นภัสนันท์ พรรณนิภา พลิกโฉม ‘ทีคิวเอ็ม อัลฟา’ รับมือธุรกิจประกัน ไม่เหมือนเดิม

“แรงบันดาลใจของพวกเราชาว TQM ในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เริ่มต้นจากคำถามต่าง ๆ ที่มาจากลูกค้า เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง และนี่คือพลังสำคัญที่ทำให้เราพัฒนาบริการต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน”

Big Change ของธุรกิจประกันภัย โดยเฉพาะ TQMalpha ซึ่งถูกรีแบรนด์ใหม่ เป็น “โฮลดิ้ง คอมพะนี” ซึ่งลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม เพื่อ Unlock ไปสู่การเติบโตน่านน้ำใหม่ ได้พิสูจน์ฝีมือบริหารของ ดร.นภัสนันท์  พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) ว่า ยอดเยี่ยมที่สุด

 

ดร.นภัสนันท์  พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) ยอมรับกับเราว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ในโลกปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยการพัฒนาเทคโนโลยีและนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการทำงาน ทั้งระบบคอมพิวเตอร์ที่ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถจัดการกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ นำมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างการเติบโต และยังมีระบบที่ช่วยให้การทำงานไม่สะดุด แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ Covid-19 ที่มีการ Lockdown และรับแนวโน้มการทำงานแบบ work from home ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ ยังช่วยให้การบริการลูกค้าได้อย่างตรงใจ ตรงตามความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น

 

พร้อมกันนี้ เรามีงานที่ใส่ใจ รับฟัง และเข้าใจความต้องการของลูกค้า พร้อมให้บริการ และเป็นที่ปรึกษาที่ลูกค้าไว้วางใจ เป็นจุดเด่นที่ทำให้ธุรกิจภายใต้ TQMalpha มีความแตกต่างจากธุรกิจอื่น ๆ ส่งผลสำเร็จให้มีผลประกอบการที่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 

นอกจากนี้ ดร.นภัสนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อคิดประจำตัวสำหรับการบริหารองค์กรในฐานะ Top CEO โดยส่วนตัวได้พึงตระหนักอยู่เสมอว่า “บทบาทของผู้นำในองค์กรคือ ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุน และสร้างบรรยากาศเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันภายในองค์กร โดยผู้นำกำหนดเป้าหมายและทิศทางในการดำเนินงานที่ชัดเจน พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานในทุกระดับมีพื้นที่ทำงานและสามารถทำงานร่วมกันอย่างอิสระ

 

สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้ สร้างความท้าทายในการทำงาน พร้อมกับการร่วมให้กำลังใจและการสนับสนุนกันอย่างสม่ำเสมอ และองค์กรจะเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกระดับเป็นฟันเฟืองช่วยกับขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กัน

รวมไปถึงหลักการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับการให้ความสำคัญด้านลูกค้าและผู้ถือหุ้น  พนักงาน  สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่ง TQMalpha มุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้น การวิเคราะห์ความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การตัดสินใจทางธุรกิจเป็นไปอย่างรอบคอบ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholder) รอบด้าน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สร้างการเติบโตของธุรกิจ การตัดสินใจขยายธุรกิจ ทั้งการ Merger & Acquisition หรือการหาพันธมิตร จะต้องยึดตามแนวทางที่ได้วิเคราะห์ และเลือกดำเนินการตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ เหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น การขยายสู่ธุรกิจให้สินเชื่อ TQMalpha จะไม่มุ่งที่ผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินสูงสุดเท่านั้น แต่จะคำนึงถึงระดับความเสี่ยง เพื่อให้การขยายธุรกิจเป็นไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

โดยกลยุทธ์ที่จะพัฒนาองค์กรไปสู่ความยั่งยืน คณะผู้บริหารได้วางแผนธุรกิจ และวางแผนกลยุทธ์ ตามที่คณะกรรมการได้ให้แนวทางไว้ ด้วยปณิธานที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของทุกคนได้รับการคุ้มครอง โดยทำให้เข้าถึงประกันและบริการทางการเงินได้ ด้วยที่ปรึกษาและเทคโนโลยีที่วางใจได้ เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมั่นคงและสุขสบาย

 

โดยแผนธุรกิจดังกล่าว จะถูกถ่ายทอดไปสู่ส่วนงานต่าง ๆ อย่างทั่วถึง และตั้งเป้าหมายให้ตอบโจทย์กับกลยุทธ์ที่วางไว้ มุ่งให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาผนวกรวมกับการทำงานของทุกฝ่าย เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น และยังมีการขยายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งเพิ่มธุรกิจการเงิน ธุรกิจ Tech Platform เพื่อนำความเชี่ยวชาญมาพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพงานในปัจจุบัน และขยายฐานลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโต

 

ทั้งนี้ TQM หรือ บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการนายหน้าประกันภัย ประกอบด้วย 1. กลุ่มธุรกิจนายหน้าประกัน แบ่งเป็นธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย, ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต, ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ 2. ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกัน 3. กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม

 

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 มีรายได้รวม 995 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เติบโต 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 209 ล้านบาท