Tiktok

เป็นไปได้จริงหรือ? TikTok จะขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอีก 10 เท่า

ตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ในสหรัฐฯ อาจต้องร้อน ๆ หนาวๆ หลังจากสำนักข่าวต่างประเทศได้ประโคมข่าวว่า  TikTok Shop ภายใต้แพลตฟอร์ม TikTok มีแผนที่จะขยายยอดขายในประเทศสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าภายในปีนี้

โดยมีการอ้างอิงแหล่งข่าวว่า บริษัทได้มีการหารือกันภายใน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับเป้าหมายด้านปริมาณการขายในปี 2567 ของติ๊กต๊อกชอปในสหรัฐไปสู่ระดับ 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567 ถึงแม้ว่ายังเป็นเพียงแค่ข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าของแบรนด์ แต่หากเป็นจริงก็เรียกได้ว่าเป็นการสั่นสะเทือนตลาดอีคอมเมิร์ซของสหรัฐที่มีผู้เล่นหลักคือ อเมซอน หรือแม้กระทั่งแบรนด์เสื้อผ้าที่มาจากจีนเหมือนกับ Tiktok ทั้งเทมู (Temu) และชีอิน (Shein) ที่ได้รับความนิยมสูงมากในวัยรุ่นสหรัฐฯ

ซึ่งสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มีมูลค่าสินค้าทั่วโลกของ TikTok อยู่ที่ราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดใหญ่ โดยมีผู้เยี่ยมชมแอปมากกว่า 325 ล้านคนต่อเดือน (เป็นบริษัทมีเดียที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก) ขณะที่ Tiktok เป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ด้วยจำนวนคน 35 ล้านคนในปี 2565 ที่ผ่านมา เมื่อ TikTok สามารถเจาะตลาดเอเชียได้จำนวนมากแล้ว แน่นอนว่า ตลาดที่มีศักยภาพสูงคือ สหรัฐและลาตินอเมริกา

โดยจุดแตกต่างที่จะทำให้ Tiktok ได้รับความนิยมแม้จะเข้าสู่ตลาดช้ากว่า คือ Tiktok จะเน้นการนำเสนอสินค้ารูปแบบวีดีโอสั้น ที่เป็นไวรัลเพื่อดึงดูดผู้ซื้อได้มากกว่าการใช้เพียงภาพนิ่งในการโปรโมทสินค้า นอกจากนี้ Tiktok ยังมีเครื่องมือการตัดต่อที่ง่ายสะดวกสำหรับ Influencer หรือพ่อค้าแม่ค้า

อย่างไรก็ตาม ‘Business+’ มองว่า การขยายตลาดใหม่ในครั้งนี้อาจจะไม่ง่ายนัก เพราะถึงแม้จะมีจุดเด่นด้านการตลาดที่ครบเครื่อง แต่ปัญหาอยู่ที่การกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่มีกับจีน โดยที่ผ่านมา Tiktok ถูกกดดันจากสภาคองเกรสมาโดยตลอด โดยในช่วงเดือนมีนาคม 2566 สภาฯ ได้เสนอร่างแบน TikTok ในสหรัฐฯ ด้วยการอ้างประเด็นที่กังวลว่าการที่ TikTok มีบริษัทแม่คือ ByteDance ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนในสหรัฐฯ จะส่งต่อข้อมูลของคนในสหรัฐไปให้ทางรัฐบาลจีน และอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ

ถึงแม้ในครั้งนั้น Shou Zi Chew ซึ่งเป็น CEO ของ TikTok ปฏิเสธเรื่องการส่งข้อมูลกลับไปจีนหลายครั้ง แต่ประเด็นนี้ก็ยังคงนำมาถกเถียงกันหลายครั้ง และในรัฐมอนแทนา (Montana) ก็ถือเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกา ที่ผ่านกฎหมายการแบนห้ามใช้ TikTok ในระดับทั้งรัฐ หลังสภาของรัฐโหวตผ่านกฎหมายด้วยคะแนน 54-43 โดยกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้ในตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 ซึ่งกฏหมายนี้จะทำให้ User ไม่สามารถดาวโหลดแอพพลิเคชั่น Tiktok ผ่านทั้ง Google Play Store หรือ App Store ได้อีก

ซึ่งประเด็นด้านกฎหมายที่ยังไม่รู้ว่าสหรัฐฯ จะเอามากีดกัด Tiktok อีกตอนไหน ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ TikTok ยังไม่สามารถเข้าไปเทรดในตลาดหุ้นได้สักที ซึ่งหากมีการบังคับกฏหมายหรือโหวตกันอีกครั้งก็จะส่งผลกระทบต่อการขยายธุรกิจของ TikTok อย่างแน่นอน

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตาม Business+ ได้ที่ Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#thebusinessplus #BusinessPlus #Tiktok #ติ่กต่อก