The Business Plus บิสิเนสพลัส
The Success Story By Business+ เดือนนี้จะพาผู้อ่านมาพบกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของ ‘ยังเอจ คอร์ปอเรชั่น’ เจ้าของแบรนด์ Y8 ผู้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ Health Tech ผสาน New Business Model ให้เกิด New S-Curve ในตลาดสุขภาพและความงาม ผ่านบทสัมภาษณ์ คุณวัจนา รื่นพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยังเอจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ซึ่งสามารถพาแบรนด์ Y8 เติบโตได้แม้ตลาดสกินแคร์จะกลายเป็นน่านน้ำทะเลสีแดง (Red Ocean) ซึ่งมีการแข่งขันดุเดือด และมีผู้เล่นในตลาดมากมาย ซึ่งบทพิสูจน์คือการที่แบรนด์สามารถยืนหยัด และเติบโตได้โดดเด่นท่ามกลางสมรภูมินี้ ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่าง ผสมผสานด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อตอบรับเทรนด์ของผู้บริโภค
จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Y8 มาจาก User ที่ได้รับ Paint Point จากผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดที่มีคุณภาพต่ำ ทำให้เกิดเป็นไอเดียสำหรับการคิดค้น และสรรหานวัตกรรม รวมถึงสารสกัดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ และความน่าเชื่อถือด้วยการนึกถึงผลลัพธ์กับผู้บริโภคเป็นอย่างแรก
และในวันนี้ Y8 กลายเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วเกินครึ่งทาง ซึ่งแผนการบริหารสุดท้าทายต่อจากนี้คือ การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้นด้วยการผสมผสาน Health Tech พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ด้วย Business Model ใหม่จากการปั้น Entrepreneurship เข้ามาช่วยสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายสำคัญที่สุดคือการนำพาผลิตภัณฑ์ไปสู่ระดับ Global
คุณวัจนา รื่นพิทักษ์ หรือ คุณเป้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยังเอจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อแบรนด์ Y8 กล่าวถึงจุดเริ่มของแบรนด์เกิดจาก Pain Point ของคุณวัจนาเองที่เริ่มจากเป็นผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด และต้องเผชิญกับภาวะผิวอ่อนแอจากการใช้สารจากครีมสเตียรอยด์เป็นเวลานาน
ดังนั้น คุณวัจนา จึงได้พยายามค้นหาผลิตภัณฑ์ และสารสกัดที่จะช่วยตอบโจทย์ Pain Point เหล่านี้ และเกิดเป็นแนวคิดในการคิดค้น และผลิตสกินแคร์ด้วยการใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แห่งความงาม และนวัตกรรมทางการแพทย์เข้ามาผสมผสานจนทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ และยังช่วยดูแลรักษาสุขภาพผิวให้กับผู้ใช้
ทั้งนี้ คุณวัจนา มองว่าธุรกิจสุขภาพและความงามถือเป็น Emotional Market ซึ่งปัจจุบันเทรนด์การดูแลตัวเอง และดูแลสุขภาพที่เน้นการป้องกันก่อนเกิดโรค หรือที่เรียกว่า “เวชศาสตร์ของการป้องกัน (Preventive Medicine)” ได้เข้ามาแทนที่เวชศาสตร์ของการรักษาที่กำลังถดถอย โดยที่ผู้บริโภคในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายมากขึ้น
“เราอยู่ในตลาดอาหารเสริมและสุขภาพความงามมา 7 ปี จึงเห็นเสน่ห์ในธุรกิจนี้ โดยเราได้ทำการวิเคราะห์สภาพตลาดและพบว่าธุรกิจสุขภาพความงามเป็นตลาดที่ผู้บริโภคใช้อารมณ์ในการตัดสินใจซื้อมากกว่าเหตุผล (Emotional Market) ดังนั้น ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรตลาดความงามก็ไม่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้โรคระบาดได้ก่อให้เกิดเทรนด์ของคนที่ดูแลตัวเองก่อนที่จะเกิดโรค นั่นทำให้ศาสตร์ของการแก้ปัญหาก่อนที่จะเกิดโรคเข้ามาแทนที่ศาสตร์การรักษาที่กำลังถดถอย เพราะคนจะดูแลตัวเองในปัจจุบันมากกว่าจะเก็บเงินเพื่อไปดูแลตัวเองในบั้นปลาย ผู้บริโภคจึงเปลี่ยนพฤติกรรมมาเป็นการดูแลตัวเองทั้งภายใน และภายนอกให้ดีเพื่อชีวิตที่สมดุล เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพทั้งภายในภายนอกจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำหรับคนในยุคปัจจุบัน” คุณวัจนา กล่าว
กลยุทธ์บริหารฉบับ ‘Y8’ ที่สามารถเอาชนะตลาด Red Ocean
ปัจจัยที่ทำให้ ‘Y8’ ก้าวขึ้นมาจากศูนย์ จนขึ้นมาสู่จุดที่มี Branding พร้อมด้วย Network ที่แข็งแรงมาจากปัจจัยที่สำคัญทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้
- ผู้บริหารต้องรักการเรียนรู้ และช่างสังเกต รวมไปถึงต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปัจจุบันซึ่งโลกธุรกิจไม่ได้แข็งแกร่งด้วยเงินทุน แต่กลายเป็นผู้ที่ครอง Network ได้อย่างแข็งแกร่งถึงจะกลายเป็นผู้ชนะในตลาด
“Y8 ไม่มีวันที่จะหยุดพัฒนา เพราะโลกของธุรกิจในปัจจุบันหมุนไปอย่างรวดเร็ว เดิมเราคุ้นเคยกันดีกับคำว่า Transform หรือพัฒนาเปลี่ยนแปลงของเดิมให้ดีขึ้น แต่ยุคนี้กลายเป็นยุคของ Disruption คือการสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่ามาทดแทน ดังนั้นหลาย ๆ อุตสาหกรรมจึงได้รับผลกระทบจากการ Disruption หากปรับตัวไม่ทันก็จะถูก Disrupt ไปในที่สุด และในปัจจุบันโลกธุรกิจไม่ได้แข็งแกร่งด้วยเงินทุน แต่วันนี้กลายเป็นผู้ที่ครอง Network เท่านั้น ถึงจะเป็นผู้ชนะ ดังนั้นในตลาดนี้จึงไม่มีที่ยืนเหลือว่างพอให้กับมือสมัครเล่นอย่างแน่นอน”
- การสร้างความแตกต่าง โดยที่การสร้างแบรนด์นั้น หัวใจสำคัญคือ ต้องสร้างความแตกต่างในทุกมิติถึงจะอยู่ในตลาดความสวยความงามได้
“สิ่งที่ทำให้เรามีที่ยืนในตลาดแบบนี้ได้ อย่างเดียวเลยคือ “ต้องแตกต่าง” หากไม่แตกต่าง = ตาย เพราะการเป็นเจ้าเดียวนั้น อาจจะเป็นได้เพียงชั่วคราวโดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงแบบนี้ แต่การเป็นเจ้าแรกนั้นเราสามารถเป็นได้ตลอดไป ดังนั้น หากเราปรับตัวได้ไว สามารถก้าวนำเทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ทัน ก็จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในตลาด และสามารถสร้าง New S- curve ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”
- พยายามมองหา Winning Zone โดยที่ Y8 ได้ทำการวิเคราะห์สภาพตลาด และความต้องการของผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน จึงทำให้เข้าใจ Pain Point ของผู้บริโภคเป็นอย่างดี ซึ่งจะนำมาสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ และการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์นี้เกิดจากการมองหา Winning Zone โดยเก็บความต้องการจากลูกค้าเป็นหลัก และผนึกเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ได้มาตรฐานระดับสากลเข้ามาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น
“เราอยู่ในตลาดเชิงลึกมานาน จนทำให้เราเข้าใจความรู้สึกลูกค้าเป็นอย่างดี เค้ามีความต้องการอะไร สิ่งที่คู่แข่งในตลาดยังไม่มี เราจึงสามารถหา Winning Zone ของเราเองจนมายืนในตลาดได้ ด้วยสินค้านวัตกรรมเทียบเคียงระดับโลก ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนแบบมีใบรับรองการันตี ในราคาที่คนทั่วไปในไทยสามารถจับต้องได้ โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็น Winning Zone หรือตัวชูโรงของ Y8 คือสินค้าตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องฝ้าให้คนไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้รับรางวัลอย่างมากมาย”
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ‘Y8’
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ‘Y8’ คือ แผนการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ละเอียดเป็นอย่างมาก โดยที่ Y8 จะเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ปัญหาที่ผู้บริโภคได้รับ และนำข้อมูลเหล่านั้นไปทำการวิจัย เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น โดยที่การเก็บข้อมูลจากลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด และการที่ Y8 เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายที่ครบวงจรไปจนถึงการส่งผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่เป็น End User จึงทำให้ได้รับข้อมูลจากลูกค้าโดยตรง ทำให้สามารถเข้าใจปัญหาได้ตรงจุด จึงเกิดเป็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือ Y8 สามารถพัฒนาสินค้าให้ได้รับการการันตีด้วยมาตรฐานสากล รวมไปถึงได้รับรางวัลมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจ เพื่อคัดสรรสารสกัดที่มีประโยชน์จากทั่วทุกมุมโลก
นอกจากผลลัพธ์ที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เห็นผลได้จริงแล้ว สิ่งที่เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ Y8 คือความปลอดภัย โดยที่ Y8 เป็นแบรนด์ที่ส่งผลิตภัณฑ์ด้านสกินแคร์ทุกชิ้นไปทำการทดสอบมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือสารปนเปื้อนต่าง ๆ ทั้งหมด โดยที่คอนเซปต์ของ Y8 คือ ผู้ใช้จะต้องแก้ปัญหาได้จริง และผิวจะต้องสุขภาพดีขึ้นในระยะยาว ดังนั้น Y8 ต้องพัฒนาสินค้าที่เป็นนวัตกรรมเทียบเคียงกับระดับโลกในราคาที่สามารถจับต้องได้
“ผลิตภัณฑ์ในแบรนด์ Y8 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้น วิจัยและพัฒนา โดยใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมที่แตกต่างในตลาดเพื่อตอบโจทย์แก้ปัญหาของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ด้วยการเก็บข้อมูลปัญหาของลูกค้ามาอย่างละเอียด ทดสอบทั้งผลลัพธ์ ความปลอดภัย ความพึงพอใจของอาสาสมัครที่มีปัญหาในแต่ละด้านจนพึงพอใจ กว่าจะได้สินค้าแต่ละตัวใช้เวลายาวนานมาก เราออกแบบให้ทุกสินค้าใน Line product ให้ใช้คู่กันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของผู้บริโภค และปลอดภัยต่อสารก่อระคายเคืองต่าง ๆ ที่ Y8 เรามุ่งเน้นถึงการแก้ปัญหาที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว” คุณวัจนา กล่าว
เป้าหมายของ ‘Y8’ คือสร้าง Entrepreneurship และพาแบรนด์ไปสู่ระดับ Global
เมื่อถามถึงผลการดำเนินงานของ ‘ยังเอจ คอร์ปอเรชั่น’ ในช่วงที่ผ่านมา คุณวัจนา กล่าวว่า ในปี 2022 บริษัทฯ สร้างยอดขายเติบโตมากกว่า 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ในปี 2023 นี้จากแผน และกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ ทำให้คาดการณ์ว่าจะได้เห็นการเติบโตได้ถึง 300% จากปี 2022
“เราไม่ได้มองที่ Volume Business แต่มองที่ความสำเร็จของ Holders แต่ละคนแต่ละบริษัทที่เค้าสร้างขึ้น โดยวัดความสำเร็จจากคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้แทนจำหน่าย Holders เป้าหมายเราไม่ใช่แค่เพียงยอดธุรกิจที่เติบโตขึ้น แต่ยอดเป็นเพียงผลกำไรจากเป้าหมายหลักที่เราตั้งไว้เท่านั้น” คุณวัจนา กล่าว
โดยปัจจัยขับเคลื่อนยอดขายมาจากแนวโน้มตลาดสุขภาพและความงามปี 2023 ที่จะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามจะกลายเป็นปัจจัยที่ 6 หรือ 7 ของคนในยุคปัจจุบันและอนาคต เพราะรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปโดยที่มีโรคระบาดเข้ามากระตุ้น เห็นได้จากภาพรวมอุตสาหกรรมตลาดอาหารเสริม สุขภาพและความงามเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุก ๆ ปี
มูลค่าตลาดตลาดอาหารเสริม สุขภาพและความงาม ย้อนหลัง 5 ปี (ทำเป็น Info)
ปี 2560 : 1.787 แสนล้านบาท
ปี 2561 : 2.04 แสนล้านบาท
ปี 2562 : 2.18 แสนล้านบาท
ปี 2563 : 2.21 แสนล้านบาท
ปี 2564 : 2.37 แสนล้านบาท
ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลาดอาหารเสริม สุขภาพและความงามมีอัตราการเติบโตเกือบ 10% ในทุก ๆ ปี ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาลตามความต้องการของผู้บริโภคที่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ตั้งแต่ปี 2560 Volume สกินแคร์และอาหารเสริมของเมืองไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถึงแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่เอื้อ โดยเรามองว่าสกินแคร์จะกลายเป็นปัจจัยที่ 6 และ 7 ของคนในยุคนี้และในอนาคต ซึ่งความต้องการผู้บริโภคจะมากขึ้น ทำให้ตลาดกว้างขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้น แต่ใครที่จะเข้ามาอยู่ในจุดนี้ได้ ต้องมี Branding ที่ชัด และต้องมีช่องทางจัดจำหน่ายขนาดใหญ่ ถึงจะสามารถยืนระยะในตลาดที่เดือดแบบนี้ได้”
เป้าหมายสุดท้าทายของ Y8
สำหรับเป้าหมายต่อไปของ Y8 หลังจากประสบสำเร็จในตลาดสกินแคร์แล้ว ก้าวต่อไปคือ การเปิดตลาดใหม่ อย่างตลาดอาหารเสริม ซึ่ง Y8 จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ครอบคลุมกลุ่มดูแลสุขภาพทั้งหมด รวมไปถึงจะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ไขอาการด้านผิวหนังที่เกิดขึ้น ด้วยการต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เดิมเพื่อเพิ่มไลน์ผลิตกลุ่มสินค้าสกินแคร์เพิ่มขึ้น
ขณะที่ในปี 2023 จะเป็นปีที่ Y8 มีแผนในการสร้างโรงเรียนสอนธุรกิจ ด้วยการขยายช่องทางจัดจำหน่าย สร้าง Network ให้คนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ หรืออยากมีรายได้เพิ่มเข้ามาเป็นผู้ประกอบการร่วมกับ Y8 (Entrepreneurship) ซึ่งแผนธุรกิจนี้ถือเป็นการสร้างอาชีพให้กับประชาชน และช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของประเทศ
แผนการขยายธุรกิจของแบรนด์ ‘Y8’
- ขยายตลาดใหม่ในสินค้ากลุ่มสุขภาพ
- ขยายฐานกลุ่มเดิมเพิ่ม Line product ใหม่ สร้างและสะสม ‘Big Fan’ เพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำหรือซื้อทุกครั้งที่มีผลิตภัณฑ์ออกใหม่ เพราะรักและชื่นชอบในแบรนด์
- ขยายช่องทางจัดจำหน่ายขนาดใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สร้างการเปลี่ยนแปลงยกระดับธุรกิจออนไลน์ เพื่อส่งต่อโอกาส ส่งต่อความรู้ ส่งต่ออาชีพ
นอกจากแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจนทั้ง 3 ข้อแล้ว คุณวัจนา ยังกล่าวกับ Business+ ว่า Y8 มีแผนการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศมากมาย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ของ Y8 ทั้งประเทศกัมพูชา เมียนมาร์ และสปป.ลาว ขณะที่ยังมีอีกหลายประเทศที่อยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจ ซึ่งหากสามารถตีตลาดเหล่านี้ได้สำเร็จจะเป็นอีกหนึ่งใบเบิกทางไปสู่แบรนด์ระดับสากล ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการใช้จุดแข็งด้าน Network ที่แข็งแกร่ง ผสมผสานกับขับเคลื่อนด้วย New Business Model ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยทำให้แบรนด์สกินแคร์มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
