เพราะคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ WORKSCAPE

เราเป็น SMEs ขนาดกลางๆ แต่มีความพร้อมมีจุดเด่นที่ความคล่องตัวและคุณภาพสินค้า ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่น นอกจากนี้ปัจจัยสำเร็จของ #WORKSCAPEคือ สินค้าที่มีคุณภาพแข่งขันได้กับ Brand ใหญ่ๆ มีทีมงานที่มีความมุ่งมั่น ใส่ใจรายละเอียดและคุณภาพในทุก ๆ ชิ้นงาน”
.
แม้ช่วงที่เกิดวิกฤตทางโรคระบาดจะทำให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนแปลงไป หลายองค์กรปรับลดพื้นที่ทำงาน และหลายโครงการหยุดชะงักส่งผลกระทบระลอกใหญ่ต่อตลาดเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่อยู่ในสำนักงาน แต่ปัจจัยลบเหล่านี้กลับเป็นโอกาสสำหรับบริษัทที่เตรียมความพร้อม และมีความยืดหยุ่นสูงอย่าง WORKSCAPE เจ้าของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้ในที่ทำงาน ยิ่งถ้าพูดถึงคุณภาพของสินค้าและการผลิตคงต้องบอกว่าหาคนเทียบเคียงได้ยาก
.
คุณนพดล ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เวิร์คสเคพ จำกัด (WORKSCAPE) บอกกับเราว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญและชัดเจนกับเรื่องมาตรฐานการผลิตมาตลอดทำให้กระบวนการผลิตมีคุณภาพสูง สินค้าทุกตัวผ่านการทดสอบตามมาตรฐานระดับสากล นอกจากนี้ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา WORKSCAPE จะเก็บข้อมูลในส่วนที่ลูกค้าComplainและนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ในการพัฒนาสินค้า นั่นทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี
.
“ลูกค้าบางรายจะมีความละเอียดอ่อนมาก แต่เรามองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นโอกาส เพราะหากลูกค้าไม่เรียกร้องอะไรเลย เราจะไม่มีการพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นได้อย่างเช่น คุณภาพของวัสดุอุปกรณ์เก้าอี้ ตลอดไปจนถึงช่องว่างระหว่างแผ่นไม้เพียงเล็กน้อยในสินค้าประเภทตู้ หรือ โต๊ะ เราก็จะไม่ปล่อยผ่าน ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจในระยะยาวได้”
ในส่วนของการออกแบบสินค้า WORKSCAPE มีทีมงานที่มีทักษะมีความรู้ความเข้าใจที่จะสามารถนำความต้องการของลูกค้ามาวิเคราะห์ข้อมูลก่อนตัดสินใจทำการผลิต ซึ่งจะดูทั้งในแง่ของคุณภาพ และความคุ้มค่าของลูกค้า หากพบว่าการผลิตด้วยโรงงานของตัวเองคุ้มค่ากว่า หรือคุณภาพดีกว่าก็จะทำการผลิตเอง แต่ถ้าหากมองแล้วไม่เหมาะสำหรับการผลิตด้วยตัวเองก็จะหาพันธมิตรในการผลิต ซึ่งกระบวนการผลิตทุกขั้นต้อนต้องอยู่บนมาตรฐานของ WORKSCAPE
.
.
ปรับแผนแก้เกมรับมือ Covid-19
.
ในช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ได้รับผลกระทบโดยตรงจาก Covid-19 จากเทรนด์ Work From Home ปรับมาสู่เทรนด์ work from anywhere ดังนั้น งานโครงการที่เคยได้รับจากบริษัทต่าง ๆ จึงได้รับผลกระทบหนักที่สุด ขณะที่ภาพรวมทั้งอุตสาหกรรมยังเป็น Down Trend แต่เนื่องจาก WORKSCAPE เป็นบริษัท ฯ ที่เตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาด ทั้งในแง่ของการบริหาร Supply chain การจัดเตรียมสินค้า การเตรียมความพร้อมของช่องทางขายออนไลน์ รวมไปถึงการคัดเลือกสินค้าที่เหมาะกับสังคมปัจจุบัน ทำให้สามารถปรับตัวจากงาน B2B ไปสู่ B2C ได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากงานโครงการได้เป็นอย่างดี
.
“ก่อนหน้า Covid-19 เรามีสัดส่วนรายได้งานโครงการ 80% และมีสัดส่วนรายได้ค้าปลีก 20% และเราได้เร่งปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ได้วางแผน เตรียมตัวมาก่อน Covid-19 ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ค้าปลีกปรับขึ้นมาเป็น 40% จากรายได้รวม และเราต้องรีบ Balance สัดส่วนงานโครงการกับค้าปลีก เพราะพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนแปลงจะกลายเป็นรากฐานของอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ต่อจากนี้ตลอดไป”
.
.
สำหรับ WORKSCAPE สินค้าต้องมีคุณภาพเท่านั้น
.
จุดยืนของ WORKSCAPE ที่น่าสนใจอีกอย่าง นำมาซึ่งความสำเร็จด้านอุตสาหกรรมผลิตยอดเยี่ยม คือ สินค้าทุกชิ้นจะต้องมีคุณภาพดีเท่านั้น โดยบริษัท ฯ จะไม่มีนโยบายแข่งขันด้านราคากับเจ้าอื่นในตลาดด้วยการนำสินค้าราคาถูก แต่ไม่มีคุณภาพมาขายให้กับลูกค้า เพราะในอนาคตสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นตัวทำลายความเชื่อมั่นต่อแบรนด์จากลูกค้า และจุดยืนนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ WORKSCAPE สามารถยืนหยั่นได้ในภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันสูง
.
“เราไม่มีนโยบายการขายสินค้าราคาถูกที่สุดในตลาดอย่างเด็ดขาด เพราะเราเชื่อว่าการแข่งขันด้วยราคาอย่างเต็มที่จะทำให้ลูกค้าเสียผลประโยชน์มากมายในอนาคต ถึงแม้สินค้าเหล่านั้นจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นแต่สุดท้ายแล้วเราจะได้รับการ Complain ตามมาจำนวนมาก นั่นเป็นการทำลายแบรนด์ชั้นดี ดังนั้น เราจะเลือกทำเป็นโปรโมชั่น ส่งเสริมการตลาดสินค้าที่มีคุณภาพดีอย่างเหมาะสมแทน”
.
.
.
พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจ แม้เผชิญความท้าทาย
.
คุณนพดล กล่าวว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้ในที่ทำงาน ยังต้องเผชิญกับความท้าทายอีก 3 ด้านหลัก ๆ คือ พฤติกรรมของคนจะเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร โดยมองว่าองค์กรส่วนใหญ่จะไม่กลับมาทำงานที่สำนักงานเหมือนเดิมแบบ100% แต่จะเปลี่ยนไปทำงานนอกสถานที่จำนวนมาก เป็นสิ่งที่บริษัทฯ ต้องปรับตัวและออกแบบสินค้าให้ตอบสนองพฤติกรรมของคนให้ได้มากที่สุด
.
การแข่งขันด้านราคา ก็จะเห็นว่า จะมีผู้เล่นรายใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้เข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก และเกิดการแข่งขันด้านราคา ดังนั้น สิ่งที่เราดำเนินการมาตลอดคือ ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงและมีทีมงานที่บริการได้อย่างมืออาชีพ
.
การโฆษณาเกินจริง ในปัจจุบันทุกบริษัทสามารถจัดทำการตลาดด้วยตัวเองโดยการเขียนคอนเทนต์ชักจูงลูกค้า ซึ่งสินค้าที่โฆษณาอาจจะไม่ได้มาตรฐานที่ลูกค้าคู่ควร สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าคุณภาพดีได้ยากขึ้น
.
“โจทย์ 3 ด้านนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก และเราจะต้องดำเนินธุรกิจต่อไปภายใต้จุดยืนของตัวเองด้วยการให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ ,การควบคุมคุณภาพสินค้าและบริการและต้องเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้จะเป็นเครื่องตัดสินได้ว่า เราจะอยู่ในตลาดต่อไปได้หรือไม่”