เปิดตำนาน ‘Coke’ จากเครื่องดื่มชูกำลัง สู่แบรนด์น้ำอัดลมยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก

ในช่วงอากาศร้อน ๆ อย่างนี้ หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมที่มักจะทำยอดขายถล่มทลายก็คือ ‘น้ำอัดลม’ ที่เพียงแค่ได้จิบก็ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที ด้วยรสชาติที่มีความหวานผสมกับความซาบซ่า ทำให้น้ำอัดลมมักเป็นเครื่องดื่มชนิดแรก ๆ ที่ผู้คนนึกถึงยามต้องการเติมความสดชื่นให้แก่ร่างกาย และถ้าหากจะพูดถึงแบรนด์น้ำอัดลมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเห็นจะหนีไม่พ้น ‘Coke’ แบรนด์น้ำอัดลมที่อยู่คู่กับผู้คนมายาวนานกว่า 137 ปี!

และในวันนี้ Business+ จะชวนทุกท่านย้อนวันวานไปยังจุดกำเนิดของ ‘Coke’ ที่แต่เดิมผู้คิดค้นไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นเครื่องดื่มเพื่อการผ่อนคลายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการให้เป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณเปรียบเสมือนยา หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อเรียกว่า ‘เครื่องดื่มชูกำลัง’ นั่นเอง

‘Coke’ หรือชื่อดั้งเดิมคือ ‘Coca-Cola’ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1886 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเภสัชกรท้องถิ่นนามว่า ‘ดร.จอห์น สทิธ เพมเบอร์ตัน’ (Dr. John Stith Pemberton) ที่แต่เดิมได้ผลิตและจำหน่ายไวน์ที่ทำมาจากโคคาในปี ค.ศ. 1885 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเข้าสู่ปี ค.ศ. 1886 เมืองแอตแลนตาได้ออกกฎห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจไวน์ของ ‘ดร.เพมเบอร์ตัน’ เป็นอย่างมาก จึงทำให้ ‘ดร.เพมเบอร์ตัน’ จำเป็นต้องดัดแปลงสูตรเครื่องดื่มให้ปราศจากแอลกอฮอล์เพื่อให้ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยที่ยังคงรักษาวัตถุดิบหลักอย่างใบโคคาเอาไว้

โดยสูตรใหม่ที่ ‘ดร.เพมเบอร์ตัน’ คิดค้นขึ้นมานี้ เป็นการนำใบโคคากับสารสกัดจากเมล็ดโคล่าที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนมาผสมเข้าด้วยกัน จึงเป็นที่มาของชื่อเครื่องดื่ม ‘Coca-Cola’ ซึ่งก็คือการนำชื่อของส่วนผสมหลักทั้ง 2 ชนิดมารวมกันนั่นเอง ทั้งนี้ ในช่วงแรก ‘Coca-Cola’ ถูกวางจำหน่ายในฐานะกึ่งยา กึ่งเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากมีสรรพคุณในการช่วยลดอาการปวดหัว, ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร, อาการอ่อนเพลีย และการรักษาอาการติดมอร์ฟีน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพลังงาน สร้างความกระปรี้กระเปร่าให้แก่ผู้ที่ดื่ม ซึ่งผู้บริโภคมักนิยมนำไปผสมกับน้ำเปล่าก่อนดื่ม โดยผู้บริโภคหลายราย

ต่อมาได้เกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญขึ้นกับ ‘Coca-Cola’ ขึ้น เมื่อพนักงานประจำบาร์ขายโซดาได้นำ ‘Coca-Cola’ ไปผสมกับโซดาให้ลูกค้าดื่ม ซึ่งจากการผสมกันนี้ทำให้ได้เครื่องดื่มที่สร้างความสดชื่น อีกทั้งยังมีรสชาติที่ดี มีเอกลักษณ์ ทำให้กลายเป็นที่นิยมในวงกว้าง

ทั้งนี้ แม้ว่าธุรกิจกำลังไปได้ดีแต่เจ้าของกิจการอย่าง ‘ดร.เพมเบอร์ตัน’ กลับมีสุขภาพที่ทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ จึงได้ทยอยขายธุรกิจบางส่วนให้กับหุ้นส่วนหลายราย และต่อมาในปี ค.ศ. 1888 ‘ดร.เพมเบอร์ตัน’ ได้ขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทให้กับ ‘นาย​อะซา กริก แคนด์เลอร์’ (Mr. Asa Griggs Candler) ด้วยราคาเพียง 2,300 เหรียญ ก่อนที่ ‘ดร.เพมเบอร์ตัน’ จะเสียชีวิตในปีเดียวกัน

ส่วนที่มาของชื่อ ‘Coke’ นั้น มาจากการที่เริ่มมีคนนำโคเคนซึ่งเป็นสารสกัดที่ได้จากใบโคคาไปใช้ในทางที่ผิด จากเดิมที่ใช้เป็นยารักษาอาการทางจิต และบำบัดผู้ป่วยที่ติดสารเสพติด กลายเป็นนำมาเป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทแทน ทางแบรนด์ ‘Coca-Cola’ จึงหลีกเลี่ยงการใช้คำว่าโคคา เนื่องจากไม่ต้องการให้ชื่อแบรนด์สื่อไปถึงสารเสพติด จึงได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า ‘Coke’ ในการโฆษณา พร้อมข้อความว่า “Coke means Coca-Cola” เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า ‘Coke’ ก็คือเครื่องดื่ม ‘Coca-Cola’ นั่นเอง

โดย ‘แคนด์เลอร์’ ได้นำเครื่องหมายการค้า ‘Coca-Cola’ ขึ้นจดทะเบียนกับสำนักงานสิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1893 และต่อมาในปี ค.ศ. 1895 ได้กระจายการขาย ‘Coke’ ไปยังทุกรัฐและทุกเขตแดนในสหรัฐอเมริกา และค่อย ๆ กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ ‘Coke’ ถือเป็นผู้นำในตลาดน้ำอัดลมอย่างแท้จริง ด้วยจำนวนการขายต่อวันที่มากกว่า 1.9 พันล้านครั้ง ในกว่า 200 ประเทศ อีกทั้งในการจัดอันดับบริษัทเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 5 อันดับแรกของโลกในปี 2565 ตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565) บริษัท ‘Coca-Cola’ มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่า 275,082 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำคู่แข่งตลอดกาลอย่าง ‘Pepsi’ ที่มีมูลค่า 248,897 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับผลประกอบการในปี 2565 ของบริษัท ‘Coca-Cola’ (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022) บริษัทมีรายได้สุทธิ 43,004.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการเติบโต 11.3% จากปี 2564

ที่มา : coca-colacompany, coca-cola, eater, globaldata

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #Coke #Coca-Cola #CocaCola #โค้ก #น้ำอัดลม #เครื่องดื่ม