ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้บริหารมือทองที่มีฝีมือไม่ธรรมดา

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้บริหารมือทองที่มีฝีมือไม่ธรรมดา

มากไปกว่าการแสวงหาความเติบใหญ่ คือการขยายธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืนเพื่ออนาคตของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ท่ามกลางธุรกิจประกันวินาศภัยในประเทศไทยที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง แถมเล่นแรงถึงขั้นเล่นเกมตัดราคา “ผู้นำ” อย่าง ดร.อภิสิทธิ์ จึงต้องวางกลยุทธ์ที่แตกต่างด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ “ให้มากกว่า” เเละความคุ้มครองที่ “พิเศษมากขึ้น” พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนควบคู่กับการดูแลสังคมให้เติบโตไปพร้อมกัน

ก้าวไปอีกขั้นกับการยกระดับพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI ที่ “ผู้นำ” อย่าง ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจขององค์กรด้วยการยึดมั่นในแนวคิด “ใจเขาใจเรา” นำมาสู่การดูแลเอาใจใส่ลูกค้าในทุก ๆ ด้าน และมุ่งพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด พร้อมดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งเเวดล้อม สังคม เเละธรรมาภิบาล ซึ่งสอดคล้องกับข้อคิดประจำตัวของ ดร.อภิสิทธิ์ คือ “พึงใส่ใจกับความต้องการและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้อื่น ให้เหนือกว่าใส่ใจในความต้องการและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับตนเอง”

จึงทำให้ในปี 2566 ผลการดำเนินงานของกรุงเทพประกันภัยมีการเติบโตอย่างโดดเด่น สามารถสร้างผลกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,043.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 576.8 ซึ่งถือเป็นผลกำไรสูงสุดในรอบ 76 ปี ของการดำเนินธุรกิจ และมีเบี้ยประกันภัยรับรวมถึง 29,915.7 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าร้อยละ 12.1 แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 12,478.4 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์หรือ Non-Motor 17,437.3 ล้านบาท

แน่นอนว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ ประสบความสำเร็จด้วยหลากหลายปัจจัยสนับสนุน หนึ่งในนั้นคือการดำเนินกลยุทธ์ที่แตกต่าง พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้มากกว่าและความคุ้มครองที่พิเศษมากขึ้น รวมถึงการขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น แผนประกันภัยรถยนต์ 2+ Super Special ที่เพิ่มความคุ้มครองความเสียหายจากการพลิกคว่ำหรือตกทาง รวมถึงความคุ้มครองความเสียหายต่อกระจกบังลมรถยนต์ อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการชน และล่าสุดกับการเพิ่มความอุ่นใจให้คนรักสัตว์เลี้ยง ผ่านการมอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้เอาประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ทุกแผนประกันภัย ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าต่ออายุประกันภัย ด้วยความคุ้มครองการเสียชีวิตและค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยง (แมวและสุนัข) ที่อยู่ภายในรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการชน โดยไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมแต่อย่างใด พร้อมพัฒนาแผนประกันภัยที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากยิ่งขึ้น อาทิ ประกันภัยอุบัติเหตุและประกันภัยการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ประกันภัยสำหรับรายย่อย (Micro Insurance) ตลอดจนการออกกรมธรรม์ประกันภัยอิเล็กทรอนิกส์ (e-Policy) เพื่อให้ลูกค้าได้รับกรมธรรม์อย่างสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ยกระดับนวัตกรรมการบริการอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาอู่ซ่อมในสัญญาให้มีคุณภาพมากขึ้น ผ่านโครงการอู่ชวนซ่อม การปรับลดระยะเวลาจ่ายค่าซ่อมให้อู่ในสัญญาเร็วขึ้น รวมทั้งการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาสนับสนุนธุรกิจ เช่น พัฒนาระบบ API Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกรรมกับคู่ค้า สร้างความเชื่อมั่นด้วยระบบ Cyber Security ที่เเข็งแกร่ง และขยายการเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุดผ่านช่องทางดิจิทัล นอกเหนือจากการมีสาขาที่ให้บริการครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศ

พร้อมกันนั้น บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการเป็น Data-Driven Organization ที่ใช้ฐานข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยมุ่งเน้นให้ผู้บริหารและพนักงานนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ ทั้งในงานด้านการรับประกันภัย สินไหมทดแทน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

ด้วยผลงานที่เด่นชัดข้างต้น แน่นอนว่า ดร.อภิสิทธิ์ต้องวางกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์ “คุณค่า” ของบริการแบบครบวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการผนึกเอาจุดแข็งของกรุงเทพประกันภัยมายกระดับพัฒนาให้เข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าและคู่ค้ามากยิ่งขึ้น  และสิ่งสำคัญที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ กลยุทธ์ที่จะพัฒนาองค์กรไปสู่ความยั่งยืน โดยบริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจและนโยบายต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยรวมแล้วสามารถแบ่งได้เป็น 3 ด้านใหญ่ ๆ คือ ด้านธรรมภิบาล (Governance), ด้านสังคม (Social) และด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental)

“กรุงเทพประกันภัยมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคม ควบคู่กับการสร้างการเติบโตด้วยผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “มุ่งเป็นที่สุดในใจลูกค้า” ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยที่หลากหลาย ตรงใจลูกค้า ตอบสนองรวดเร็ว ฉับไว และสร้างความประทับใจในบริการ พร้อมด้วยการพัฒนาพนักงานที่มีความรู้ ความสามารถ ก้าวทันนวัตกรรม และยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นองค์กรคุณธรรม รวมทั้งมีจิตสำนึกในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่มีต่อผู้มีส่วนได้เสียต่าง ๆ ทั้งผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน หน่วยงานกำกับดูแล ตลอดจนสังคมและชุมชนอย่างจริงจังและจริงใจ”

ได้ฟังคำตอบทั้งหมดของ ดร.อภิสิทธิ์ แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าฝีมือการบริหารของคน ๆ นี้ ไม่ธรรมดาจริง ๆ 

 

รับชมในรูปแบบ Video