“ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์’ ปั้น “อมาโด้” ด้วยสไตล์ “คิดเร็ว ทำเร็ว”

“ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์’ ปั้น “อมาโด้” ด้วยสไตล์ “คิดเร็ว ทำเร็ว”

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “เมื่อโลกเปลี่ยนไว โลกธุรกิจต้องเปลี่ยนให้ไวกว่า” นั่นหมายความว่า หากจะอยู่รอดในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ย่อมต้องปรับตัวรับมือกับการแข่งขัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและอยู่รอดอย่างแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ “อมาโด้ กรุ๊ป” ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน ภายใต้การปลุกปั้นของ ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักเขาในเชื่อ “เชน ธนา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด อดีตนักร้องดังในยุคมิลเลนเนียล ผู้ผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจ ผู้พลิกเส้นทางชีวิตจากศิลปินสู่ซีอีโอพันล้านในห้วงระยะเวลาไม่ถึง 10 ปีเท่านั้น

ในช่วงแรก สไตล์การทำธุรกิจของคุณธนาตรัยฉัตรที่หลายอาจจะมองว่ามีความ “กล้าและบ้าบิ่น” แต่ในความกล้าบ้าบิ่นที่คนส่วนใหญ่เห็นนั้น ล้วนขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีสไตล์ “คิดเร็ว ทำเร็ว” นั่นเพราะธุรกิจเริ่มแรกของอมาโด้ กรุ๊ป คือ ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในหมวดสุขภาพและความงาม ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง จึงต้องปรับตัวและวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้ทันกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและกลยุทธ์ของคู่แข่ง

ที่ผ่านมา แม้ว่าอมาโด้จะเริ่มต้นด้วยการทำธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงอย่างตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยมี ‘คอลลาเจน’ เป็นสินค้าหลัก ที่ในยุคนั้นใคร ๆ ก็ขายคอลลาเจน แต่ด้วยเข้าใจและปรับเปลี่ยนสินค้าตามพฤติกรรมผู้บริโภค จึงสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอสินค้าบนจุดขายกับสโลแกนที่ฮิตติดจอก็คือ “ไม่ใส่สี ไม่มีน้ำตาล” เพื่อล้อไปกับเทรนด์ผู้บริโภคที่หันมาบริโภคผลิตภัณฑ์แบบ Sugar Free มากขึ้น ซึ่งด้วยความแตกต่าง การคิดค้นผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มช่องทางขายใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา จึงทำให้อมาโด้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดคอลลาเจนประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่งดังเช่นปัจจุบัน

ไม่เพียงแต่ในตัวผลิตภัณฑ์เท่านั้นที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อมาโด้ยังได้ต่อยอดธุรกิจด้วยการเข้าสู่ตลาด TV Shopping หลังจากได้เก็บข้อมูลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นำมาวิเคราะห์ด้วย Data Driven Marketingทำให้เห็นช่องทางในการขยายธุรกิจ ซึ่งนอกจากการนำสินค้าสุขภาพและความงามจากอมาโด้มาจำหน่ายแล้ว ยังมีสินค้าจากพันธมิตรทางธุรกิจนำมาจัดจำหน่ายผ่านอมาโด้ ช้อปปิ้ง (Amado Shopping) ได้อีกด้วย

“ต้องยอมรับว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างคอลลาเจนในขณะนี้เริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว แม้ว่าอมาโด้จะยังเป็นผู้นำตลาด และยังมียอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสินค้ากลุ่มสกินแคร์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หากจะไปสู่เป้าหมายที่เราวางไว้ การพึ่งพาสินค้าหลักเพียงกลุ่มเดียวคงจะไม่เพียงพอ ดังนั้น เราจึงวางแผนขยายธุรกิจด้วยการนำสินค้าเข้าสู่ช่องทาง TV Shopping โดยจะมีสินค้าจากพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ นำมาขายผ่านช่องทางของเรามากขึ้น” คุณธนาตรัยฉัตรระบุ พร้อมชี้ว่า

“ในยุคนี้การมีสินค้าให้ลูกค้าเลือกที่หลากหลาย หรือการมีจำนวน SKU จำนวนมาก จะช่วยให้อมาโด้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมากด้วย อย่างเช่น การจับมือเป็นพันธมิตรกับ HUAWEI เพื่อจำหน่ายสมาร์ทวอตช์ เริ่มต้นจาก HUAWEI Band 8 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้านี้ที่มียอดขายผ่านช่องทางเดิมทั้งปีได้ราว 7,000 เรือน แต่หลังจากนำมาขายบนช่องทาง TV Shopping ของอมาโด้ ผลปรากฏว่าสามารถขายได้ถึง 10,000 เรือน ภายในเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น และล่าสุดเมื่อทางแบรนด์เปิดตัว HUAWEI Band 9 ทางอมาโด้จึงได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดจำหน่ายแบบ Exclusive และหลังจากนี้จะมีสินค้าต่าง ๆ ของ HUAWEI เข้ามาสู่ช่องทางขายของอมาโด้
มากขึ้น ถือเป็นโมเดลความร่วมมือที่ผลักดันการเติบโตทางธุรกิจของทั้ง 2 ฝ่ายในอนาคต

ไม่เพียงเท่านั้น ในช่องทาง TV Shopping ของอมาโด้ยังได้มองถึงสินค้าที่ได้ช่วยเหลือสังคม โดยล้อไปกับสินค้าที่เป็น Soft Power หรือสินค้าวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ เพื่อผลักดันสินค้าชุมชนสู่ตลาดออนไลน์และตลาดโลก ผ่านช่องทางการจำหน่ายและประชาสัมพันธ์ที่มากขึ้น ด้วยแผนการตลาดรูปแบบต่าง ๆ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ออนแอร์

“หลายคนอาจจะแปลกใจว่า ทำไมเราจึงนำสินค้าโอทอปมาขายในช่องทางของอมาโด้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า กำไรต่อชิ้นของสินค้ากลุ่มนี้ต่ำมาก แต่เรามองใน 2 มิติ โดยมิติแรกเป็นเรื่องของการเพิ่มจำนวน SKU ให้สินค้ามีความหลากหลาย และในขณะเดียวกันยังได้ในเรื่องมิติความยั่งยืนของสินค้าวิสาหกิจชุมชน เป็นการสร้างโอกาสและรายได้ รวมทั้งชื่อเสียงให้ประชาชนในจังหวัดนั้น ๆ ให้มีมิติก้าวกระโดดในด้านการผลิตตลอดจนการขยายการตลาดในช่องทางของอมาโด้ ซึ่งเราจะเปิดกว้างสินค้าวิสาหกิจชุมชนทุกแห่งทั่วประเทศ ขอเพียงมีการผลิตที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น”

และแน่นอนว่าในยุคของการแข่งขันที่รุนแรง จากเดิมผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามที่เคยเป็นจุดแข็งของอมาโด้ อาจจะไม่สามารถขยับเพดานให้สูงขึ้นไปกว่านี้ ดังนั้น การปรับตัวเพื่อให้อยู่ในจุดที่ได้เปรียบในการแข่งขันด้วยสไตล์ คิดเร็ว ทำเร็ว ตามสไตล์ “เชน-ธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ยังจะมีออกมาให้เห็นอีกอย่างแน่นอน

 

รับชมในรูปแบบ Video