AIS SME ชวนติดอาวุธธุรกิจ SME ด้วย Digital Transformation แบไต๋หมดเปลือก อยากทำธุรกิจให้ปัง ต้องทำอย่างไร

ในการทำธุรกิจ แน่นอนว่าความตั้งใจอย่างเดียวยังไม่เพียงพอที่จะส่งให้ธุรกิจเติบโตไปสู่ฝั่งฝันได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ ความสามารถ รวมถึงความพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับทุก ๆ สถานการณ์อยู่เสมอ รวมถึงมีความตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ เพื่อไม่ให้เกิดรอยรั่วที่อาจนำไปสู่ความเสียเปรียบในการแข่งขันกับภาคธุรกิจด้วยกัน

ซึ่งทาง AIS SME ได้เล็งเห็นความสำคัญในด้านนี้ จึงได้นำศักยภาพความแข็งแกร่งที่ AIS มีมาติดปีกให้กับผู้ประกอบการ SME ด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยี เครื่องมือทางการตลาด บริการด้านไอที โซลูชันบนโครงข่ายอัจฉริยะ ทั้งยังจับมือกับพันธมิตรข้ามอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เดินหน้าสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจแบบร่วมกัน หรือ ECOSYSTEM ECONOMY ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Intelligence Infrastructure) เชื่อมต่อธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม (Cross Industry Collaboration) รวมถึงการสร้างความยั่งยืนให้กับการดำเนินธุรกิจ (Human Capital & Sustainability)

โดยหนึ่งในตัวอย่างของอาวุธที่นำมาติดปีกให้กับผู้ประกอบการ SME ที่เกิดจากความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมระหว่าง AIS และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ได้แก่ บริการ “Yellow B2B2C e-marketplace”

B2C e-marketplace อย่างเดียวหลบไป ยุคนี้ต้อง B2B2C e-marketplace

แพลตฟอร์ม B2B2C e-marketplace ใหม่ล่าสุดที่รวมเอาสินค้าขายส่งและวัตถุดิบจากโรงงาน ผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ที่รองรับธุรกิจผู้ประกอบการทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม มากกว่า 5,600 หมวดสินค้า ช่วยทำ Business Matching ให้แก่ผู้ซื้อทั้งรายใหญ่และรายเล็กให้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรงไม่ผ่านคนกลาง จึงช่วยต่อยอดธุรกิจทั้งเชิง B2B และ B2C ได้อย่างครบวงจรผ่าน www.yellow.co.th  โดยฝั่งผู้ขายสามารถค้นหาผู้ซื้อ หรือโพสต์สร้างความต้องการสินค้าหรือบริการได้ง่าย ๆ ผ่านศูนย์รวม “RFQ มาร์เกตเพลส” เพื่อให้ผู้ขายสามารถติดต่อเสนอราคาได้ทันที ส่วนฝั่งผู้ขายก็สามารถเจรจาธุรกิจไปจนถึงปิดการขายได้ง่าย ๆ ผ่านช่อง Chat Commerce อีกทั้งยังมีเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น ระบบจัดการคูปองร้านค้า (Coupon Management)  ระบบแชตเชื่อมไปยังโซเชียลแพลตฟอร์มแชตอื่น (Social Chat) ฯลฯ ซึ่งบริการนี้นอกจากจะมี AIS เป็นผู้ให้บริการทางด้านดิจิทัลแล้ว ยังได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) ในการเชิญชวนและเปิดโอกาสให้สมาชิกของสภาอุตสาหกรรมสามารถใช้บริการนี้และนำสินค้าขึ้นบนแพลตฟอร์มได้ฟรี พร้อมสิทธิพิเศษมากมายจาก Yellow

โดยคุณณัฐนัย นิลเอก Business Development Manager Tropicana Oil Co., Ltd. หนึ่งในผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม Yellow ได้แบ่งปันประสบการณ์การใช้งานไว้ว่า “Tropicana Oil เป็นหนึ่งในผู้ใช้งานของ AIS ภายใต้แพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Yellow ในลักษณะ B2B ในประเทศ ซึ่ง Tropicana Oil มีบริการในเรื่องการซัพพลายน้ำมันมะพร้าวซึ่งเป็นวัตถุดิบต้นน้ำให้กับโรงงานต่าง ๆ เช่น โรงงานอาหาร โรงงานเครื่องสำอาง โรงงานยา เป็นต้น พบว่าการใช้แพลตฟอร์มออฟไลน์มีข้อจำกัดค่อนข้างมาก และเกิดการแข่งขันทางด้านราคาสูง ในขณะที่การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถให้ข้อมูลบริษัทบนแพลตฟอร์มได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป คือเน้นการเสิร์ชผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น การที่บริษัทของเรามีข้อมูลอยู่บนแพลตฟอร์ม Yellow ทำให้การเสิร์ช SEO ต่าง ๆ ติดชื่อขึ้นมา ทำให้เกิดธุรกรรมบนแพลตฟอร์มได้ ซึ่งมีความสะดวก ง่าย อีกทั้งทาง AIS ก็มีทีมงานที่คอยช่วยอัปโหลดข้อมูลและซัพพอร์ตเราตลอด ก็จะรวดเร็ว และง่ายกว่าแพลตฟอร์มคู่แข่งที่เป็น B2B จากต่างประเทศที่มีความยุ่งยากในการตกแต่งร้านค้า อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ดังนั้นการร่วมมือกับทาง AIS จึงถือเป็นการตอบโจทย์และทำให้ธุรกิจด้าน B2B ของเราเติบโตขึ้น”

ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจแพลตฟอร์ม Yellow สามารถดูรายละเอียดและสมัครสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ 

Website : www.yellow.co.th

Email : support@yellow.co.th

หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เบอร์ 02-262-8844

ด้านคุณธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย Chief Enterprise Business Officer AIS กล่าวว่า “หนึ่งใน Sector ของภาคธุรกิจที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของประเทศ คือ SME หรือ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการกว่า 3.18 ล้านราย ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันกลุ่ม SME ก็ยังมีส่วนร่วมในการสร้าง GDP ให้กับประเทศถึง 34.2% ดังนั้นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับการดำเนินธุรกิจผ่านการทำ Digital Transformation ก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ SME มีอาวุธใหม่ ๆ ในการสร้างโอกาสและการเติบโตในอนาคตได้อย่างยั่งยืน”

โดยจากข้อมูลพบว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่ต้องการ อาทิ เครื่องมือหรือแพลตฟอร์มด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง แพลตฟอร์มค้าขาย online หรือ E-Commerce เพื่อให้เสริมศักยภาพ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน สามารถลดต้นทุนการดำเนินงาน ขยายช่องทางการขาย หรือแม้กระทั่งการขยายฐานลูกค้าและการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ  ดังนั้น  AIS SME เข้าใจทุกความต้องการของลูกค้า นอกจากการเปิดตัวแพลตฟอร์มน้องใหม่อย่าง Yellow แล้ว ยังผนึกกลยุทธ์สุดแกร่งอย่าง 7S เข้าไปในโจทย์ธุรกิจของผู้ประกอบการ SME  เพื่อผลักดันและสนับสนุนทุกการเติบโต ซึ่งประกอบด้วย

  • AIS SME Mobile Services บริการโทรศัพท์เพื่อการสื่อสาร
  • AIS SME Internet Services บริการอินเทอร์เน็ต
  • AIS SME Digital Marketing Services เครื่องมือด้านการตลาดออนไลน์
  • AIS SME IT & Digital Solutions พัฒนาระบบไอทีหลังบ้าน
  • AIS SME Full e-Services งานบริการแบบ E-Service ที่อำนวยความสะดวกให้แก่นิติบุคคล
  • AIS SME Special Privileges สิทธิพิเศษที่ทำให้การทำธุรกิจง่ายขึ้นด้วย AIS SME BIZ UP
  • AIS SME Strategic Partnership การผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ

นอกจากนี้ AIS SME ยังเน้นการสนับสนุน 4 อุตสาหกรรมหลัก SME ได้แก่ การค้า การผลิต บริการ ดิจิทัล/เทคโนโลยี โดย AIS SME ได้จัดทำแพ็กเกจสำหรับผู้ค้า SME ออนไลน์ ให้ได้ใช้แอปถุงเงิน หรือแอป TikTok ในราคาพิเศษ รวมถึงแพ็กเกจ AIS Fibre พร้อมระบบกล้องวงจรปิด เป็นต้น

เสริมแต้มต่อด้วยสิทธิพิเศษเพื่อคนทำ SME นอกจากการทำ Digital Transformation ให้ธุรกิจ SME แข็งแกร่งแล้ว AIS SME ยังเสริมความอุ่นใจด้วยสิทธิพิเศษเพื่อลูกค้า SME ทั้ง AIS Serenade และ AIS Points ที่มอบให้เฉพาะ SME นิติบุคคลรายแรกและรายเดียวในไทย โดยนอกจากลูกค้ากลุ่ม SME จะได้รับรับสิทธิพิเศษแบบจัดเต็มเช่นเดียวกับลูกค้าทั่วไปแล้ว ยังมีโปรแกรม ‘AIS  BIZ UP’ ที่มาพร้อมความพิเศษที่มากกว่า ทั้งการอัปเดตความรู้ เทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจแบบเอ็กซ์คลูซีฟ หรือส่วนลดค่าสินค้าและบริการจากพันธมิตรกว่า 95 พาร์ตเนอร์
โดยคุณนวชัย เกียรติก่อเกื้อ Head of Enterprise Marketing  Management & SME Business, AIS เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของโปรแกรม ‘AIS SME BIZ UP’ ไว้ว่า “AIS SME BIZ UP คือ Serenade สำหรับลูกค้านิติบุคคลโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นการมอบสิทธิประโยชน์ในเชิงธุรกิจโดยตรง เนื่องจากลูกค้ากลุ่ม SME มีความต้องการในด้านของสิทธิประโยชน์ที่ไม่เหมือนกับกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป อาทิ ผู้บริโภคทั่วไปอาจจะชอบสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น สิทธิประโยชน์ในด้านของร้านอาหาร หรือการท่องเที่ยว เป็นต้น ในขณะที่ลูกค้าภาคธุรกิจมีความต้องการสิทธิประโยชน์ในเชิงธุรกิจ เช่น การใช้ซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ หรือการใช้บริการทางธุรกิจ เช่น การใช้ห้องประชุม บริการบัญชี บริการแม่บ้าน หรือบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ AIS จึงได้ตั้งโปรแกรม BIZ UP ขึ้นมาเพื่อนำสิทธิประโยชน์ทางธุรกิจไปให้กับลูกค้าภาคธุรกิจ SME โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ของวงการ BIZ UP ก็จะเป็นสิทธิประโยชน์จากสตาร์ทอัพ ซึ่งทาง AIS SME ได้มีการนำสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไปมอบให้กับทาง SME ทั้งหมด ธุรกิจ SME โตได้ พาร์ตเนอร์ก็โตด้วย เพราะเราจะ “เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน”

สำหรับตัวอย่างของบริการจากสตาร์ทอัพในกลุ่ม ‘AIS The StartUp’ ที่เข้ามาส่งมอบบริการให้ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นสมาชิก BIZ UP ให้สามารถเข้าถึงได้ในราคาพิเศษ อาทิ ส่วนลดสูงสุด 20% กับบริการขนส่งออนไลน์ ‘SHIPPOP’ สตาร์ทอัพสัญชาติไทยผู้ให้บริการระบบจองขนส่งออนไลน์ที่รวบรวมขนส่งชั้นนำไว้ในระบบเดียว โดยผู้ใช้งานสามารถจองขนส่ง เรียกขนส่งเข้ารับพัสดุที่บ้าน ติดตามสถานะพัสดุ เพิ่มประกันมูลค่าพัสดุเสียหาย รองรับระบบเก็บเงินปลายทาง พร้อมทั้งมีทีมงานคอยดูแลและให้คำแนะนำ ช่วยให้ผู้ใช้งานหรือผู้ประกอบการ สามารถใช้งานได้สะดวกและสามารถบริหารจัดการเรื่องขนส่งสินค้าได้ด้วยตนเอง ผ่านแพลตฟอร์มด้านการขนส่งที่เชื่อมโยงขนส่งทุกเจ้าในประเทศไทยมาไว้ในที่เดียว และมีการส่งพัสดุมากกว่าเดือนละ 1 ล้านชิ้น ที่จะเข้ามาช่วยเหลือ SME ในเรื่องการบริหารจัดการขนส่งสินค้า หรือการจัดการเอกสารต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับรูปแบบและระยะเวลาที่ต้องการ

โดยคุณสุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชิปป๊อป จำกัด กล่าวว่า “เป้าหมายของ SHIPPOP คือต้องการให้ SME เติบโต จึงได้ร่วมมือกับทาง ‘AIS SME BIZ UP’ โดยมอบส่วนลด 20% สำหรับสมาชิก BIZ UP ที่ต้องการจัดส่งสินค้าภายในประเทศ เรายังเล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลก จึงเปิดให้บริการจัดส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ โดย SHIPPOP จะช่วยบริหารจัดการขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อนตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหรือ SME มุ่งเน้นไปที่การขยายตัวของธุรกิจ นอกจากนี้เรายังได้ออกแบบและพัฒนาระบบจัดการออร์เดอร์ ที่รวมแชตจากช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ มาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการกับทาง AIS ในเร็ว ๆ นี้”

สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมร้านอาหาร ให้สามารถใช้แพลตฟอร์มบริหารจัดการระบบในร้านอาหารจาก ‘FoodStory’ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 โดยเริ่มจากกลุ่มคนเล็ก ๆ ในยุคที่สตาร์ทอัพกำลังฟูมฟักก่อตัว โดยเริ่มต้นธุรกิจบนพื้นที่เล็ก ๆ ใต้อะพาร์ตเมนต์ เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ จนกลายมาเป็นผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการร้านอาหารที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยสำคัญของธุรกิจร้านอาหารในยุคสมัยใหม่ ให้สามารถปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลได้ โดยผู้ประกอบการสามารถเชื่อมต่อข้อมูลทั้งในส่วนของหน้าร้าน การจัดการสต็อก รวมถึงระบบ CRM ที่จะเข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้งานแพลตฟอร์ม Foodstory ได้ในราคาพิเศษอีกด้วย

โดยคุณชวิน ศุภวงศ์ Chief Operation Officer Living Mobile ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Foodstory กล่าวว่าFoodStory เริ่มต้นการเข้ามาเป็น Partner กับทาง AIS ผ่าน AIS The StartUp ก่อน หลังจากที่ได้เข้าร่วมกับทางกลุ่ม AIS The StartUp ก็ได้รับการสนันสนุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งความรู้ที่ได้จาก Community AIS The StartUp ยังได้รับโอกาสต่าง ๆ จาก AIS The StartUp ด้วยเช่นกัน BIZ UP ก็เป็น 1 ในโอกาสที่ AIS The StartUp ได้มอบให้ทาง FoodStory ได้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้า SME ผ่านการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของทาง FoodStory ให้กับกลุ่มลูกค้า SME ของ AIS เรียกได้ว่าเป็น WIN WIn Solution กับทั้งสอง Partner ของ AIS คือลูกค้า AIS SME ก็จะได้เข้าถึง​ Solution ต่าง ๆ พร้อมสิทธิพิเศษ ทางกลุ่มของ AIS The StartUp ก็ได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ตรงเป้าหมายด้วยเช่นกัน ถึงเรียกได้ว่า เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน จริง ๆ”

โดยการติดอาวุธธุรกิจให้กับ SME ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ AIS ที่เล็งเห็นการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจซึ่งทางคุณธนพงษ์ ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ไว้ว่า จำนวนธุรกิจจดทะเบียนบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าการฟื้นตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งจำนวนธุรกิจ SME ในประเทศไทยมีปริมาณมากกว่าช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้มีจำนวนลูกค้าที่เป็นลูกค้าองค์กรที่มาใช้บริการจาก AIS ที่เป็นธุรกิจเปิดใหม่มีจำนวนตัวเลขที่ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตค่อนข้างดีจากหลาย ๆ ปัจจัย อาทิ ภาคการท่องเที่ยวที่มีการฟื้นตัว ซึ่งธุรกิจ SME จำนวนมากอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านอาหาร กำลังซื้อที่มาจากนักท่องเที่ยวจะทำให้ SME สามารถฟื้นคืนกลับสู่ภาวะปกติ ทำให้มองเป็นสัญญาณบวกสำหรับเศรษฐกิจไทย อีกทั้งยังถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับธุรกิจของ AIS ที่จะช่วยผลักดันให้ทำธุรกิจเติบโตได้ดีขึ้น

“เราเชื่อว่าวันนี้ผู้ประกอบการ SME ไทยมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและจะเป็นกำลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ  AIS SME ขอเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง พร้อมสนับสนุนให้ SME เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน ผ่านการนำดิจิทัลและกลยุทธ์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงาน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพทางการแข่งขันได้อย่างเต็มที่”

AIS SME พร้อมอยู่เคียงข้างธุรกิจ SME ให้เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน

สแกนเลยเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใคร

รายละเอียดสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจาก AIS ->  https://m.ais.co.th/j7HAM2YUo

AIS SME เพื่อนที่มั่นใจได้ทุกเรื่อง SME

ปรึกษาและวางแผนพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อรองรับการทำงานและต่อยอดธุรกิจได้ที่

Email : business@ais.co.th

Website AIS SME :  https://m.ais.co.th/1WHO1DrtO

#พร้อมเคียงข้างทุกธุรกิจSME #AISSME2023 #AISSME #เติบโตอุ่นใจไปด้วยกัน #BusinessPlus #SME #เอสเอ็มอี #EcosystemEconomy #เศรษฐกิจดิจิทัล #AISBusiness #7S #Yellow #BizUp #AISTheStartUp #AISPoints

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ที่มา : AIS SME