เมืองรอง สถานที่ท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ของคนไทย

 

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดว่า ปี 2565 คนไทยท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น 161.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีนี้ได้ผันจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลายเป็นนักท่องเที่ยวไทยเป็นกำลังหลัก เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นได้น้อยกว่าคาด ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ ทำให้การท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งมีค่าครองชีพต่ำกว่าเมืองท่องเที่ยวหลัก และมีความแออัดของผู้คนน้อยกว่า กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ของคนไทย

 

หลังจากที่รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ ไล่เรียงตั้งแต่การยกเลิกระบบ Test & Go สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตามด้วยการยกเลิกระบบ Thailand Pass สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป รวมทั้งการกลับมาเปิดธุรกิจภาคกลางคืนตามเวลาปกติด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศเข้ามาใช้จ่ายในประเทศมากขึ้น แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจเดินทางเข้ามาในประเทศน้อยกว่าที่คาดไว้เนื่องจากวิกฤต COVID-19 ที่เรากำลังเผชิญอยู่ ดังนั้นเราจึงเห็นการเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวไทยมากกว่าต่างชาติ

 

โดย ttb analytics ประเมินว่า นักเดินทางชาวไทยที่ท่องเที่ยวในประเทศจะสูงถึง 188.1 ล้านคน-ครั้ง และมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 7.2 แสนล้านบาท ซึ่งจะมาจากการที่ภาครัฐกระตุ้นนักท่องเที่ยวในประเทศด้วยมาตรการต่าง ๆ อย่าง  โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนต่อขยาย รวมถึงโครงการรัฐทัวร์ทั่วไทย ที่ให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา โดยไม่ถือเป็นวันลา ได้จำนวน 2 วัน ตั้งแต่กรกฎาคมจนถึงสิ้นปี นอกจากนี้นักท่องเที่ยวไทยเองก็โหยหาการท่องเที่ยวจากการกักตัวในระหว่างการแพร่ระบาดของ COVID-19 ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาด้วย ยิ่งทำให้การท่องเที่ยวของนักเดินทางในประเทศค่อนข้างคึกคัก

 

แต่ก็มีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยอยู่ก็คือ อัตราเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนไทยต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากขึ้นไปด้วย ทำให้การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการท่องเที่ยวในประเทศจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่เทียบเท่าช่วงเวลาก่อน COVID-19 ระบาด (ปี 2562) แต่ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยจังหวัดทางภาคใต้ที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าภูมิภาคอื่นฟื้นตัวได้ช้าทั้งในแง่จำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้ และมีเพียง 12 จังหวัดคือ ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี สระบุรี ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ลำปาง แพร่ พะเยา เชียงราย  บุรีรัมย์ สมุทรสงคราม ยะลา ที่ฟื้นตัวทั้งในแง่จำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้ เมื่อเที่ยบกับปี 2562 ซึ่งมากกว่าครึ่งเป็นจังหวัดเมืองรอง

 

เทรนด์ใหม่การท่องเที่ยว หนีความแออัดจากเมืองหลัก สู่สถานที่ UNSEEN ในเมืองรอง

จากผลสำรวจจึงพบว่า นักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวในเมืองรองเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่วง 2 ปีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้รัฐมีมาตรการการเดินทางข้ามจังหวัดที่เข้มงวด จำกัดการเดินทางมากขึ้น และการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้พฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยเปลี่ยนไป ผู้คนหันมาเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียง หรือสถานที่อยู่ในระยะใกล้มากขึ้น และเพื่อหลีกหนีความแออัดจากเมืองหลักที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

 

โดยเป็นการเดินทางไปยังสถานที่เที่ยวใหม่ ๆ เพื่อหาประสบการณ์มากกว่าจะไปเที่ยวในสถานที่ยอดนิยมเช่นเดิม และการท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ยึดโยงกับท้องถิ่นและความมีเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้น ๆ อีกทั้งการท่องเที่ยวเมืองรองยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ด้วย เพราะการเดินทางในจังหวัดเหล่านั้นมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าเมืองหลักในภูมิภาคเดียวกันราว 20-40%

 

จับกลุ่มเป้าหมาย กระจายรายได้สู่เมืองรอง

ที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและยั่งยืน แต่ยังต้องกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังเมืองรองอย่างต่อเนื่อง ดึงคนให้ใช้เวลาและใช้จ่ายในเมืองรองให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น และต้องส่งเสริมทั้งเรื่องการอำนวยความสะดวกการเดินทางภายในจังหวัด การมีโครงสร้างพื้นฐานที่ครบครัน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกันของภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน รวมทั้งการจัดแคมเปญต่าง ๆ เพื่อดึงดูดคนมาท่องเที่ยวเมืองรอง ทั้งการลดหย่อนภาษี โครงการเราเที่ยวด้วยกัน การสนับสนุนการท่องเที่ยววันธรรมดา การท่องเที่ยวนอกฤดูกาล ไม่ว่าจะช่วงไฮซีซันหรือโลว์ซีซันก็สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนยุคนี้ ที่ทำงานจากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน คาเฟ่ ที่พัก โรงแรม หรือระหว่างการพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ แค่ทำงานผ่านออนไลน์ได้ก็เพียงพอ เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า Digital Nomad  ซึ่งเมืองรองที่ไม่วุ่นวาย สงบ และค่าใช้จ่ายถูกกว่าเมืองหลักจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนกลุ่มนี้ ถ้ามีการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และมีบริการอินเทอร์เน็ตที่ดี ก็จะดึงดูดกลุ่ม Digital Nomad ได้มาก

 

อัตลักษณ์เมืองรอง

นอกจากนี้การกระตุ้นหรือส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองนั้น ยังต้องเข้าใจอัตลักษณ์ของเมืองรองให้ดีเสียก่อน ด้วยการกำหนดทิศทางการส่งเสริมตลาดในประเทศของแต่ละภูมิภาคโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการ ค้นหา สร้างอัตลักษณ์ เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์สินค้า ประสบการณ์ส่งต่อสู่นักท่องเที่ยวนั้น จะมีจุดเด่นในแต่ละภาค ดังนี้

ภาคเหนือ : เจาะตลาดศักยภาพด้วยประสบการณ์สัมผัสวิถีเหนือแท้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ขยายฐานกลุ่ม Silver Age ด้วยฮีต 12 คอง 14 (ประเพณีของชาวอีสาน) หัตถกรรมและอาหารถิ่นอีสาน

ภาคกลาง : เดินทางย้อนอดีตแบบ Premium Nostalgia

ภาคตะวันออก : เจาะกลุ่ม SMEs และ Corporate เดินทางในวันธรรมดา

ภาคใต้ : ปรับมุมมองการรับรู้ที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเล และพลิกมุมมองของจังหวัดภาคใต้ชายแดน

 

เมืองรองน่าท่องเที่ยว

จากการสำรวจข้อมูลชุดล่าสุด ตอนนี้ไทยมีเมืองรองมีทั้งหมด 55 จังหวัด ซึ่งทาง Business+ ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบางส่วนเป็นตัวเลือกให้ผู้อ่านได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวในเมืองรองกัน

 

นครนายก จังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก แต่มีธรรมชาติที่สวยงาม ต้นไม้เขียวขจี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน สถานที่ที่น่าสนใจคือ เขาช่องลม ที่อยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล ความชุ่มฉ่ำของฝน สายน้ำที่ไหลผ่านโขดหิน และสีเขียวของใบไม้คงทำให้รู้สึกสดชื่นได้ไม่น้อยเลย เหมาะกับการไปพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ ที่ถึงแม้จะมีเวลาแค่ช่วงสั้น ๆ แต่ก็สามารถเก็บบรรยากาศและสูดอากาศสะอาดได้เต็มปอด

 

พะเยา อีกจังหวัดที่คนยังไม่ค่อยพลุกพล่าน หากว่าต้องการตัวเลือกที่ใกล้เคียงกับน่าน ซึ่งเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมเยือนมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พะเยาที่อยู่ติดกันก็เป็นจังหวัดที่น่าสนใจ เพราะบรรยากาศใกล้เคียงกัน มีสถานที่เที่ยวที่สวยงามอย่าง ภูลังกา ซึ่งสามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้าได้ มีน้ำตกธารสวรรค์ และสามารถแวะวัดต่าง ๆ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของพะเยาได้

 

นครศรีธรรมราช นับเป็นอีกจังหวัดทางภาคใต้ที่น่าสนใจไม่แพ้เมืองหลักอย่างกระบี่ หรือภูเก็ตเลย เพราะนครศรีธรรมราชเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม มีทั้งทะเล ภูเขา สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย สายบุญ สายมู ก็ต้องแวะวัดเจดีย์ ไอ้ไข่ ที่เลื่องชื่อ และนครศรีธรรมราชยังมีหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศอย่างคีรีวง แถมยังแวะกินอาหารทะเลที่ทั้งสดและอร่อยได้อีกด้วย

 

จะเห็นได้ว่าเมืองรองในแต่ละพื้นที่มีอัตลักษณ์ และความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไปให้คนไทยได้ไปท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้เราคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวไทยจะเติบโตกว่าปีก่อน และเทรนด์การท่องเที่ยวในปีนี้มีแนวโน้มกระจายรายได้ไปยังเมืองรองเพิ่มมากขึ้น เพราะ COVID-19 และสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูง ส่งผลต่อเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สไตล์การท่องเที่ยวของคนไทยเปลี่ยนไป จากที่เคยกระจุกกันอยู่ที่แลนด์มาร์กของเมืองหลักที่ค่าครองชีพสูง ก็หันไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในเมืองรองหรือสถานที่เที่ยวในระยะใกล้ ๆ เพื่อลดความแออัดและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งส่งผลดีต่อชุมชน เพราะมีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

 

ดังนั้นหากภาครัฐสนับสนุนให้คนไทยเที่ยวเมืองรองด้วยการจัดแคมเปญดึงดูด และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอำนวยความสะดวกในการเดินทางอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวเมืองรองอาจเติบโตได้มากขึ้น และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของคนไทยมากยิ่งขึ้นในอนาคต

 

ที่มา : ttb analytics, digimusketeers, สำนักงบประมาณของรัฐสภา, สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

 

 

เขียนและเรียบเรียง : สีน้ำ แผ่วฉิมพลี

 

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

.

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #การท่องเที่ยว #นักท่องเที่ยวไทย #เมืองรอง