MG ทางเลือกใหม่สู่ชีวิตที่ใส่ใจและกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม

หากจะพูดถึงผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 1 ของไทย คาดว่า MG จะเป็นแบรนด์ที่คนไทยทั้งประเทศนึกถึง เรียกได้ว่า เป็นแบรนด์ที่ทำให้คนไทยเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกในบ้านเรากลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง

 

MG มีแนวคิดในการพัฒนารถยนต์ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนายานยนต์ของโลก ที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้รถยนต์พลังงานทางเลือก ซึ่งในตลาดรถยนต์บ้านเรายังมีให้เลือกไม่มากนัก และราคาค่อนข้างสูง แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากให้คนไทยได้ใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกที่มีเทคโนโลยีระดับสูง ใช้งานง่าย สะดวก คุ้มค่า รถยนต์ MG HS PHEV จึงได้ถูกนำเสนอเข้าสู่ตลาดรถยนต์เมืองไทย

 

MG HS PHEV โดดเด่นด้วยระบบ Plug-in Hybrid เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่ถูกพัฒนามาจากระบบ Hybrid ที่ไม่เพียงแค่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันเท่านั้น แต่ยังสามารถเลือกใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ในการขับขี่ได้อีกด้วย เพราะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 67 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง* ซึ่งถือเป็นระยะที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน และยังมีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่ในขณะชะลอความเร็วรถอีกด้วย ส่วนการชาร์จไฟก็ทำได้ง่ายกว่าและสะดวกกว่าระบบ Hybrid เพราะสามารถชาร์จไฟจากแหล่งพลังงานภายนอกผ่าน MG Home Charger หรือสถานีชาร์จแบบ AC ได้ หรือหากจะเดินทางระยะไกลก็มีระบบ Hybrid รองรับ ทำให้เดินทางได้แบบไร้กังวล MG HS PHEV นับเป็นนวัตกรรมยานยนต์ที่ตอบโจทย์คนที่อยากใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% แต่ยังมีความกังวลเรื่อง Infrastructure ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

 

รถยนต์พลังงานทางเลือกที่มีการใช้แบตเตอรี่ขับเคลื่อนขนาดใหญ่ อาจทำให้ผู้ใช้งานมีคำถามเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานได้ ซึ่งในเรื่องนี้ MG ก็ได้สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้รถ ด้วยการใช้แบตเตอรี่ขับเคลื่อนแบบ Lithium-Ion ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก AMERICAN UL2580 จากสถาบัน UNDERWRITER LABORATORIES INC. โดยเป็นการทดสอบภายใต้สภาวะต่างๆ 8 เรื่อง ได้แก่ ไฟฟ้าลัดวงจร, ฝุ่นละออง, การบีบอัด, การกัดกร่อนจากน้ำเกลือ, การทำให้เปียกน้ำ, การเผาไหม้, การชนปะทะ และการตกกระแทก อีกทั้งยังผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่นอีกด้วย พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ยาวนานถึง 8 ปี และยังมีเทคโนโลยีการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ Module ทำให้เลือกเปลี่ยนเฉพาะ Module ที่เสียหายได้ ช่วยลดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว

ด้านความปลอดภัยในการขับขี่ MG HS PHEV มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) และระบบความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System มากถึง 25 ระบบ แบ่งเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ 14 และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) 11 ระบบ MG HS PHEV ถูกจัดเป็นรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) ซึ่งเป็นระดับที่รถยนต์สามารถควบคุมความเร็ว หรือควบคุมการหมุนพวงมาลัยผ่านระบบ ADAS ได้โดยอัตโนมัติ แต่ผู้ขับขี่ยังคงมีหน้าที่หลัก ในการสังเกตสิ่งกีดขวาง ประเมินสถานการณ์ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ

 

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ขาดไม่ได้ ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่สามารถสั่งการระบบภายในรถได้ด้วยเสียงภาษาไทย หรือเช็กสถานะรถ ค้นหารถ สั่งการรถผ่านสมาร์ทโฟนก็ทำได้ รวมไปถึงการตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ ดูสถานะการชาร์จ หรือค้นหาสถานีชาร์จ อีกทั้งยังมีระบบ Emergency Call โทรหาคนสำคัญอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน

 

MG HS PHEV ขับสนุก ตอบสนองทันใจ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ที่ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เพียง 0.2 วินาที เพิ่มความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น

 

ด้านดีไซน์ มีการยกระดับพื้นฐานมาจากรถยนต์ C-SUV ยอดนิยมอย่าง “MG HS” ผสานความหรูหราและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ภายในกว้างขวาง ตกแต่งด้วยสี 2-Tone Monaco Blue เบาะหนังคู่หน้าปรับไฟฟ้าทรง Sport Bucket Seat พร้อม Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

 

จากทั้งหมดที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า MG HS PHEV เป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกที่ถูกพัฒนาให้มีความโดดเด่น ทั้งในด้านเทคโนโลยีการขับขี่ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ความสวยงามลงตัว ทั้งหมดนี้เกิดจากความทุ่มเท ความตั้งใจของ MG ที่ต้องการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ และคุ้มค่าที่เหนือความคาดหมายให้กับผู้บริโภคคนไทยนั่นเอง