“เครื่องสำอางมังสวิรัติ” (Vegan) มิติใหม่ของคำว่าคนสวยใจงาม เพราะยุคนี้แค่คำว่าออแกนิกส์มันไม่พอ
ก็อย่างที่รู้ๆกันว่า ความงามกับผู้หญิงเป็นของคู่กันมาไม่รู้ตั้งกี่พันปี วิวัฒนาการความสวยๆก็พัฒนากันมาเรื่อยๆ ช่วงก่อนเราตื่นเต้นกับกระแสเครื่องสำอางออแกนิกส์กันเอามากๆเพราะสาวๆหลายคนก็เริ่มที่จะเบื่อสารเคมีและมุ่งหาวิถีธรรมชาติกันเยอะขึ้น
แต่ถ้าคุณคิดว่า แค่ออแกนิกส์มันยังสวยใจบุญไม่พอ มันยังไม่ถึงขั้นสุดแล้วล่ะก็ “เครื่องสำอางวีแกน” น่าจะตอบโจทย์สาวๆยุคใหม่ที่รักษ์โลกอย่างเดียวยังไม่พอ งาน “รักษ์สัตว์” ก็ต้องมา
เอะ เครื่องสำอางมังสวิรัติ คืออะไรเหรอ พูดมาถึงตรงนี้หลายคนอาจยังไม่เก็ท สรุปให้เข้าใจง่าย “Vegan Makeup” ก็คือเครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนผสมหรือสารสกัดจากสัตว์จ้า ซึ่งรวมถึง แปรงขนสัตว์, honey (น้ำผึ้ง), beeswax (ขี้ผึ้ง), lanolin (ไขมันที่ได้จากขนแกะ), collagen (คอลลาเจน), albumen (ไข่ขาว), พิกเม็นต์ carmine, gelatin และอีกสารพัด ที่ถูกรวบรวมไว้โดย PETA องค์กรพิทักษ์สิทธิสัตว์ และอาจรวมไปถึงเครื่องสำอางที่ไม่ถูกทดลองกับสัตว์ด้วย
อันที่จริงเครื่องสำอางหรือสกินแคร์วีแกน ที่ตอนนี้กำลังเป็นประเด็นฮอตที่น่าติดตามสุดๆ ในวงการบิวตี้ในช่วงนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มันเป็นเทรนด์ทางเลือกมานานแล้ว และนิยมอยู่ในกลุ่มเล็กๆโดยเฉพาะคนสวยนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจัดๆเท่านั้น แต่หลังจากกระแสออแกนิกส์เริ่มกลับมาเป็นที่นิยม คำว่าเครื่องสำอางวีแกนก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากกว่าเดิม บวกกับเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์และยูทูปเบอร์ทั้งหลายก็พูดถึงให้ได้ยินกันหนาหูขึ้น
ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคจะเรียกร้อง แต่เครื่องสำอางและสกินแคร์แบรนด์ดังทั้งหลาย ก็หันมาผลิตโปรดักต์ “Vegan-friendly” ปราศจากส่วนผสมที่มาจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น “ขี้ผึ้ง” ส่วนผสมหลักในลิปบาล์มหรือโลชั่น “สีที่สกัดมาจากแมลง” ที่นิยมใช้กับลิปสติกหรือบลัชออน “ขนสัตว์” ที่นำมาทำเป็นแปรงแต่งหน้า ฯลฯ รวมไปถึงโปรดักต์ที่เป็น “Cruelty-free” ปราศจากขบวนการผลิตที่มีการทำร้ายสัตว์เข้ามาเอี่ยวกันมากขึ้นนั่นเอง อาทิเช่น
สกินแคร์ตัวใหม่ของ The Body Shop ที่เป็นวีแกน 100% เริ่มตั้งแต่ตัวโฟมล้างหน้าและอายมาส์กบำรุงผิวรอบดวงตา ซึ่งมีส่วนผสมของสเต็มเซลล์จากพืช 3 ชนิด
Ambient Lighting Powder พาเลตต์ไฮไลท์สุดฮอตจาก HOURGLASS และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมชั่วคราวสไตล์ยูนิคอร์นของแบรนด์ Lime Crime ปราศจากส่วนผสมที่มาจากสัตว์ และไม่ผ่านการทดลองจากสัตว์ 100%
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เพราะแบรนด์ที่หันมาจับตลาด “Vegan 100%” และไม่ผ่านการทดลองกับสัตว์มีหลายแบรนด์ในท้องตลาดแต่อาจต้องสืบเสาะหากันเล็กน้อย หรือหลายแบรนด์ก็มีความพยายาม “ลด ละ เลิก”แม้จะยังไม่เต็มร้อยก็ตาม และเทรนด์นี้ก็ยังเป็นเทรนด์ที่การันตรีแล้วว่า มาแน่นอน