ก.ล.ต.ปรับผังองค์กรใหม่เมื่อตลาดหุ้นระส่ำ! เพิ่มสายงานด้านกฎหมาย พร้อมตั้งศูนย์ร้องเรียน-แจ้งเบาะแส

ภาวะตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมาปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์ COVID ซึ่งเกิดจากความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยมีน้อย หลังเกิดเคสความไม่โปร่งใสของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนหลายราย ตามที่ ‘Business+’ ได้วิเคราะห์เอาไว้จากคอนเทนต์ก่อนหน้านี้ https://www.thebusinessplus.com/set-5/

ซึ่งประเด็นการทุจริตได้ทำให้หน่วยงานผู้คุมกฏอย่าง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกมาปรับปรุงโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุน (Trust and Confidence) และยังเป็นการปรับผังเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และความยั่งยืน (ESG) เพื่อส่งเสริมการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดย คณะกรรมการ ก.ล.ต.ได้มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อรองรับเป้าหมายการทำงานเพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุน (Trust and Confidence) และช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด 8 ข้อ คือ

1. จัดกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนและการบังคับใช้กฎหมายไว้ด้วยกัน เพื่อให้ภารกิจงานทั้งหมดสามารถเชื่อมประสานกันได้อย่างราบรื่นตั้งแต่การระดมทุนและติดตามดูแลภายหลังการระดมทุน

2. เพิ่มสายงานด้านการบังคับใช้กฎหมายอีก 1 สายงาน เพื่อรองรับปริมาณงานที่ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และจะนำไปสู่การดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น

3. แยกหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนออกมาให้ชัดเจน โดยตั้งเป็น “ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแส” เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรับและติดตามเรื่องร้องเรียนทั้งหมด ทั้งเรื่องร้องเรียนตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ก.ล.ต. และเรื่องร้องเรียน ก.ล.ต. ซึ่งรวมถึงบุคลากรของ ก.ล.ต. ด้วย

4. ปรับปรุงขอบเขตงานด้านคดี โดยโอนงานคดีปกครอง เพื่อรวมศูนย์งานด้านคดีไว้ที่เดียวกัน

5. รวมศูนย์งานด้านกำกับและตรวจสอบความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Audit) ไว้ที่ส่วนงานเดียว เพื่อเป็นศูนย์กลางในการมองภาพรวมทั้งระบบ

6. จัดโครงสร้างและขอบเขตงานของสายงานตัวกลางและสายธุรกิจจัดการลงทุน เพื่อช่วยให้การทำงานและขับเคลื่อนงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น

7. เพิ่มส่วนงานในสายนวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ทำหน้าที่ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการเข้าถึงแหล่งทุนของภาคธุรกิจ ส่งเสริมให้การเข้าถึงการลงทุนและการจัดสรรเงินลงทุนของผู้ลงทุนเป็นไปอย่างเหมาะสม รวมถึงเสนอนโยบายเพื่อการพัฒนาและกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน

8. จัดให้สายงานกฎหมายขึ้นตรงต่อเลขาธิการเพื่อตรวจสอบและถ่วงดุล (check & balance) ซึ่งจะทำให้งานเกิดความรอบคอบและสมบูรณ์ เนื่องจากสายงานกฎหมายเป็นสายงานที่จะเห็นความเชื่อมโยงของหลักเกณฑ์ทั้งหมด และเป็นศูนย์กลางให้คำปรึกษาทางกฎหมายให้แก่ส่วนงานต่าง ๆ ของ ก.ล.ต.

สำหรับโครงสร้างองค์กรที่ปรับปรุงใหม่จะมีการเพิ่มผู้ช่วยเลขาธิการ สายบังคับใช้กฎหมาย 1 ตำแหน่ง และเพิ่มผู้อำนวยการ 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายนโยบายธุรกิจจัดการลงทุน ฝ่ายนโยบายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และฝ่ายส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินดิจิทัล ซึ่งภายหลังการเพิ่มตำแหน่งดังกล่าว โครงสร้างองค์กรของ ก.ล.ต. จะประกอบด้วย รองเลขาธิการ 4 ตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขาธิการ 12 ตำแหน่ง ส่วนงาน 36 ฝ่าย และ 1 ศูนย์ 

นอกจากนี้ ก.ล.ต. มีคำสั่งแต่งตั้งและโยกย้ายพนักงานอีก 7 ตำแหน่ง ซึ่งการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ที่มา : SEC
ติดตาม Business+ ได้ที่ Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
#thebusinessplus #BusinessPlus #SET #ตลาดหลักทรัพย์ #ตลาดหุ้นไทย #ตลาดหุ้น #STOCK