ต้นตำรับตำรายาอายุรเวทดั้งเดิมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

หากพูดถึงการดูแลสุขภาพแบบดั้งเดิมในสมัยก่อน ในช่วงที่มนุษย์ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัยดังเช่นปัจจุบันนี้ การจัดการเรื่องปัญหาสุขภาพ ความเจ็บป่วยต่าง ๆ ถูกพัฒนามาจากการเก็บข้อมูลของแพทย์สมัยโบราณ ซึ่งเป็นคนริเริ่มสังเกตและเก็บข้อมูลส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่เกิดปัญหาและทำงานบกพร่อง รวมถึงสิ่งที่สามารถทำปฏิกิริยากับร่างกายเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการรักษา บำบัด การนวด ฝังเข็ม รวมถึงการใช้สมุนไพรต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

ด้วยเหตุนี้เอง สมุนไพรหลาย ๆ ชนิดที่ใช้กันมาตั้งแต่ดั้งเดิมสมัยก่อนและมีประสิทธิภาพที่ดีมาก สามารถรักษา บำบัด และบรรเทาสิ่งที่ไม่ปกติของร่างกายมนุษย์ได้ จึงมีการส่งต่อตามยุคสมัยมาจนถึงปัจจุบันนี้ และยังใช้กันจนถึงเช่นทุกวันนี้ ซึ่งสมัยก่อนนั้นเอง ยังไม่มีเทคโนโลยีมากมายเหมือนปัจจุบัน แต่ผู้คนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข จึงเป็นเหตุผลที่สมัยนี้คนจึงให้ความสนใจในด้านการรักษาแบบสมัยก่อนมากขึ้น เพราะไม่มีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นธรรมชาติล้วน ๆ

ตำรายาอายุรเวทของจักรพรรดิมังกร ในวงการแพทย์แผนจีน หรือที่รู้จักกันในนาม TCM (Traditional Chinese Medicine) ก็เป็นหนึ่งในการแพทย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและยาวนานกว่า 5,000 ปี ที่ใช้การรักษาด้วยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการนวด ฝังเข็ม ครอบแก้ว หรือสมุนไพรบำบัด โดยส่วนใหญ่ตำราจีนนั้นจะเน้นไปในทางปรับสมดุลของหยินและหยาง ซึ่งเป็นปรัชญาของชาวจีนที่ว่า “ทุกสิ่งประกอบด้วยลมปราณที่มีการเปลี่ยนแปลง เคลื่อนไหวแสดงออก 2 ด้าน ตรงข้ามกันเป็น หยินและหยาง”

ดังนั้น การแพทย์จีนจึงใช้หลักหยินหยางเป็นพื้นฐานในการรักษาและปรับสมดุลของมนุษย์ เช่น หากทานสมุนไพรฤทธิ์ร้อนมากไปจะทำให้เกิดอาการร้อนใน หรือการทานสมุนไพรฤทธิ์เย็นเกินไปจะทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือเป็นตะคริว ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีการปรับสมดุลระหว่างสมุนไพรฤทธิ์ร้อนและเย็นผสมผสานกันไม่ให้อย่างใดอย่างหนึ่งมากจนเกินไป

ส่วนในไทยนั้นก็มีตำรายาอายุรเวทเช่นกัน และรู้จักกันในนาม TTM (Traditional Thai Medicine) ซึ่งเป็นตำราโบราณเก่าแก่มาตั้งแต่ดั้งเดิมสมัยสุโขทัย ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเรียกว่า ตำรายาผีบอก โดยจะใช้การรักษาด้วยการนวดแผนไทย การอบสมุนไพร รวมไปจนถึงการใช้สมุนไพรไทย ซึ่งเมืองไทยจัดเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อและโดดเด่นด้านสมุนไพรไทยเป็นอย่างมาก

เนื่องจากได้อิทธิพลจากเส้นศูนย์สูตรของโลก ทำให้มีสภาวะแวดล้อมใกล้เคียงกับป่าแอมะซอนที่เลื่องชื่อว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก จึงทำให้ประเทศไทยสามารถปลูกพืชที่ประเทศอื่นไม่สามารถปลูกได้และให้คุณค่า-ประโยชน์รวมถึงสารอาหารมากกว่าที่อื่น ๆ

สมุนไพรไทย จึงโดดเด่นและเป็นที่พูดถึงมากที่สุดในโลกตัวหนึ่ง ซึ่งการใช้สมุนไพรไทยก็จะใช้หลักคล้าย ๆ ของจีน แต่จะเป็นหลักของปัญจธาตุ หรือธาตุทั้ง 5 ของสภาวะอากาศซึ่งทำให้เกิดการเจ็บป่วย เช่น หากฝนตกคือธาตุน้ำ ทำให้ร่างกายเกิดความเย็นจึงเป็นหวัดได้

คนโบราณจึงนำการอบตัวให้ร่างกายร้อนหรือดื่มสมุนไพรฤทธิ์ร้อน ก็ทำให้แก้อาการหวัดได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้สมุนไพรไทยจึงได้รับความนิยมและส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบันนี้

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้เอง ปัญหาสุขภาพหรือความเสื่อมของร่างกายเกิดขึ้นมาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาวะแวดล้อม อารมณ์ ความเครียด มลภาวะ เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกมากไป รวมถึงการใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วง ทำให้คนส่วนใหญ่หันไปรักษากันมากขึ้น ซึ่งเป็นการรักษาที่การแก้ปลายเหตุโดยการใช้ยาที่ทำมาจากสารเคมี ในข้อดีคือเห็นผลไวก็จริง

แต่ข้อเสียนั้นก็มีผลข้างเคียงหลาย ๆ ส่วน จึงทำให้มีการหันมาใช้และรณรงค์เรื่องการใช้สมุนไพรที่มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม เนื่องจากผู้คนใจร้อนต้องการเห็นผลที่ไวกว่า ทำให้มีหลาย ๆ สถาบันที่หันมาสนใจการวิจัยและพัฒนาสมุนไพร

ล่าสุด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับนิตยสาร Business+ ได้จัดมอบรางวัล Product Innovation Awards 2022 โดยคัดเลือกจากสินค้าที่มีนวัตกรรมโดดเด่นในท้องตลาด ในกลุ่มประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปีนี้มีเพียง 1 รายเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือกในด้านนวัตกรรมที่โดดเด่นและเห็นผลจริง

นั่นก็คือ แบรนด์สินค้า Dr.X หรือ Hulx โดยบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด (ในเครือของ บริษัท ออกานิกส์ เลเจนดารี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)) ที่เป็นนวัตกรรมหนึ่งเดียวของการใช้สมุนไพรที่ให้ผลเทียบเท่ากับไวอากร้า เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่ใช้การผสานกันระหว่าง TCM (Traditional Chinese Medicine) และ TTM (Traditional Thai Medicine) (ศาสตร์สมุนไพรจีนร่วมกับสมุนไพรไทย) สามารถฟื้นฟูระบบร่างกายของเพศชายให้กลับมาสู่สมดุลได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องพึ่งยา ซึ่งถือว่าเป็นปีที่สองของทาง ด็อกเตอร์ เจล แล้ว ที่ได้รับรางวัล Product Innovation Awards ถึง 2 ปีซ้อน