ยุคพุ่งทะยานรถยนต์ EV ในจีน พร้อมสมรรถนะไม่ธรรมดา (ตอนที่ 3)

Li Auto

Li Auto (ลีออโต้) เป็นรถ EV ของจีนอีกค่ายหนึ่งที่เป็นที่พิสมัยของนักลงทุนตลาดหุ้นนิวยอร์ก มีมูลค่าตลาดทะยานขึ้นตามติด NIO และ XPeng มาตลอด โดยค่ายรถ EV สัญชาติจีนรายนี้ก่อตั้งขึ้นโดยนายหลี่เซี่ยน ในปี 2015 สำนักงานใหญ่อยู่ที่ปักกิ่ง และโรงงานอยู่ที่เมืองฉางโจว มีมหาเศรษฐีนักธุรกิจเจ้าของแอปพลิเคชัน TikTok และแอปพลิเคชันดีลิเวอรียักษ์ใหญ่ของจีน คือ Meituan หนุนหลัง

Li Auto เชี่ยวชาญในการผลิตรถประเภทปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เป็นรถเอสยูวีครอสโอเวอร์ เริ่มจำหน่ายรถครั้งแรกเป็นโมเดล Li One ปลายปี 2019 ขายได้ประมาณ 10,000 คัน ส่วนปี 2020 ขายได้ประมาณ 25,000 คัน มีดีลเลอร์ 45 รายใน 38 เมือง และศูนย์บริการ 97 แห่งครอบคลุม 72 เมือง

Evergrande Auto

Evergrande Auto (เอเวอร์แกรนด์ ออโต้) เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่โดนปลุกระดมขึ้นมาผลิตรถ EV เพื่อเอาชนะ Tesla โดยมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจกลุ่ม Evergrande ยักษ์ใหญ่ทางด้านพัฒนาที่ดิน ร่วมกับมหาเศรษฐีธุรกิจชั้นนำของฮ่องกงระดมทุนขั้นแรก 3,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Evergrande Auto เริ่มเปิดตัวรถไฟฟ้าพลังงานทางเลือก 6 โมเดลในเดือนสิงหาคม 2020 ในแบรนด์ Hengchi (เหิงฉี) เป็นรถเก๋ง 2 คัน เอสยูวี 3 คันและเอ็มพีวี 1 คัน โดยประกาศว่าบริษัทได้ลงทุนการผลิตแบบครบวงจร ทั้งแบตเตอรี ระบบส่งกำลังรถยนต์ โรงประกอบรถและระบบชาร์จไฟ มีโรงงานที่เซี่ยงไฮ้และกวางโจว โดยตั้งเป้าเริ่มวางตลาดกลางปี 2021 ซึ่งรถ EV ของ Evergrande Auto มีนักออกแบบชั้นนำที่มาจากค่ายรถต่าง ๆ ทั้งของเยอรมนีและญี่ปุ่น และนักวิเคราะห์ระบุว่า การเปิดตัวรถที่เดียว 6 โมเดลเป็นสไตล์ของกลุ่ม Evergrande ที่ต้องการความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

BYD

BYD (บีวายดี) มีนายวอเรน บัฟเฟตถือหุ้นอยู่ เป็นค่ายรถยนต์ EV สัญชาติจีนรายแรกที่เคยครองตลาดรถ EV ในจีนเป็นอันดับหนึ่งก่อนจะโดน Tesla แย่งตำแหน่งไปในปี 2020 ทำให้ BYD ตัดสินใจเพิ่มทุนอีก 133 ล้านหุ้น ในตลาดหุ้นฮ่องกงมูลค่า 29,900 ล้านฮ่องกงดอลลาร์ช่วงต้นปี 2021 นี้ โดยเงินทุนที่เพิ่มขึ้นจะนำไปลงทุนในการวิจัยและพัฒนาและปรับโครงสร้างทางการเงิน

ช่วงเวลาเดียวกันกับการเพิ่มทุน BYD ประกาศเปิดตัวรถรุ่นใหม่ โดยรายงานจากเว็บข่าว just-auto.com เขียนโดย Graeme Roberts เผยแพร่ในวันที่ 13 มกราคม 2012 ระบุว่า BYD ได้เปิดตัวรถใหม่ 3 โมเดลใช้ระบบปลั๊กอินไฮบริด DM-I ที่บริษัทพัฒนาขึ้นทำให้สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1,200 กิโลเมตรต่อการชาร์จ

รถปลั๊กอินไฮบริดของ BYD ประหยัดเชื้อเพลิงน้ำมันกว่าไฮบริดทั่ว ๆ ไป และมีอัตราเร่งที่เร็วกว่ารถน้ำมันในระดับเดียวกัน 2 – 3 วินาที โดยนาย Wang Chuanfu ประธานบริษัทแถลงในการเปิดตัวรถใหม่ทั้ง 3 รุ่นที่ใช้ระบบ DM-1 ว่า “ระบบใหม่ของ BYD จะดีสรัปตลาดรถสันดาปภายในและทำให้การขับขี่ในประเทศเข้าใกล้เป้าหมายการเดินทางเขียวมากขึ้น

รถ EV จีนสำหรับตลาดทั่วไปนั้นมีบริษัทรถยนต์ของจีนมากกว่า 8 บริษัท ที่ขยายการผลิตจากรถน้ำมันเข้าสู่รถ EV โดยมีค่ายรถที่น่าจับตาประกอบด้วยบริษัท SAIC เจ้าของแบรนด์ MG บริษัท BAIC เจ้าของแบรนด์รถไฟฟ้า BJEV บริษัท Geely Automobile (Geely) เจ้าของแบรนด์ Polester และ Great Wall เจ้าของแบรนด์ Orla

BAIC เป็นบริษัทที่ขายรถ EV ได้มากเป็นอันดับ 3 ของประเทศจีน รัฐบาลถือหุ้น 60% โดยนอกจากรถ EV สายพันธุ์ BJEV แล้วยังมีรถที่เปิดตัวขายในประเทศจีนในปี 2018 คือรถเอสยูวีขนาดเล็ก EX360 รถซีดาน EU 5 และตั้งเป้าขายในยุโรปในแบรนด์ Arcfox ซึ่งมีรถเอสยูวี ECF SUV ออกแบบโดยอดีตนักออกแบบรถจาก Volkswagen และยังมีแผนทำรถซูเปอร์คาร์ Arcfox GT ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวในปีนี้

SAIC เป็นบริษัทรถยนต์จีนอีกแห่งหนึ่งที่รัฐบาลถือหุ้นใหญ่เป็น 1 ใน 4 ยักษ์รถยนต์ของจีน ก่อตั้งมาตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัทนี้ซื้อแบรนด์ MG มาจากอังกฤษ และกำลังประสบความสำเร็จในการขายรถไฟฟ้าในแบรนด์ MG ZS EV และรถสเตชันแวกอนไฟฟ้า MG5 EV อย่างมาก เนื่องจากมีราคาที่แข่งขันได้ และในปีนี้ โมเดลใหม่กำลังจะมาคือ E-Motion

บริษัท Geely เป็นเจ้าของแบรนด์รถที่หลากหลายซึ่งรวมทั้ง Volvo, Lotus และ Proton ของมาเลเซียโดยมีรถ EV ในแบรนด์ Polestar เป็นรถระดับพรีเมียมซึ่งผลิตในประเทศจีนและวางขายในตลาดต่างประเทศ และยังมีอีกเวอร์ชันของรถ EV Volvo คือ XC40 Recharge เป็นรถครอสโอเวอร์ระบบปลั๊กอินไฮบริดซึ่งเหมาะสำหรับประเทศจีน

ล่าสุดรายงานจากเว็บ insideevs.com เผยแพร่ในวันที่ 29 มกราคม 2564 ระบุว่า Geely ได้ตกลงและร่วมกับ Foxconn (ฟ็อกซ์คอนน์) ช่วยบริษัท Faraday Futore (ฟาราเดย์ฟิวเจอร์) ผลิตรถ EV ระดับพรีเมียม FF91 และ FF 81 เพื่อวางตลาดโดยเร็ว และ Geely จะเข้าร่วมถือหุ้นบางส่วนด้วย โดยก่อนที่ Geely จะเข้าไปช่วย Faraday Futore นั้น Faraday Futore มีปัญหาเรื่องเงินทุนอย่างหนักและไม่สามารถสร้างโรงงานที่เนวาดาสหรัฐอเมริกาได้

Great Wall Motor ก่อตั้งในปี 1984 เป็นผู้ผลิตรถอเนกประสงค์และกระบะใหญ่ที่สุดของจีน บริษัทนี้เป็นผู้ผลิตรถยนต์เอกชนรายแรกของจีนที่เข้าตลาดหุ้น และเป็นบริษัทที่ซื้อโรงงานของ General Motors ในประเทศไทย เพื่อผลิตรถของบริษัทขายตลาดอาเซียน โดยบริษัทนี้มีรถ EV แบรนด์ Ora ที่มีราคาเข้าถึงได้ และได้ร่วมกับ BMW ผลิตรถ EV แบรนด์ MINI ในประเทศจีน

EV Ora เป็นรถไฟฟ้าประเภทซิติ้คาร์ มีแพกแบตเตอรี 33 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งได้ 300 กิโลเมตร วางตลาดในประเทศอินเดียในชื่อ R1 โดยนอกจาก Ora แล้ว Great Wall เตรียมผลิตรถ EV พรีเมียม ในแบรนด์จากการที่ตัวเองมีโรงงานผลิตรถ EV ที่ร่วมทุนกับ BMW อยู่แล้ว

นอกจากนี้ Great Wall ยังได้เปิดตัว POER EV ซึ่งเป็นรถกระบะพลังไฟฟ้าวิ่งได้ไกล 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่งาน Beijing Auto Show 2020 ในเดือนกันยายน 2020 ทำให้รถ EV จากรถค่ายนี้จึงน่าสนใจอย่างยิ่งทีเดียว