Dr.Jel Concentrate Brightening Deluxe Cream นวัตกรรม CBD มาตรฐานระดับโลกครั้งแรกในไทย

น่าสนใจอย่างยิ่งว่า แบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเกิดได้เพียงไม่ถึงปีสำหรับบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด ภายใต้ กลุ่มธุรกิจออกานิกส์ กรุ๊ป คว้ารางวัลชนะเลิศ Product Innovation Awards 2021 สาขาผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิว จากผลิตภัณฑ์ Dr.Jel Concentrate Brightening Deluxe Cream (ด็อกเตอร์ เจล คอนเซนเทรต ไบรท์เทนนิ่ง ดีลักซ์ ครีม) ซึ่งถูกรังสรรค์จากสารสกัดที่ให้ผลลัพธ์คล้ายกับ CBD (Cannabidiol) ที่ได้จากผลน้อยหน่าออสเตรเลีย หรือเชอรีโมยา (Cherimoya) ซึ่งเป็นสารตัวเดียวที่มีงานศึกษาว่าออกฤทธิ์คล้ายสาร CBD มีอยู่ในกัญชงหรือกัญชา เพื่อช่วยลดการอักเสบของผิวพรรณ

เบื้องหลังความสำเร็จนี้ ภก.ดร. ปัณณวิชญ์ โชติเตชธรรมมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด จะเล่าให้เราฟัง

เป็นปลาไวที่ชิงเปิดตัวสินค้าเกี่ยวกับ CBD (Cannabidiol) เป็นรายแรกของประเทศไทย สำหรับบริษัท ด็อกเตอร์ เจล จำกัด ภายใต้กลุ่มธุรกิจออกานิกส์ กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครบวงจรเกี่ยวกับสินค้าเพื่อสุขภาพ อาหารเสริม และเครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ ฯลฯ และยังเป็น 1 ใน 5 โรงงานของประเทศไทยที่ได้รับการอนุญาตให้สามารถผลิตอาหารเสริมทางการแพทย์ได้ ทำให้ Product Champion ตัวนี้ ล้ำหน้าผู้ประกอบการรายอื่นไปไกลพอสมควร

ที่บอกว่าล้ำหน้าไปไกล นั่นเพราะ ‘ด็อกเตอร์ เจล คอนเซนเทรต ไบรท์เทนนิ่ง ดีลักซ์ ครีม’ ถูกรังสรรค์ขึ้นจากสารสกัดที่ได้จากผลน้อยหน่าออสเตรเลีย หรือเชอรีโมยา (Cherimoya) โดยภก.ดร. ปัณณวิชญ์ ระบุว่า สินค้าตัวนี้มีสารสกัดที่ออกฤทธิ์ที่ CB2 Receptor ออกฤทธิ์เหมือนกับสาร CBD แต่ให้คุณสมบัติเด่น เทียบเคียงกัญชงและกัญชา สามารถช่วยลดการอักเสบของผิวพรรณ

ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เป็นความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตและวิจัยสารสกัดความงามจากนวัตกรรมประเทศเยอรมนี โดยกลุ่มธุรกิจออกานิกส์ กรุ๊ป ลงทุนนำเข้าสารสกัดดังกล่าวเข้ามาผลิตและดำเนินการการจดสิทธิบัตรแล้วเป็นเจ้าเดียวและเจ้าแรกในไทย โดยข้อเด่นของสารสกัดเชอรีโมยา (Cherimoya) ผลไม้วงศ์น้อยหน่า มีถิ่นกำเนิดในเอกวาดอร์และเปรู

ผลไม้ชนิดนี้จะมีสารคล้าย CBD จำนวนมาก และยังจัดให้เป็นผลไม้ที่มีค่าโภชนาการสูงสุดอันดับ 2 ของโลก อุดมไปด้วยสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ ที่ช่วยยับยั้งสารในร่างกายที่ก่อให้เกิดความเครียด เพราะสารจะออกฤทธิ์ที่ CB2 Receptor ซึ่งเป็นตัวรับที่พบมากที่สุดใน ECS  ซึ่งเป็นระบบที่กำจัดกระบวนการอักเสบทั้งหมด สามารถช่วยลดการอักเสบของผิวพรรณไม่ว่าจะสิว รอยดำ รอยแดง รวมไปถึงป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้

 

“เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปประเทศสวิสฯ และได้ไปเจอชากัญชาที่มีขายอยู่และเริ่มสนใจ เพราะในสวิสฯ ค้ากัญชาซื้อขายได้อย่างถูกกฎหมาย แต่บ้านเรายังผิดกฎหมายอยู่ หลังจากนั้นจึงเกิดความสนใจและได้กลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติ่ม จึงได้รู้ข้อมูลว่า ในกัญชาจากแต่ก่อนคนจะรู้จักว่ามีแต่สาร THC ที่เวลาใช้กัญชาจะมีอาการตื่นตัวหรือมึนเมา

 

และจากการศึกษาไปเรื่อย ๆ ว่าในกัญชายังมีสาร CBD ซึ่งมันมีสารที่มีโครงสร้างทุกอย่างเหมือนกัน แต่การจัดเรียงตัวโมเลกุลไม่เหมือนกัน ดังนั้นก็เลยศึกษาต่อว่าระหว่างสาร THC และ CBD ในกัญชามีข้อดี ข้อด้อย แตกต่างกันอย่างไร

ปรากฏว่าสาร CBD ให้ข้อดีกว่า THC เนื่องจากสารจาก THC หากรับเข้าสู่ร่างกายจำนวนมาก จะส่งผลข้างเคียงให้เรามีอาการเมา ปากแห้งคอแห้ง บางคนความทรงจำหายไปชั่วขณะ ส่งผลให้ความจำลดลง ซึ่งเป็นข้อเสียมากกว่า แต่สารที่สกัดออกมาเป็น CBD จะไม่มีการออกฤทธิ์แบบนี้ และจะช่วยเรื่องปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเป็นหลัก”

ในยุคที่ปลาเร็วกินปลาช้า การพบสารที่ออกฤทธิ์ที่ CB2 receptor คล้ายกับสาร CBD ในผลน้อยโหน่งออสเตรเลียและเปลือกมะนาว ย่อมทำให้กลุ่มธุรกิจออกานิกส์ กรุ๊ป ล้ำหน้าธุรกิจอื่นไปไกล และการเป็นเจ้าแรกของตลาดที่ออกผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดคล้าย CBD ย่อมสะท้อนวิสัยทัศน์ ‘ผู้นำ’ องค์กร ซึ่งผู้บริหารกล่าวทิ้งท้ายว่า “จากเหตุผลข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่มาจ้างเราทำโออีเอม (รับจ้างผลิต) ที่มีจำนวนมากขึ้น ประกอบกับการที่เราได้วางแผนจะออกสินค้าภายใต้แบรนด์เราเองอีกมากกว่า 30  รายการ

พร้อมทั้งจะเข้าไปลุยในตลาดกัญชงและกัญชา ด้วยการนำเอาสารสกัด CBD  มาทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ  เราจึงได้ทุ่มงบในปีนี้อีกราว  60 ล้านบาท ขยายโรงงานเพิ่มอีก 3 โรงผลิต ในพื้นที่โรงงานเดิมที่มีจนตอนนี้เต็มพื้นที่หมดแล้ว เพื่อรองรับกำลังการผลิตโออีเอมที่โตเพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี และรองรับการขยายธุรกิจผลิตสารสกัดจากกัญชงในอนาคตอีกด้วย