่ดีแก่คนทั่วโลก และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพให้ครอบคลุมอย่างระบบจัดเก็บภาพและข้อมูลทางการแพทย์ PACS (Picture Archiving Communication System) รวมถึงเทคโนโลยี MRI และ CT Scan มาเสริมทัพให้โซลูชันการวินิจฉัยทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มครบวงจรมากยิ่งขึ้น

และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเครื่องมือเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ขั้นสูง ก็ยิ่งยกระดับการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ฟูจิฟิล์มก้าวเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพ ในฐานะผู้ให้บริการ Total Healthcare Solution โดยเป้าหมายหลักของเราคือ การยกระดับด้านการแพทย์และสุขภาพให้สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในการยุติวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2030 เราจึงเร่งเดินหน้าต่อสู้กับวัณโรค โดยมุ่งเน้นที่การตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่น ๆ ผ่านนวัตกรรมอันล้ำสมัยของเรา

สำหรับบริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงเดินหน้าใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสุขภาพมาต่อยอด เพื่อร่วมเป็นกลไกในการต่อสู้กับโรคร้ายดังกล่าว โดยพร้อมผนึกกำลังกับหน่วยงานต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นถึงพยายามของฟูจิฟิล์มในการร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

ทั้งนี้ การตรวจพบการติดเชื้อตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เป็นหัวใจสำคัญของการยุติการแพร่ระบาดของวัณโรคตามแผน SDGs ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยเครื่องเอกซเรย์ FDR Xair ของฟูจิฟิล์ม ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยบรรลุเป้าหมายนี้ ด้วยขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา และทำงานได้ด้วยแบตเตอรี่ในตัว ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถทำการตรวจคัดกรองวัณโรคในพื้นที่ห่างไกลได้ ฟูจิฟิล์ม ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่อดำเนินโครงการตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในการใช้ระบบเอกซเรย์เพื่อตรวจคัดกรองวัณโรคและขยายการคัดกรองวัณโรคในภูมิภาคที่มีความเสี่ยงให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

มร.โซ มารูโอะ ยกตัวอย่างให้เราเห็นภาพมากยิ่งขึ้น โดยยกกรณีศึกษาคือ ประเทศอินเดีย ซึ่งโครงการตรวจคัดกรองวัณโรค จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ตั้งเป้าคัดกรองประชากรมากกว่า 5 ล้านคน บนภารกิจของรัฐบาลอินเดียในการทำให้ประเทศปลอดวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2025 โดย ฟูจิฟิล์ม อินเดีย ลงพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของวัณโรค พร้อมให้บริการตรวจคัดกรองวัณโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์แบบพกพาที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้ได้ผลการวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำ

 

ในประเทศไทย ฟูจิฟิล์ม มีแผนเชิงคุณค่าแห่งความยั่งยืน 2030 (SVP2030) บนเป้าหมายหลักคือ การยกระดับมาตรฐานทางการแพทย์และสุขภาพให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ร่วมมือกับพันธมิตร มูลนิธิ และสถานพยาบาลเพื่อเสริมแกร่งบริการสาธารณสุข โดยใช้โซลูชันทางการแพทย์ขั้นสูง ที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ตั้งแต่โรงพยาบาลในเมืองไปจนถึงสถานพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล

“นับตั้งแต่ที่บริษัทก่อตั้งขึ้นที่ประเทศไทยในปี ค.ศ. 1989 ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจในวงการแพทย์ ในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยที่ฟูจิฟิล์มยังมุ่งมั่นอย่างจริงจังที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคมของประเทศไทย โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ ที่ไม่ใช่แค่สร้างผลกระทบต่อตัวบุคคล แต่ยังสร้างผลเสียต่อสังคมในวงกว้าง เพื่อช่วยให้คนใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการตรวจคัดกรองวัณโรค เพื่อให้สอดคล้องกับแผน SVP2030 ของเรา โดยเรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ คืนกลับสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับสุขภาวะของคนไทยให้ดีขึ้นเทียบเท่าระดับสากล”

ว่ากันว่าโซลูชันด้านการแพทย์และสุขภาพแบบครบวงจรของฟูจิฟิล์ม ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างสุขภาวะที่ดีแก่สังคมด้วยนวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพล้ำสมัย นอกจากแคมเปญในการยุติวัณโรคแล้ว วิสัยทัศน์ของฟูจิฟิล์มยังครอบคลุมอีก 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาทางสังคมและความยั่งยืน ฟูจิฟิล์มยังคงแน่วแน่ในการสร้างสุขภาวะที่ดีสำหรับทุกคนอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน ไม่ว่าจะที่อินเดียหรือประเทศไทย ฟูจิฟิล์มจะไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมที่ล้ำสมัยเพื่อช่วยเหลือสังคมและสร้างโลกที่น่าอยู่ให้แก่ทุกคน

มร.มารูโอะ กล่าวทิ้งท้ายกับเราว่า “ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ ฟูจิฟิล์ม จะยังเดินหน้ารับมือกับความท้าทายเพื่อยกระดับบริการสาธารณสุขที่ทั่วถึงและมีคุณภาพ ผ่านการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนการตรวจวินิจฉัยและคัดกรองวัณโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับองค์กรไม่แสวงหากำไร “STOP TB Partnership” ที่จัดตั้งขึ้นโดยสำนักงานบริการโครงการแห่งสหประชาชาติ (UNOPS) เพื่อสนับสนุนการคัดกรองวัณโรคในกลุ่มประชากรในถิ่นทุรกันดาร”

โดยการดำเนินงานทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสังคมและสร้างความยั่งยืนของฟูจิฟิล์ม ที่พร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย เวียดนาม และประเทศไทย และอีกหลากหลายประเทศทั่วโลก ฟูจิฟิล์มจะไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมที่ล้ำสมัยเพื่อช่วยเหลือสังคมและสร้างโลกที่น่าอยู่ให้แก่ทุกคน

 

เขียนและเรียบเรียง : วิทยา กิจชาญไพบูลย์
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS