“ชาตยา สุพรรณพงศ์” ในวันที่ BAR B Q Plaza โกอินเตอร์

“ชาตยา สุพรรณพงศ์” ในวันที่ BAR B Q Plaza  โกอินเตอร์

ก้าวเข้าสู่ยุคที่ เจนใหม่ ตบเท้าเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัวกันอย่างคึกคัก วันนี้บิสิเนสพลัส ขอพามาทำความรู้จักกับผู้บริหารเจนใหม่ของBAR B Q Plaza อย่าง “ชาตยา สุพรรณพงศ์”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ที่วันนี้ขอมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัวให้เจริญก้าวหน้า และโกอินเตอร์อย่างมั่นคง

มาดูกันว่าผู้บริเจน สอง คนนี้จะไฟแรงขนาดไหน ฝีไม้ลายมือจะแพราวพราวขนาดไหน และกำลังปลุกปั้นโปรเจกต์อะไรในมือบ้าง

ชาตยา สุพรรณพงศ์”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด

ก้าวเล็กๆของมังกรตัวเขียว จาก BAR B Q Plaza สู่Food Passion

Food Passion คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ BAR B Q Plaza หรือชื่อเดิม บริษัท เดอะบาร์บีคิวพลาซ่า จำกัด ธุรกิจเล็กๆของครอบครัว ชูพงศ์ ชูพจน์เจริญ และภรรยา

ด้วยจุดแข็งที่เป็นร้านปิ้งย่างแห่งแรกที่ย่างบนกระทะทองเหลือง และมีน้ำจิ้มสูตรเฉพาะที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับจำนวนคู่แข่งที่ยังน้อย ทำให้ BAR B Q Plaza ร้านปิ้งย่างเล็กๆที่มีพนักงานเพียง 30 คนกับสาขาเดียวที่ ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าวเมื่อปี 2530 ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

ซึ่งภายหลังที่ BAR B Q Plaza ติดตลาดจึงมีการเติมพอร์ตสินค้าเพิ่มเติม คือ แบรนด์จุ่มแซ่บฮัท และฮ็อทสตาร์หรือไก่ทอดไซส์ XXL ที่สื่อท้องถิ่นและสื่อระดับโลกอย่าง CNN ยกให้เป็นหนึ่งในอาหารที่อร่อยและขึ้นชื่อที่สุดของไต้หวัน

ซึ่งดีเอ็นเอทางธุรกิจที่ถ่ายทอดมายัง “ชาตยา สุพรรณพงศ์” หรือ เป้ หลังจากเข้ามารับไม้ต่อจากคุณพ่อ มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทั้งในเรื่อง ภาพลักษณ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งที่ผ่านมานับว่าประสบความสำเร็จป็นอย่างดีแม้ว่าจะมีดราม่าเรื่องของ Black pan ให้เป็นที่พูดถึงกันอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่า ชาตยา เอาอยู่และผ่านพ้นมาได้อย่างสวยงาม แถมได้รับคำชมจากผู้บริโภคถึงระบบจัดการ และแก้ปัญหาที่รวดเร็ว

โดยการเข้ามารับไม้ต่อครั้งนี้ชาตยา ได้สร้าง New Curve ตัวใหม่สำหรับการรับช่วงต่อ ซึ่งคุณเป้ ยอมรับว่า “ในตอนนั้นใช้ Mindset นำ Footprint หมายถึงการใช้แนวคิดความเชื่อ นำมาสู่การปฎิบัติ หมายความว่าFood Passion ไม่กลัวการผิดพลาด เพราะถ้าไม่ผิดพลาดก็จะไม่ได้เรียนรู้ และไม่มีการพัฒนาเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอน Footprint คือ แนวปฎิบัติที่เราวางไว้ แต่บางครั้งการใช้ Mindset จากที่เราคลุกคลีกับงานของเรา คือความรู้สึกทำให้เราแก้ไขและเดินทางมาไกลถึงขนาดนี้”

ชาตยา สุพรรณพงศ์”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด

ติดปีกมังกรสู่ประตูอาเซียน

รายได้รวมของFood Passion ถึงต้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,380 ปีนี้ (2560) ซึ่งชาตยา มองว่ารายได้ของ Food Passion ยังสามารถเติบโตไปได้ถึง 3,800 ล้านบาท และภายใน3-5 ปี ชาตยาได้วางเป้าหมายของ Food Passion ในระดับที่ไกลกว่าประเทศ นั่นคือการส่งแบรนด์ที่มีอยู่ ออกสู่ตลาดโลก โดยเริ่มจากตลาดที่ใกล้ตัวอย่างอาเซียนเป็นอันดับแรก

“หลังจากที่ใช้เวลาในการศึกษาตลาดในอาเซียน ซึ่ง Food Passion มองว่าถ้าต้องเดินไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ พันธมิตรคือ กุญแจดอกใหญ่ที่จะทำให้เป้าหมายนั้นเป็นจริง ซึ่งตอนนี้ ในตลาดต่างประเทศเราสามารถส่ง บาร์บีคิว พลาซ่า ออกสู่ตลาดอาเซียนแล้ว 19 สาขาใน 2 ประเทศ ผ่านโมเดล Joint Venture แบ่งเป็น 17 สาขาในมาเลเซีย, 2 สาขาในอินโดนีเซีย ”

และล่าสุด เพิ่มเติมความแข็งแกร่งกับตลาดต่างประเทศ ชาตยา ได้หันมาจับมือกับเควิน วิทคราฟท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ EFG หรือชื่อเต็มคือ Express Food Group ในการนำแบรนด์อาหารบาร์บีคิว พลาซ่า ไปเปิดสาขาในกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศแรกในกลุ่ม CLMV

นับที่เป็นก้าวที่ท้าทายเพราะเป็นการลงสังเวียนที่กว้างและลึกกว่าการเป็นผู้เล่นระดับ International Company และถือป็นความสำเร็จในการขยายตลาดผ่านโมเดลแฟรนไชส์ เป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ Food Passion ขยายตลาดต่างประเทศผ่านโมเดล Joint Venture เท่านั้น

การร่วมมือกับ EFG โดยสิทธิเป็น Master Franchise ในรูปแบบ Area Development Franchise ในประเทศกัมพูชาแต่เพียงผู้เดียว ครั้งนี้ทำให้ Food Passion ได้เปรียบในเรื่องของการ Networking ที่ดีในอนาคตเพราะ EFG เป็น Expert ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีสาขามากมายในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะที่กัมพูชา ประกอบกับชาวกัมพูชา มีความชื่นชอบในแบรนด์บาร์บีคิว พลาซ่า เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เรียกว่า Win-Win Strategy ทั้งการขขยายตลาดและ ขยายกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ที่เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และคาดว่าธุรกิจต่างประเทศจะทำยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท ในปี 2563

“เราเชื่อมั่นว่า EFG จะช่วยให้บาร์บีคิว พลาซ่า ประสบความสำเร็จในประเทศกัมพูชาได้อย่างแน่นอน และจะเป็นก้าวสำคัญที่จะนำบาร์บีคิว พลาซ่า ขึ้นไปสู่การเป็น Regional Brand ในอนาคต ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะขยายสาขารวมไม่น้อยกว่า 30 สาขาทั่วภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในเบื้องต้นได้เตรียมงบลงทุนไว้กว่า 150 ล้านบาท ในการขยายสาขาบาร์บีคิวพลาซ่ารวมไม่น้อยกว่า 10 สาขา ภายในปี 2565 โดยในปีนี้เราวางแผนเปิด 2 สาขากลางกรุงพนมเปญ โดยสาขาแรกจะตั้งอยู่ในศูนย์การค้าอิออนมอลล์ (AEON Mall) และอีกสาขาจะเปิดในย่านหรู Tuol Kork ในกรุงพนมเปญ”

 ฟู้ดแพชชั่น บาบีคิวพลาซ่า

เป้าหมาย6,000 ล้านบาทกับ “จุดที่ลงตัว”

ทั้งนี้ บาร์บีคิว พลาซ่ายังเป็นธงนำที่สร้างรายได้หลัก แต่หลังจากนี้แบรนด์จุ่มแซ่บฮัท และไก่ทอด ฮ็อท สตาร์ จะต้องหา “จุดลงตัวใหม่”

“จริง ๆ แล้วร้านจุ่มแซ่บฮัท ยังคงเป็นสินค้าที่ดี แต่เราต้องจาก Comfort Zone เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเร็วมาก เช่นเดียวกับแบรนด์ไก่ทอด ฮ็อท สตาร์ ดังนั้น โจทย์ใหม่คือ เราต้องมองหาว่า ลูกค้าอยากได้อะไร Traffic เดิมของลูกค้าจะหาเราได้ตาม Location ในห้างสรรพสินค้า หรือห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ แต่จากนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น เราต้องเข้าไปหาลูกค้า อย่างบริการส่งจากแอพพลิเคชัน หรือแม้แต่นำสินค้าอย่างไก่ทอด ฮ็อท สตาร์ ไปออก Event เพราะจากที่ศึกษาระบบนิเวศของสินค้าตัวนี้จริง ๆ มองว่าเหมาะกับ Lifestyle Event มากกว่าไก่ทอด ฮ็อท สตาร์ จึงไปออก Event มาหลายครั้ง แทนที่จะขยายสาขาในรูปแบบเดิม ๆ และผลตอบรับก็ดีกว่าอยุู่ในห้าง หรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่

คำถามที่น่าสนใจจากนี้ เมื่อหันมามองรายได้ บาร์บีคิว พลาซ่า ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการ Run ธุรกิจ แต่จากนี้ ชาตยา ย้ำว่า จะบาลานซ์สัดส่วรายได้ของสินค้าทั้ง 3 ส่วนให้เหมาะสม

สัดส่วนของโมเดลธุรกิจที่ชาตยาว่า เหมาะสมต่อการขับเคลื่อนองค์กรแห่งนี้ ต้องไม่พึ่งแบรนด์ใด แบรนด์หนึ่งมากเกินไป
สูตร 70:30 คือ บาร์บีคิว พลาซ่า 70% ส่วนไก่ทอดและจุ่มแซ่บฮัท 30% จึงเป็นสูตรที่ลงตัวและจะเป็นการสร้าง Growth อย่างยั่งยืนของ Food Passion