เปิดรายชื่อร้านอาหารไทยติดโผ “Asia’s 50 Best Restaurants 2023” ด้าน ‘Le Du’ ขึ้นแท่นร้านอาหารอันดับ 1 ระดับเอเชีย!

เป็นที่รู้กันดีกว่าอาหารของไทยนั้นมีรสชาติดีไม่แพ้ใคร ด้วยความหลากหลายของวัตถุดิบ รวมถึงกรรมวิธีในการทำที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้อาหารไทยได้รับความนิยมไม่เพียงแค่ในหมู่คนไทยด้วยกัน แต่ยังรวมไปถึงชาวต่างชาติที่เมื่อได้ลิ้มลองอาหารไทยก็ตกหลุมรักในรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ไปตาม ๆ กัน

และด้วยความนิยมในอาหารไทย ทำให้ร้านอาหารไทยได้รับความสนใจตามไปด้วย ดังจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันร้านอาหารไทยหลาย ๆ ร้านได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งหลาย ๆ ร้านก็มีรางวัลการันตีถึงความอร่อย ดังเช่นอาหารไทยที่ได้ถูกคัดเลือกให้ติดอันดับ “Asia’s 50 Best Restaurants 2023” ซึ่งเป็นการจัดอันดับร้านอาหารชั้นนำระดับเอเชีย โดยปีนี้มีร้านอาหารไทยติดโผด้วยกันถึง 10 ร้าน อีกทั้งอันดับ 1 ยังตกเป็นของร้าน ‘Le Du’ หรือ ‘ฤดู’ ร้านอาหารของไทยที่มีเชฟชื่อดังเป็นเจ้าของอีกด้วย ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงการเป็นที่ยอมรับในระดับสากลอย่างไม่มีข้อกังขา

 

สำหรับร้านอาหารไทยที่ติดอันดับ “Asia’s 50 Best Restaurants 2023” มีจำนวน 9 ร้าน ซึ่งในวันนี้ Business+ จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับร้านเหล่านี้ โดยไล่เรียงตามการจัดอันดับ ดังนี้


อันดับ 1 ร้าน ‘Le Du’ หรือ ‘ฤดู’

ร้านอาหารไทยสไตล์ Fine Dining ที่มีเจ้าของเป็นถึงเชฟระดับมิชลิน ‘เชฟต้น’ ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ผู้ที่ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการทำในสิ่งที่รักและไม่หยุดพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ย่อมนำไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด อย่างร้าน ‘Le Du’ หรือ ‘ฤดู’ ที่มีชื่อสะท้อนถึงการนำวัตถุดิบคุณภาพจากเกษตรกรในท้องถิ่นที่ผ่านการคัดสรรตามฤดูกาลมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอันเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน

โดยทางร้านมีการนำเสนออาหารด้วยเมนูที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามฤดูกาลตามชื่อร้าน ในลักษณะของการเสิร์ฟเป็นคอร์ส แบบ 4 คอร์ส และ 6 คอร์ส สำหรับเมนูฤดูร้อนที่ได้รับความนิยมของทางร้าน คือ ข้าวแช่ ที่มาในรูปแบบไอศกรีมข้าวหอมกลิ่นน้ำลอย อีกเมนูที่ไม่ควรพลาด คือ ข้าวคลุกกะปิ ที่ใช้ข้าวออร์แกนิกและกะปิชั้นดีกลิ่นหอมรัญจวน เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำราดซอสมันกุ้งต้มยำ

สำหรับการจัดอันดับ “Asia’s 50 Best Restaurants” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ร้าน ‘Le Du’ ได้รับคัดเลือกให้ติดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุด 50 อันดับของเอเชีย แต่เป็นการค่อย ๆ ไต่อันดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ร้านเปิดทำการเมื่อปี พ.ศ. 2560 อีกทั้งยังได้รับการโหวตให้อยู่ใน 10 อันดับแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 และในปี พ.ศ. 2566 ก็สามารถคว้ารางวัลอันดับ 1 มาครองได้สำเร็จ

ร้าน ‘Le Du’ ตั้งอยู่ที่ ซอยสีลม 7 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร


อันดับ 3 ร้าน
‘Nusara’ หรือ ‘นุสรา’

อีกหนึ่งร้านอาหารของ ‘เชฟต้น’ ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เป็นร้านอาหารไทยคลาสสิกที่ใช้ตำรับเก่าแก่ของครอบครัวเป็นหัวใจของเมนูร้าน และคัดวัตถุดิบจากหลายแหล่งทั่วประเทศ นอกจากอาหารตำรับดั้งเดิมแล้ว การตกแต่งบริเวณชั้นสองของร้านยังชวนให้ระลึกถึงอดีตอันอบอุ่น ส่วนชั้นล่างของร้านจัดเป็นบาร์ชื่อ ‘เมรัย’ เหมาะสำหรับนั่งคุยจิบเครื่องดื่มกับเพื่อนหรือคนรู้ใจ สำหรับเมนูของร้านนี้ ได้แก่ หลนปลาอินทรีย์, ยำปลาหมึก, แกงปูใบชะพลู, อ่องปูนาอินทรีย์ แนม ข้าวมัน ส่วนเมนูเครื่องดื่มขึ้นชื่อของทางร้านคือบริการ wine pairing ที่เลือกสรรไวน์รสเลิศมากถึง 5 แก้ว เพื่อช่วยเสริมรสอาหารแต่ละจาน

 

ร้าน ‘Nusara’ ตั้งอยู่ที่ ซอยท่าเตียน ถ.มหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

อันดับ 5 ร้าน ‘GAGGAN ANAND’

ร้านอาหารอินเดียแบบ Fine Dining มีดีกรีระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว และเคยเป็นเจ้าของตำแหน่งอันดับ 1 ของ “Asia’s 50 Best Restaurants” ถึง 4 ปีซ้อน โดยเจ้าของร้านนี้คือ ‘เชฟกากั้น อนันต์’ ที่ถือเป็นเชฟชาวอินเดียคนแรกที่ได้รับรางวัล 2 ดาวมิชลิน สำหรับอาหารของร้านนี้คือการนำเสนออาหารอินเดียในรูปแบบใหม่ผ่านศาสตร์การปรุงอาหารแบบ Molecular Gastronomy ทั้งหมด 25 คอร์ส

ร้าน ‘GAGGAN ANAND’ ตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

 

อันดับ 9 ร้าน ‘Sorn’ หรือ ‘ศรณ์’

ร้านอาหารไทยปักษ์ใต้ในรูปแบบ Fine Dining ดีกรีระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว โดย ‘เชฟไอซ์’ ศุภักษร จงศิริ และ ‘เชฟ’ ยอดขวัญ อยู่พุ่มพฤกษ์ ผู้ที่มีพื้นเพมาจากภาคใต้ทั้งคู่ จึงทำให้อาหารของที่นี่มีกลิ่นอายของความเป็นอาหารใต้แท้ในรูปแบบที่ทันสมัย แต่กรรมวิธีการทำทางร้านยังคงเลือกใช้ภูมิปัญญาครัวไทยแบบโบราณ ทั้งเตาถ่าน หม้อดิน และการหมักดอง โดยทางร้านจะเสิร์ฟอาหารแบบเป็นคอร์ส จำนวน 20 คอร์ส ตั้งแต่ของคาวยันของหวาน สำหรับเมนูขึ้นชื่อของร้านคือ กรรชูเปียง เมนูที่มิชลินไกด์แนะนำให้ลิ้มลอง นอกจากนี้ยังมีเมนูอีกหลากหลายที่มีความน่าสนใจไม่น้อย เช่น The Beach, Coconut, Trang, The Sea Holds The Forest ที่แม้ว่าร้านนี้จะขึ้นชื่อเรื่องการจองโต๊ะค่อนข้างยาก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่หลาย ๆ คนอยากจะลองลิ้มรสสักครั้ง

ร้าน ‘Sorn’ ตั้งอยู่ ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

 

อันดับ 22 ร้าน ‘Sühring’

ร้านอาหารเยอรมันสไตล์ Fine Dining ระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว โดยเชฟคู่แฝดชาวเยอรมัน ‘Mathias Sühring’ และ ‘Thomas Sühring’ ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชื่อร้านมาจากอะไร เอกลักษณ์ของร้านนี้คือการผสมผสานตำรับความอร่อยสูตรเฉพาะของครอบครัวร่วมกับประสบการณ์จากการเดินทาง และศิลปะการครัวแถบยุโรปกลางเข้าด้วยกัน ทำให้อาหารของที่นี่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร นอกจากนี เมนูของร้านยังหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบสดใหม่ประจำฤดูกาล โดยเมนูที่มิชลินไกด์แนะนำคือเซ็ตเมนู Sühring Erlebnis ที่ทุกคอร์สสะท้อนให้เห็นปรัชญาการทำอาหารและความใส่ใจในรายละเอียดของเชฟได้เป็นอย่างดี

ร้าน ‘Sühring’ ตั้งอยู่ที่ ซอยเย็นอากาศ 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร


อันดับ 33 ร้าน
‘Ms. Maria & Mr. Singh’

ร้านอาหารแนว Casual บรรยากาศสีสันสดใสที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอาหารแม็กซิกันและวัฒนธรรมอาหารอินเดีย อีกหนึ่งร้านแห่งความภาคภูมิใจของ ‘เชฟกากั้น อนันต์’ โดยเมนูขึ้นชื่อของร้าน ได้แก่ Papdi Chat, Gol Gappa Puffed Masa,Cold Curry Scallop Ceviche, Burnt Carrors & Pickled Roots Tacos

ร้าน ‘Ms. Maria & Mr. Singh’ ตั้งอยู่ที่ ซอยเอกมัย 6 พระโขนงเหนือ กรุงเทพมหานคร


อันดับ 35 ร้าน
‘POTONG’ หรือ ‘โพทง’

ร้านอาหารไทย-จีน ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ที่มีการผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมและความแปลกใหม่อย่างลงตัว ผ่านการรังสรรค์โดย ‘เชฟแพม’ พิชญา สุนทรญาณกิจ Potong สำหรับร้านนี้ตั้งอยู่ในอาคารประวัติศาสตร์ชิโนโปรตุกีสที่เคยเป็นร้านขายยาจีนของครอบครัวเชฟแพม โดยผสมผสานการตกแต่งแบบเรียบง่ายและทันสมัยตั้งแต่บาร์ชั้นล่างไปจนถึงพื้นที่นั่งชิลล์บนชั้นดาดฟ้า ร้านนี้เสิร์ฟอาหารในรูปแบบเมนูชุด 20 คอร์ส ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘5 Elements’ ได้แก่ 1. Salt รสเค็มจากเกลือ 2. Acid รสเปรี้ยวจากของหมักดอง 3. Spice ความเผ็ดและหอมจากเครื่องเทศ 4. Texture เนื้อสัมผัสของวัตถุดิบที่แตกต่าง สร้างมิติให้กับการรับรสชาติ 5. Millard การรมควัน เพิ่มกลิ่นและรส

ร้าน ‘POTONG’ ตั้งอยู่ที่ ถนนวานิช แขวง สัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร


อันดับ 38 ร้าน
‘Jay Fai’ หรือ ‘เจ๊ไฝ’

เชื่อว่านาทีนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จัก ‘ร้านเจ๊ไฝ’ สตรีทฟู้ดระดับมิชลิน 1 ดาว ที่มีเมนูขึ้นชื่ออย่างไข่เจียวปู ที่แค่เพียงได้เห็นภาพก็ทำเอาผู้คนอยากจะลองลิ้มชิมรสสักครั้ง นอกจากนี้ยังมีเมนูที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อาทิ ผัดขี้เมาทะเล, ต้มยำ, ปูผัดผงกะหรี่ เป็นต้น

ร้าน ‘เจ๊ไฝ’ ตั้งอยู่ที่ ถนนมหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร


อันดับ 46 ร้าน
‘Baan Tepa’ หรือ ‘บ้านเทพา’

อีกหนึ่งร้านอาหารสไตล์ Fine Dining ดีกรีระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ของ ‘เชฟตาม’ ชุดารี เทพาคำ ผู้ชนะการแข่งขัน ‘Top Chef Thailand’ ผู้พลิกโฉมบ้านโบราณสองชั้นของคุณยายให้กลายเป็นร้านอาหารที่มีสไตล์อันโดดเด่น โดยเมนูของที่นี่คืออาหารไทยร่วมสมัยที่มาจากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ ‘เชฟตาม’ เป็นผู้ปลูกด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังได้คัดสรรผัก ผลไม้จากเกษตรกรไทยที่ใช้หลักความยั่งยืนในการปลูกมาใช้เป็นวัตถุดิบของร้านอีกด้วย สำหรับเมนชวนลิ้มลองของที่นี่ คือ Crab Crab Crab, Street Cart Chicken Liver and Jaew,  Koh Lanta Seafood Mosaic

 

ร้าน ‘บ้านเทพา’ ตั้งอยู่ที่ ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

ที่มา : theworlds50best, ledubkk, MICHELIN Guide, nusarabkk, panasm

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #Asia’s50BestRestaurants2023 #LeDu #ฤดู #ร้านอาหาร #ร้านอาหารไทย #ร้านอาหารไทยระดับมิชลิน