เปิดสถิติการลาออกของ CEO บริษัทในสหรัฐฯ ในช่วงที่อำลาตำแหน่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ตั้งแต่ปีที่ทั่วโลกเจอวิกฤตเศรษฐกิจจาก COVID-19 ก็เป็นแรงกดดันสำหรับผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO เพราะเป็นตำแหน่งที่ต้องกำหนดแนวทางในการดำเนินงานของบริษัท วางแผนจัดการความเสี่ยงและความมั่นคงให้กับองค์กรแล้วยังต้องบริหารคนในองค์กรให้ดีอีกด้วย ดังนั้น ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เงินเฟ้อ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาอย่างรวดเร็วต่างเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตำแหน่ง CEO ในการพาบริษัทให้เติบโต ซึ่งแรงกดดันนี้ทำให้เกิดการลาออก และโยกย้ายในตำแหน่งนี้เป็นจำนวนมากหากไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากภาวะเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา

เราพบข้อมูลว่าในปี 2023 มี CEO ลาออกจากตำแหน่งทั้งหมด 1,914 คน เพิ่มขึ้น 55% จากปี 2565 ที่ CEO ลาออกไป 1,235 คน โดยในปี 2023 เป็นปีที่มีการลาออกมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 2002 ซึ่งจำนวนการลาออกนี้มากกว่าปี 2019 ที่เป็นปีแรกของการเผชิญ COVID เสียอีก (ที่มา : Challenger, Grey & Christmas)

โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดการลาออกจำนวนมาก เป็นเพราะบริษัทในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนหลายอย่าง ทั้งความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย เทคโนโลยีที่พลิกผัน และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ ‘Business+’ ได้คัดเลือกตัวอย่างของบริษัทรายใหญ่ และเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกที่มีการลาออกของ CEO ในปี 2023 ที่ผ่านมาดังนี้

ตัวอย่างบริษัทในปี 2023

PayPal CEO ที่ลาออก Dan Schulman มีผล 31 ธ.ค.2023
Sony Interactive Entertainment CEO ที่ลาออก Jim Ryan มีผล 27 ก.ย.2023
Chevron CEO ที่ลาออก Michael Wirth มีผล 23 ก.ค.2023
Starbucks CEO ที่ลาออก Howard Schultz มีผล 20 มี.ค.2023
YouTube CEO ที่ลาออก Susan Wojcicki มีผล 16 ก.พ.2023

อย่างไรก็ตามหลายๆ บริษัทอาจจะไม่ได้บอกสาเหตุของการลาออกทั้งหมด แต่ก็มีทั้งปัญหาด้านสุขภาพ ความต้องการรับผิดชอบกับยอดขายที่ไม่สามารถทำได้ตามเป้า และเป็นการโยกย้ายไปตำแหน่งอื่นภายในบริษัทเดิม

ซึ่งนอกจากสหรัฐแล้วก็ยังมีอีกหลายประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหาไม่ต่างกัน

โดยในช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท H&M เจ้าของธุรกิจด้านเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ ชุดกีฬา และผลิตภัณฑ์ของตกแต่งบ้านรายใหญ่ ได้ประกาศข่าวที่สะเทือนวงการกับการลาออกของ Helena Helmersson ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) หลังจากดำรงตำแหน่งมา 4 ปี ซึ่งสาเหตุของการลาออกนั้น ประกาศออกมาชัดเจนว่าเกิดจาก ผลประกอบการตั้งแต่ต้นปี 2023 จนถึงเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์จึงได้ออกมารับผิดชอบกับผลประกอบการที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

และในบ้านเราเองไม่กี่วันมานี้ก็มีการประกาศลาออกของ CEO บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY บริษัทในตลาดหุ้นไทยที่เริ่มต้นจากการให้บริการระบบตู้เติมเงิน และได้ขยายธุรกิจหลากหลายด้านเพื่อต้องการที่จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงิน (FinTech)

ซึ่ง คุณชูเกียรติ รุจนพรพจี CEO บริษัทได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ใน เพราะไม่สามารถทำยอดขายให้ถึงเป้าหมายคือ 20,000 ล้านบาท ในปี 2566 ได้ โดยบริษัทมียอดขายเพียง 9,600 บาท จึงได้โพสต์ข้อความใน Facebook ว่า ต้องการรับผิดชอบในสิ่งที่เคยให้ข้อมูลและความคาดหวังกับนักลงทุนเอาไว้

ทั้งนี้ หากมองแนวโน้มในปี 2024 ก็ยังคงเป็นปีที่ยังถูกคาดการณ์ว่าจะมีการลาออกของ CEO ทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะมีการลาออกจำนวนมาก เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีหลายปัจจัยลบรุมเร้าทั้งสงครามที่ยืดเยื้อของยูเครนและอิสราเอล การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และความขัดแย้งทางการค้า เห็นได้จากข้อมูลล่าสุด ณ เดือน ม.ค.2567 จำนวนการเปลี่ยนแปลง CEO ของบริษัทในสหรัฐฯ พุ่งแตะ 194 ตำแหน่งซึ่ง เพิ่มขึ้น 73% จากการออกจากตำแหน่งซีอีโอ 112 คนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (Challenger, Grey & Christmas, Inc.)

เขียนและเรียบเรียง :  พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ในช่องทางอื่นๆ ที่ Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS