Bangkoklife

‘กรุงเทพประกันชีวิต’ แบรนด์ที่ครองใจคนไทยมากที่สุด

“รางวัล Most Admired Brand จากเวที Thailand Top Company Awards 2024 เป็นกระจกสะท้อนภาพความสำเร็จของกรุงเทพประกันชีวิตในการมุ่งมั่นดูแล ใส่ใจ ผู้บริโภคตลอด 72 ปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทมีตัวแทนใหม่เพิ่มขึ้นถึง 28% ถือเป็นตัวเลขสูงที่สุดแบบมีนัยสำคัญต่อเรา นั่นหมายความว่า สังคมไทยเห็นประโยชน์และความสำคัญของการประกันชีวิตเพิ่มมากขึ้น และเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีของเราที่แสดงถึงความมั่นคง เป็นบริษัทที่ทุกคนฝากอนาคตไว้ได้” คำกล่าวของคุณโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA ที่ช่วยฉายภาพความสำเร็จขององค์กรในปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี แม้จะอยู่ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดของธุรกิจประกันชีวิตก็ตาม

คำกล่าวของคุณโชน มุมหนึ่งถือเป็น Key Success Factor สำหรับบมจ. กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA ซึ่งมี
2 Keywords สำคัญคือ บริษัทฯ มีตัวแทนประกันชีวิตมากขึ้น จากการที่คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จากผลกระทบจาก Covid-19 ซึ่งได้เปลี่ยนภาพของอุตสหกรรมประกันชีวิตเช่นกัน อีก Keyword สำคัญก็คือ ภาพลักษณ์ที่ดีในด้านความมั่นคง ซึ่งของ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต หรือ BLA ที่อยู่คู่คนไทยตลอด 72 ปี โดยมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ผลงานที่โดดเด่นปี 2566 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 325,931 ล้านบาท มีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 34,155 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2,548 ล้านบาท รวมถึงยังมีความมั่นคงของฐานะทางการเงินในระดับสูง จากระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio: CAR) ณ สิ้นปี 2566 ที่ระดับ 405% เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 ที่อยู่ 377% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่สำนักงานคปภ. กำหนดไว้ที่ 140%

คุณโชน ให้สัมภาษณ์พิเศษกับเราว่า “ปีที่ผ่านมา กรุงเทพประกันชีวิต มีการพัฒนาธุรกิจบนรากฐานที่มั่นคงสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จนได้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากมาย ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์แล้ว การพัฒนาธุรกิจที่ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม คือสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ โดยมีการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และแนวทางปฏิบัติด้านการจัดการดูแลสิ่งแวดล้อม ทำให้ปีที่ผ่านมา มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าลดลง 9% และปริมาณการใช้กระดาษภายในองค์กรลดลง 11% จากปีก่อนหน้า อีกทั้งยังส่งเสริมให้ลูกค้าดาวน์โหลด BLA Happy Life ผู้ช่วยให้ผู้ถือกรมธรรม์ได้รับความสะดวกในการติดต่อและทำธุรกรรมได้ด้วยตนเอง โดยมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า

ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทฯ ยังเน้นการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลและส่งเสริมการให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงินและการประกันชีวิตกับประชาชน รวมถึงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและ
ไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นทั้งต่อลูกค้า ตัวแทน คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

และด้วยแผนการดำเนินงานทั้งหมด จึงส่งผลให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จทั้งในแง่ธุรกิจ และยังได้รับผลการประเมินจากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies-CGR) ประจำปี 2566 ในระดับ 5 ดาว หรือดีเลิศ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด และได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Top Quartile ของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางการตลาดไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท และได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน “SET ESG Ratings” ในระดับ AA ประจำปี 2566 ที่สำคัญยังตอกย้ำการเป็นองค์กรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยมีคะแนนความพึงพอใจลูกค้าอยู่ในเกณฑ์สูงสุด (The 1st  Quartile Relationship Net Promoter Score) ของธุรกิจประกันชีวิต และได้รับคะแนน Net Promotor Score (NPS Score) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความพึงพอใจลูกค้าสำหรับ Fax Claim มากถึง 71% อีกด้วย

แน่นอนว่า ปีที่แล้วเรามีพัฒนาการที่ดีในหลายเรื่อง และผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่จะสร้างการเติบโตให้กับเราในระยะยาว มิติแรก คือ การที่เรามีตัวแทนใหม่เพิ่มขึ้น 28% ซึ่งตรงนี้มันสะท้อน 2 เรื่องให้เราเห็น คือ สะท้อนว่าสังคมไทยเห็นประโยชน์ของประกันชีวิตมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้บริโภคอย่างเดียว แต่เป็นในเชิงของการมาประกอบอาชีพตัวแทนประกันชีวิตด้วย หมายความว่า ธุรกิจประกันได้รับการยอมรับที่ดีมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่อยากเข้ามาประกอบอาชีพด้านนี้ด้วยเช่นกัน

มิติต่อมาคือ เราเป็นบริษัทฯ ที่มีภาพลักษณ์ที่ดี ทั้งในเรื่องของการมีนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล ที่แสดงออกถึงภาพลักษณ์ด้านความมั่นคง และเป็นบริษัทที่เขาฝากอนาคตไว้ได้ ซึ่งสำหรับธุรกิจประกันชีวิตแล้ว ‘นายหน้าหรือตัวแทนประกันชีวิต’ มีความสำคัญมาก เพราะตัวแทนประกันชีวิต คือผู้ที่เข้าไปบริการลูกค้าและเป็นผู้ที่นำมาซึ่งลูกค้าในอนาคต”

และเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า BLA ต้องติดอาวุธให้กับตัวแทนประกันชีวิต เพื่อให้สามารถเกิดการบริการได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว โดยคุณโชนขยายความเพิ่มเติมว่า “เดิมทีการขายประกันชีวิตต้องมีกระดาษมาให้ลูกค้ากรอกข้อมูล เสร็จแล้วนำกลับไปที่บริษัทฯ หรือสาขาที่ใกล้เคียงที่สุด เพื่อพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ก่อนที่จะนำข้อเสนอกลับมาที่ลูกค้าอีกครั้ง แต่ปัจจุบัน 98% ของการทำประกันของเราเป็นการทำผ่านดิจิทัลทั้งสิ้น เกิดเป็นการทำงานแบบ Digital Work Flow โดยดิจิทัลไม่ได้มาแทนมนุษย์ แต่ดิจิทัลมาทำให้ผลลัพธ์ของเราดีขึ้น”

ต่อยอดความแข็งแกร่ง ด้วยกลยุทธ์สร้างความเป็นเลิศในทุกด้าน
จากผลงานที่แข็งแกร่ง เราถามคุณโชนว่า ความท้าทายจากนี้สำหรับ BLA คืออะไร และเราก็ได้รับคำตอบว่า
“เราพร้อมจะสร้างความเป็นเลิศในทุกด้าน ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม พัฒนาการบริการให้ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าใช้ รวมถึงพัฒนาช่องทางการจำหน่าย พร้อมตั้งเป้าสุดท้าทายว่า ภายใน 3 ปี (ปี 2567-2569) จะผลักดันเบี้ยปีแรกให้แตะ 10,000 ล้านบาท จากทุกช่องทางการขาย ซึ่งประกอบด้วย ช่องทางตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงิน ช่องทางธนาคารและพันธมิตร ช่องทางออนไลน์ และ อื่น ๆ โดยจะขับเคลื่อนผ่าน 2 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย

  1. กลยุทธ์การสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพของตัวแทนขายและที่ปรึกษาทางการเงิน รวมถึงการเพิ่มช่องทางขาย โดยประกาศเป้าหมายกับผู้บริหารตัวแทนทั่วประเทศในการสร้างเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยรับประกันภัยปีแรกและรายได้ตัวแทนเป็น 2 เท่า โดยวางแผนการเติบโตปีละ 15% ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี เพราะการเข้าถึงลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ เราจะปลดล็อกและดึงศักยภาพให้ออกมาอย่างเต็มที่ โดยภายใต้กลยุทธ์ด้านตัวแทนและช่องทางจำหน่ายนั้น จะขับเคลื่อนผ่าน 3 ด้าน หรือที่เรียกว่า “SML”

S – Special Campaign สร้างแคมเปญในเชิงกลยุทธ์ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการทำงานที่มีศักยภาพ ทั้งการขยายทีมงาน กระตุ้นทีมงานและงานขาย เพราะคุณโชนเชื่อว่า ‘กิจกรรมนำมาซึ่งผลลัพธ์’

M – Modernization พัฒนาการทำงานให้ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น มีแอปพลิเคชันสำหรับตัวแทนอย่าง Agent Activity Management (AAM) ซึ่งเป็นอาวุธทางดิจิทัลที่กรุงเทพประกันชีวิตได้นำมาเสริมความแกร่งให้กับตัวแทน

L – Localization สนับสนุนกิจกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ของตัวแทน เน้นการทำกิจกรรมรายพื้นที่มากขึ้นทั้งในฝั่งของลูกค้าและตัวแทนเพื่อสร้างความเข้าใจและเข้าถึงให้มากขึ้น

 

  1. กลยุทธ์การมัดใจลูกค้า ด้วยการมอบประสบการณ์ที่ดี ให้เหนือกว่าความคาดหวังของผู้ถือกรมธรรม์ ซึ่งจะประกอบด้วย 3 เสาหลัก ได้แก่ รับฟังเสียงลูกค้าให้มากที่สุดและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง 2. สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะมอบให้ผู้ถือกรมธรรม์ ซึ่งสิทธิประโยชน์จะครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ Health Privileges สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ Edutainment Privileges กิจกรรมเสริมสาระและความรู้ใหม่ ๆ Travel Privileges สิทธิประโยชน์ด้านการเดินทาง Personalized Privileges สิทธิประโยชน์เพื่อคุณ สำหรับโอกาสพิเศษต่าง ๆ ทั้งของผู้ถือกรมธรรม์และครอบครัว Exclusive Experiences กิจกรรมพิเศษ เพื่อมอบประสบการณ์สุดประทับใจ และ 3. การพัฒนาบริการและบริการเสริมด้านสุขภาพ “BLA Every Care” ที่ใส่ใจดูแลครอบคลุมตั้งแต่ก่อนเจ็บป่วย ระหว่างเจ็บป่วย และหลังเจ็บป่วย

 

“ทั้ง 3 เสาหลักนี้เป็นสิ่งที่เราวางกลยุทธ์ไว้ และจะขับเคลื่อนต่อเนื่องเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เกินกว่าสิ่งที่อยู่ในกรมธรรม์ให้ลูกค้า” คุณโชนเน้นย้ำ

ซึ่งคุณโชนทิ้งท้ายไว้ว่า แผนการดำเนินงานปีนี้จะเน้นการพัฒนาในทุกด้านเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และด้วยกลยุทธ์ที่วางไว้ แม้ว่าเป้าหมายการเติบโตที่ตั้งไว้จะท้าทายการทำงานอย่างมากก็ตามที แต่เชื่อว่าจะเป็นการทำงานที่สนุก ตื่นเต้น และจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ตลอดหนึ่งชั่วโมงที่เราถอดความสำเร็จของบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA ก็มั่นใจว่า รางวัล Thailand Top Company Awards 2024 ประเภท Most Admired Brand Award คู่ควรกับบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA อย่างแท้จริง