ราคาอาหารเตรียมพุ่งสูงอีกรอบ หลัง รัสเซีย ยูเครน และเบลารุส ส่งออกปุ๋ยไม่ได้

การปรับตัวสูงขึ้นของต้นทุนชีวิตมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ดูแล้วน่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนี้ไม่หยุด โดยล่าสุดสถานการณ์ราคาอาหารก็ดูจะเป็นอีกเรื่องที่กำลังจะหลุดออกจากการควบคุมแล้ว หลังสงครามในยูเครนเกิดขึ้นจนนำไปสู่การแซงก์ชั่นรัสเซียของตะวันตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตอนนี้ 2 ประเทศผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่ของโลกไม่สามารถส่งออกปุ๋ยเคมีได้อย่างเดิมอีกแล้ว และนั่นไปผลักดันให้ชาวไร่ชาวนากำลังจะเจอกับสถานการณ์ราคาปุ๋ยแพงเพราะสารเคมีสำหรับทำปุ๋ยถูกห้ามส่งออกหรือส่งออกไม่ได้ ซึ่งมันจะส่งผลไปถึงราคาอาหารที่แพงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน

โดยประเทศรัสเซียและประเทศยูเครนส่งออกปุ๋ยเคมีซึ่งทำจากสารไนโตรเจน สารฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมรวมกันคิดเป็น 28% ของโลก ขณะประเทศรัสเซียและประเทศเบลารุสส่งออกโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์รวมกันคิดเป็น 40% ของทั้งโลก ขณะที่รัสเซียส่งออกสารยูเรียคิดเป็น 11% ของโลก และสารแอมโมเนียมไนเตรตอีก 48% (ข้อมูลจากทาง Morgan Stanley) โดยย้อนกลับไปในช่วงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2022 ทางประเทศเบลารุสก็มีแถลงการณ์ออกมาว่า ตอนนี้พวกเขาไม่น่าจะรักษาระดับราคาของสัญญาซื้อขายที่ราคาปัจจุบันได้อีกแล้ว ตรงนี้เท่ากับส่งสัญญาณว่าราคาจะมีการปรับตัวพุ่งขึ้นสูงอย่างแน่นอน

โดยคุณ Tony Will ซึ่งเป็น CEO ของ CF Industries Holdings, Inc. ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปุ๋ยทางการเกษตรในอเมริกาเหนือ เผยว่า ตอนนี้กำลังมีปัญหาใหญ่มากเกิดขึ้น อุปทานปุ๋ยทั่วโลกกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ตอนนี้อุปสงค์หรือความต้องการพุ่งสูงขึ้นอย่างมากแต่อุปทานในตลาดกลับลดลง และสงครามก็เข้ามาทำให้สถานการณ์นี้แย่ลงอย่างมาก สอดคล้องไปกับคุณ Bart Melek ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์โลกเผยว่า “ตอนนี้เรากำลังจะเจอความโชคร้ายแบบ 3 ชั้นซ้อน ก็คือวิกฤตภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น และการขาดแคลนของสินค้า”

ตอนนี้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าหลังสงกรานต์ราคาปุ๋ยจะปรับตัวขึ้น 2 เท่าทันที โดยตัวอย่างที่ชัดเจนคือโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ซึ่งที่เมืองแวนคูเวอร์ที่ประเทศแคนาดาปรับตัวขึ้นมามากกว่า 100% ในเวลาเพียงปีเดียว โดยในปี 2021 ราคาอยู่ที่ 210 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และตอนนี้มันอยู่ที่ 565 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ด้านสารยูเรียที่ส่งไปยังตะวันออกลางซื้อขายกันในตลาดชิคาโก้ตอนนี้ที่ 268 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ราคาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ 887.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ขณะที่ชาติตะวันตกจะเจอต้นทุนทุกอย่างแพงแล้ว ที่สำคัญกว่าคือการไปแซงก์ชั่นเขาก็ทำให้ตัวเองนำเข้าอาหารจากรัสเซียไม่ได้ด้วย เช่น ข้าว ที่ปัจจุบันพญาหมีขาวผลิตและส่งออกไปอยู่ที่ 30% ต่อปี ขณะที่ข้าวโพดส่งออกที่ 20% ต่อปี โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเดือนกรกฎาคมของข้าวสาลีปรับตัวขึ้น 4% เมืองวันอังคาร และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวโพดปรับตัวขึ้น 30% นับตั้งแต่ช่วงเวลาตั้งแต่วันแรกของปี (วันทำการแรกของปีหรือรอบบัญชี) จนถึงวันปัจจุบัน ซึ่งทาง Morgan Stanley ก็คาดการณ์ว่าระดับราคานี้จะยังคงอยู่ไปจนถึง 2023 เลยทีเดียว

แปลและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ที่มา : CNBC

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ราคาอารหารแพง #ปุ๋ยรัสเซีย #อาหารรัสเซีย #รัสเซียยูเครน #สงครามรัสเซียยูเครน #Food #ไนโตรเจน #แอมโมเนียมไนเตรต #ฟอสฟอรัส #โพแทสเซียม #fertilizershortage #อาหารขาดแคลน #ปุ๋ยขาดแคลน