เอส สไปน์ อันดับ 1 ผู้เชี่ยวชาญการรักษาเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง

จากการวัดสถิติของผู้ป่วยในระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า โรงพยาบาลเอส สไปน์ ได้รักษาผู้ป่วยไปแล้วกว่า 100,000 ราย ซึ่งเป็นสถิติที่ยืนยันถึงความเป็นเลิศในการรักษาโรคกระดูกสันหลัง รวมถึงเป็นการยืนยันถึงความไว้วางใจที่ผู้ป่วยมีต่อโรงพยาบาลว่าได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

จุดแข็งของโรงพยาบาลเอส สไปน์ นอกจากจะเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยแล้ว หลักการรักษาของโรงพยาบาลที่มุ่งการรักษาคนไข้อย่างตรงจุด ทำให้บ่อยครั้งพบว่า ผู้ป่วยบางรายที่ผ่านการรักษามาจากที่อื่นแต่ยังไม่หาย เมี่อมาทำการรักษาที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ จากคนไข้ที่เดินไม่ได้ ก็สามารถกลับมาเดินได้ โดยใช้ระยะเวลาการรักษาเพียงแค่ 1 คืน ก็สามารถกลับบ้านได้

อีกทั้งแนวทางการรักษาและการผ่าตัดที่มีขนาดของแผลไม่ถึง 5 มิลลิเมตร และไม่ต้องให้เลือดในการรักษา ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ และเกิดการบอกปากต่อปากในกลุ่มคนไข้มากขึ้น จนกลายเป็นการประชาสัมพันธ์แบบออร์แกนิกไปโดยปริยาย

และสิ่งสำคัญที่ทำให้โรงพยาบาลเอส สไปน์ ประสบความสำเร็จ คือ บุคลากรที่มีคุณภาพ โดยนายแพทย์ดิตถพงษ์ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้ว่า “แพทย์ที่ทำงานให้กับโรงพยาบาลแห่งนี้ เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ แพทย์จะมีทักษะการทำงานเปรียบเสมือนการคอนโทรลรถแข่งสูตร 1 ฟอร์มูล่าวัน จำเป็นต้องมีสกิลสูงมาก ๆ ที่นี่ต้องสามารถขับฟอร์มูลาวันได้

นั่นเพราะว่า การรักษาผู้ป่วยทางด้านกระดูกสันหลัง บางกรณีที่ผู้ป่วยบางรายปวดรุนแรงจนต้องเข้าพบแพทย์ ซึ่งการหาสาเหตุของอาการปวดก็มีหลายวิธี อาทิ การตรวจด้วยเครื่อง X-ray และ MRI ซึ่งเป็นวิธีการหาสาเหตุที่แม่นยำและตรงจุด เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของหมอนรองกระดูกปลิ้น หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท

แน่นอนว่าการรักษาอาการปวดจากภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อน เริ่มจากการฉีดยาระงับการอักเสบที่โพรงเส้นประสาทไขสันหลัง หากหมอนรองกระดูกเริ่มปูดนูนหรือปลิ้นออกมาไม่มาก แพทย์อาจจะพิจารณาทำการรักษาโดยการจี้เลเซอร์ในบริเวณที่มีปัญหา

แต่เมื่อใดก็ตามที่หมอนรองกระดูกปลิ้น หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาทในปริมาณมาก แพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดแนวใหม่ ด้วยเทคนิคการรักษาสมัยใหม่ ซึ่งพัฒนานวัตกรรมจากการผ่าตัดมาเป็นการเจาะรูส่องกล้อง โดยเทคนิคนี้จะใช้อุปกรณ์ที่มีเลนส์ของกล้องเอนโดสโคป (Endoscopic decompression) ซึ่งเทคนิคนี้จะใช้อุปกรณ์ที่มีเลนส์ของกล้องเอ็นโดสโคปติดอยู่ที่ปลายกล้อง เปรียบเสมือนดวงตาของแพทย์อยู่ในตัวผู้ป่วย ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นความผิดปกติได้อย่างชัดเจน แม่นยำ สามารถรักษาเฉพาะส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาได้ ทำให้แผลเล็กเจ็บน้อย ปลอดภัย ฟื้นตัวเร็ว

ปัจจุบันการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเป็นเรื่องง่ายมากกว่าที่คิด และไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ศัลยแพทย์ และผู้บริหาร โรงพยาบาลเอส สไปน์ แนะนำว่า ถ้าทุกคนรู้ทันอาการปวดหลังได้ก่อน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้ได้

ซึ่งที่โรงพยาบาลเอส สไปน์ เราดูแลคุณด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลัง ซึ่งทีมแพทย์และพยาบาลพร้อมวางแผนการรักษาอย่างถูกต้องและตรงจุด เพื่อให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ตาม Lifestyle ที่เคยเป็น เช่น กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว คนที่รัก หรือทำในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่อยากทำได้เร็วยิ่งขึ้น และไม่เป็นภาระให้กับคนใกล้ชิด

 

ผู้เขียน : วิทยา กิจชาญไพบูลย์

ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus #โรงพยาบาลเอสสไปน์ #SSpineHospital