The Business Plus บิสิเนสพลัส
หนึ่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวโดยตรง และมักจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นอันดับแรก ๆ คงหนีไม่พ้น ‘ธุรกิจสนามบิน’ ที่เปรียบเสมือนเป็นด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งประเทศไทยยังคงมีรายได้หลักส่วนใหญ่อยู่ที่การท่องเที่ยว จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาคการท่องเที่ยวยังคงมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น ด่านแรกของการต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่าง ‘สนามบิน’ จึงจำเป็นต้องมีความพร้อมในการรองรับผู้คนที่จะหลั่งไหลเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ ล่าสุด ‘คุณกีรติ กิจมานะวัฒน์’ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ‘บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)’ หรือ AOT เปิดเผยว่า จากที่อุตสาหกรรมการบินกลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งเที่ยวบินที่บินเข้าออก รวมถึงปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะผู้โดยสารที่จะเดินทางระหว่างประเทศ จึงมีแนวคิดที่จะทบทวนแผนแม่บทขยายขีดความสามารถสนามบินของ AOT ในระยะ 10 ปีข้างหน้านี้ใหม่ (ปี 2568-2578)
โดยจากเดิมที่มีแผนที่จะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศเหนือ (North Expansion) สนามบินสุวรรณภูมิก่อน ซึ่งรองรับผู้โดยสารในประเทศเท่านั้น จะปรับเปลี่ยนให้มีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศใต้ (South Expansion) วงเงิน 1 แสนล้านบาท ซึ่งอาคารดังกล่าวจะรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศเช่นเดียวกับอาคารผู้โดยสารหลังเดิมในปัจจุบัน โดยพื้นที่ก่อสร้างจะติดกับถนนบางนา-ตราด เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ถึง 180 ล้านคนต่อปี โดยจะมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินฉบับใหม่ภายในปี 2567 และได้ข้อสรุปก่อนที่จะมีการเดินหน้าแผนได้ภายในต้นปี 2568
สำหรับแผนลงทุนในปี 2567 ได้แก่
– สร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร สนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าลงทุน 9,000 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้อีกจำนวน 15 ล้านคน/ปี
– ขยายสนามบินดอนเมืองเฟส 3 มูลค่า 36,000 ล้านบาท โดยจะสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ และปรับปรุงอาคาร 1 และ 2 ให้เป็นอาคารผู้โดยสารในประเทศเพื่อเพิ่มการรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคนต่อปี เป็น 50 ล้านคนต่อปี
-สร้าง Junction Terminal ซึ่งยังมีพื้นที่ว่างระหว่างอาคาร Do mestic Terminal กับ International Terminal สร้างเป็นอาคารพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยอาจใช้แนวคิดจากการพัฒนาพื้นที่ของสนามบินชิโตเสะของญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี สำหรับแผนนี้ต้องรอการพัฒนาดอนเมืองเฟส 3 ก่อน
-ขยายสนามบินภูเก็ต ระยะที่ 2 วงเงิน 8,300 ล้านบาท โดยสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ รองรับผู้โดยสารได้ 18 ล้านคนต่อปี
– ขยายสนามบินเชียงใหม่ เฟส 1 มูลค่า 8,000 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้ 16.5 ล้านคนต่อปี
นอกจากนี้ ‘คุณกีรติ’ คาดการณ์ว่าในปี 2567 จะมีกระแสเงินรายรับเข้ามากว่า 70,000 ล้านบาท และเมื่อหักกระแสเงินสดรายจ่ายลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาทก็จะเหลือกระแสเงินสดในมือรวมกว่า 30,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงคาดว่าการลงทุนที่จะมีขึ้นจะไม่เกิดปัญหาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ การเดินทางเข้าออกของเที่ยวบินมายังประเทศไทยและผ่านสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT ทั้ง 6 สนามบิน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคาดว่าปีหน้าจะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10-20%
ทั้งนี้ Business+ ได้ทำการสำรวจข้อมูลผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี (2562-2566) ของ ‘บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)’ ที่แจ้งต่อ ‘ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย’ พบว่า
ปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 64,566.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.91% จากปี 2561 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 62,135.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 25,026.37 ล้านบาท ลดลง 0.57% จากปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 25,170.76 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 33,275.51 ล้านบาท ลดลง 48.46% จากปี 2562 และมีกำไรสุทธิ 4,320.68 ล้านบาท ลดลง 82.74% จากปี 2562
ปี 2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 7,838.44 ล้านบาท ลดลง 76.44% จากปี 2564 และขาดทุนสุทธิ 16,322.01 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 17,891.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128.26% จากปี 2564 และขาดทุนสุทธิ 11,087.86 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 32.07% จากปี 2564
ปี 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 48,445.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.77% จากปี 2565 และพลิกมีกำไร 8,790.87 ล้านบาท
อนึ่ง งบการเงินของ ‘บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)’ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน ของทุก ๆ ปี
ขณะที่ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ‘บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด’ คาดการณ์ว่า กำไรปกติงวดไตรมาส 1/67 (ต.ค.-ธ.ค. 2566) เติบโตเด่นที่ 5.0 พันล้านบาท เติบโต 38% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 1,051% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเพิ่มขึ้นของรายได้สัมปทาน ขณะเดียวกัน มองว่ากำไรโตจากการเข้า High Season จากรายได้กิจการการบินที่เติบโตจากรายได้ค่าบริการผู้โดยสารขาออกเป็นหลัก
โดยหากผลประกอบการออกมาตามคาด กำไรปกติงวดไตรมาส 1/67 จะคิดเป็น 23% ของคาดการณ์ทั้งปี 2566/67 ของบล.หยวนต้าที่ 2.2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 139% จากปีก่อน ขณะที่แนวโน้มงวดไตรมาส 2/67 (ม.ค.-มี.ค. 2567) คาดกำไรปกติฟื้นตัวเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์โดยการให้ส่วนลดการชำระผลตอบแทน และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ที่เป็นฐานต่ำ หากเทียบจากไตรมาสก่อน คาดว่ากำไรปกติโตต่อเนื่องจากช่วง High Season สอดคล้องกับรายงานจำนวนผู้โดยสารรวมเฉลี่ยต่อวันในเดือน ม.ค. เติบโตราว 11% เทียบค่าเฉลี่ยช่วง ต.ค.-ธ.ค. 2566
ที่มา : thairath, thaitv5hd, SET
เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/
#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #AOT #ท่าอากาศยานไทย #ธุรกิจสนามบิน #สนามบิน #นักท่องเที่ยว #การท่องเที่ยว #บริษัทจดทะเบียน
