The Business Plus บิสิเนสพลัส
ในช่วงเทศกาลปีใหม่แบบนี้ นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่คนในครอบครัว เพื่อนฝูงจะได้มาพบปะกันแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานที่ผู้คนจะได้แลกของขวัญ หรือมอบของขวัญ ของฝากให้แก่กัน และสิ่งที่มักจะพบเจอได้อยู่เสมอในทุก ๆ ปี คือ ‘คุกกี้กล่องแดง’ ที่มักจะถูกหยิบมาเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลด้วยเสมอ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของกระเช้าเพื่อส่งมอบให้กับผู้อื่น หรือมาในรูปแบบของของขวัญที่นำมาแลกกันก็ตาม จนกลายเป็นภาพที่เห็นจนชินตา และมักจะเป็นที่กล่าวถึงในโลกออนไลน์อยู่เสมอถึงความเป็นตำนานในการเป็นของขวัญ ของฝากของ ‘คุกกี้กล่องแดง’ และในวันนี้ Business+ ได้นำเอาประวัติคร่าว ๆ รวมถึงทำการสำรวจผลประกอบการ 3 ปีย้อนหลังของ 2 ผู้เล่นหลักตลาดนี้อย่าง ‘อาร์เซนอล’ และ ‘อิมพีเรียล’ มาเปิดเผยให้ได้เห็นว่าเบื้องหลังกล่องเหล็กสีแดงนั้น ทั้ง 2 บริษัทมีการดำเนินธุรกิจอย่างไรบ้าง
‘อาร์เซนอล’ (Arsenal)
เริ่มกันที่คุกกี้กล่องแดงที่มีชื่อเหมือนสโมสรฟุตบอลอย่าง ‘อาร์เซนอล’ (Arsenal) ผลิตภัณฑ์ภายใต้ ‘บริษัท สยามร่วมมิตร จำกัด’ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ถนนประมวล สีลม และโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกในประเทศไทย โดยโรงงานแห่งนี้ดำเนินการผลิตข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิและรวยเพื่อน, ขนมขึ้นรูปจากข้าวโพด ตราคอร์นพัฟฟ์, คุกกี้และบิสกิต ตราอาร์เซนอล และขนมถั่วลันเตาอบกรอบ ตราสแน็คแจ๊ค
สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) ของ ‘บริษัท สยามร่วมมิตร จำกัด’ พบว่า
ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,858.47 ล้านบาท ลดลง 2.57% จากปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,907.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 145.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.59% จากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 109.98 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,896.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.03% จากปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 111.26 ล้านบาท ลดลง 23.70% จากปี 2563
ปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,077.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.56% จากปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 111.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.48% จากปี 2564
‘อิมพีเรียล’ (IMPERIAL)
อีกหนึ่งแบรนด์คุกกี้กล่องแดงในตำนานที่มักจะเห็นวางขายเป็นประจำในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่าง ‘อิมพีเรียล’ ผลิตภัณฑ์ภายใต้ ‘บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)’ ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2501 ภายใต้ชื่อ ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด กิมจั๊วพาณิชย์’ เพื่อดำเนินธุรกิจทางด้านการนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่าย สินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศ ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 ได้ตั้งโรงงานแห่งแรกขึ้นบนถนนบางนา-ตราด ภายใต้ชื่อ บริษัท ยูไนเต็ด แดรี่ ฟูดส์ จํากัด เพื่อผลิตเนยแบรนด์ อลาวรี่ (Allowrie) และได้ขยายสายการผลิตสู่ผลิตภัณฑ์อาหาร นมและขนมสําเร็จรูปต่าง ๆ ในเวลาต่อมา อาทิ คุกกี้ แยมผลไม้ เยลลี่ สําเร็จรูป เป็นต้น
ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ได้ตั้งโรงงานแห่งที่ 2 ขนาดพื้นที่ 42 ไร่ ขึ้นที่อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้ชื่อ บริษัท อิมพีเรียล เยนเนอรัล ฟูดส์ อินดัสทรี่ จํากัด เพื่อรองรับธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งการผลิตบิสกิต ขนมอบ และน้ำตาลก้อน
ปี พ.ศ. 2531 ขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ Dairy Foods ภายใต้ชื่อ บริษัทยูไนเต็ด แดรี่ ฟาร์ม จำกัด และ ได้รับ License ให้เป็นผู้ผลิตน้ำส้มซันควิก ภายใต้ชื่อบริษัท อิมพีเรียล สเปเชี่ยลตี้ฟู้ดส์ จำกัด
โดยผลิตภัณฑ์ในเครือ ‘บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)’ อยู่ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ ดังนี้
– แดรี่โกลด์ (DAIRYGOLD) ประกอบไปด้วยสินค้าประเภทเนยและชีส
– อิมพีเรียล (IMPERIAL) ประกอบไปด้วยสินค้าประเภทนมเนย และบิสกิต, แป้ง, แยม, ไซรัป, สารเสริมขนมปัง, เจลาติน, ผงปรุงรส, มายองเนส และวัตถุดิบเบเกอรี่
– อลาวรี่ (Allowrie) ประกอบไปด้วยสินค้าประเภทเนย, ชีสและสเปรด
– ซันควิก (Sunquick) สินค้าประเภทน้ำผลไม้เข้มข้น
– พรีมิโอ (Premio) สินค้าสำเร็จรูป
– เบค มาสเตอร์ (Bake Master) สินค้าประเภทวัตถุดิบสำหรับทำเบเกอรี่
– คุกกี้ช้อย (Cookie Choice) สินค้าประเภทคุกกี้
– โรซี่ (Rosy) สินค้าประเภทแครกเกอร์
– ไวโอเล็ต (Violet) สินค้าประเภทแครกเกอร์ เวฟอร์
– เบเกอร์ช้อย (Bakers’ Choice) สินค้าประเภท แครกเกอร์
– วาไรตี้ (Variety) สินค้าประเภทเยลลี่
สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (2563-2565) ของ ‘บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)’ พบว่า
ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 4,908.34 ล้านบาท ลดลง 13.19% จากปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,654.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 244.23 ล้านบาท ลดลง 2.68% จากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 250.97 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,256.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.09% จากปี 2563 และมีกำไรสุทธิ 303.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.20% จากปี 2563
ปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,164.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.26% จากปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 249.26 ล้านบาท ลดลง 17.83% จากปี 2564
ทั้งนี้ ‘บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)’ ถือเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มสินค้าทั้งประเภทเนยและชีส โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์เนย อยู่ที่ 55% และมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์ชีส อยู่ที่ 31.6% รวมถึงมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ใน 5 อันดับแรก สำหรับวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารและเบเกอรี่ และบิสกิต
ที่มา : hanami, kcgcorporation, datawarehouse
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #คุกกี้กล่องแดง #คุกกี้กล่องแดงในตำนาน #คุกกี้ในตำนาน #ของขวัญ #ของฝาก #จับสลากปีใหม่ #คุกกี้ #คุกกี้อาร์เซนอล #คุกกี้อิมพีเรียล #สยามร่วมมิตร #เคซีจีคอร์ปอเรชั่น #KCG
