The Business Plus บิสิเนสพลัส
เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ตั้งแต่ปลายปี 2566 ที่ผ่านมา หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นหดตัวลง 2 ไตรมาสต่อเนื่อง โดย รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (15 ก.พ.) ว่า GDP ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.4% ในไตรมาส 4/2566 หดตัวต่อเนื่องหลังจากไตรมาส 3/2566 ลดลง 3.3% ซึ่งภาวะถดถอยนั้น มีสาเหตุมาจากภาวะเงินเฟ้อ และเงินเยนที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ญี่ปุ่นไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามประเทศใหญ่อย่างสหรัฐฯ จึงทำให้เงินทุนไหลออกไปจำนวนมาก
ทั้งนี้ ‘Business+’ จะอธิบายภาวะ Recession ให้ฟังง่ายๆ ว่า เป็นภาวะการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจที่เกิดผลกระทบในวงกว้าง มีนัยยะสำคัญ และมีการตกต่ำของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกรอบเวลาที่ค่อนข้างยืดเยื้อ โดยนิยามของ Recession ในปัจจุบันคือ GDP ติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส ดังนั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะ Recession ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจ ความต้องการของผู้บริโภคและการจ้างงานมหาศาล
นอกจากจะกระทบในเรื่องของการบริโภคและการจ้างงานแล้ว การหดตัวของ GDP ยังส่งผลให้ญี่ปุ่นสูญเสียสถานะการเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกให้กับเยอรมนีซึ่งเดิมทีอยู่อันดับ 4 ของโลก
ขณะที่เมื่อมองไปยังอนาคต ทาง ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจญี่ปุ่น (Japan Center for Economic Research) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มหดตัวลงอีกในไตรมาส 1/2567 หลังจากที่มีการหดตัวในไตรมาส 4/2566
ทั้งนี้เป็นที่น่าจับตามองว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นนี้อย่างไร ซึ่งการหดตัวรุนแรงนี้อาจจะทำให้เราได้เห็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้
ที่มา : IQ
