ร้านอาหารจีนโดยเฉพาะ “หม่าล่า” ถือเป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงประจำปี 2566 ด้วยความนิยมของผู้บริโภคชาวไทย ส่งผลให้มีร้านอาหารจีนและหม่าล่าเปิดตัวเป็นจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าตลาดราว 6,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มในการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสมรภูมิการแข่งขันอันดุเดือดที่ท้าทายทั้งผู้เล่นเดิมในตลาดและร้านอาหารเปิดใหม่ ให้ต้องเฟ้นหากลยุทธ์เด็ดเพื่อมัดใจลูกค้าพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้ต่อไป ไม่เว้นแม้แต่แฟรนไชส์ร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวน-ฉงชิ่งยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนอย่าง “ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า” ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลากว่า 4 เดือน และได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าตั้งแต่การเปิดตัว ก็ต้องมีการลับคมกลยุทธ์ใหม่เพื่อสร้างความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาวท่ามกลางสมรภูมินี้เช่นกัน
นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากเทรนด์การรับประทานอาหารจีนโดยเฉพาะหม่าล่าได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคเกินกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ในปีนี้ตลาดดังกล่าวในประเทศไทยมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 7.3 % ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า จึงมุ่งดำเนินกลยุทธ์เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดพร้อมสร้างรากฐานทางธุรกิจที่มั่นคงและต่อยอดการเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านสินค้าและบริการของร้าน โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการครองใจผู้บริโภคชาวไทยในระยะยาว นำมาสู่กลยุทธ์ 3 ข้อสำคัญ ฝ่าสมรภูมิอาหารจีนในประเทศไทย ได้แก่”
- การชูจุดเด่นที่ไม่ซ้ำใคร (Product Differentiation) เมนูที่สร้างความโดดเด่นให้ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช เทียบกับร้านอาหารจีนหรือร้านหม่าล่าอื่น ๆ หนีไม่พ้นเมนู Best Seller อย่าง “ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่งซอสหม่าล่า”เมนูอาหารจีนฉงชิ่ง-เสฉวน ตำรับแท้ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเยี่ยม การันตีจากยอดขายกว่า 5,000 จาน ด้วยความนิยมดังกล่าว จึงมีการส่งโปรโมชัน “เซตสุขเลือกได้” จับคู่เมนูปลาย่างกระทะร้อนเข้ากับเมนูอื่น ๆ ของร้าน ในราคาที่คุ้มค่า ช่วยชู Brand Identity ของร้านในสายตาผู้บริโภคควบคู่ไปกับการกระตุ้นยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ
- พัฒนาเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง (New Products Introduction) ด้วยความที่กลุ่มเป้าหมายหลักของร้านที่เป็นคนไทยถึง 70% นอกจากการปรุงอาหารจีนสไตล์เสฉวน-ฉงชิ่ง ให้ได้รสจัดจ้านและกลมกล่อมถูกปากลูกค้าชาวไทย ร้านยังได้มีการคิดค้นเมนูที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย ที่ผ่านมาได้นำเสนอเมนูใหม่อย่าง “Speedy Lunch” เมนูอาหารกลางวันสไตล์จีนจานด่วนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มพนักงานออฟฟิศในย่านใกล้ทำเลที่ตั้งของร้าน และในเดือนธันวาคมนี้ที่ร้านสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ยังได้เปิดตัวเมนู “หม่าล่าทั่ง” หรือหม่าล่าแบบน้ำมาพร้อมน้ำซุปซดได้ และ “หม่าล่าเซียงกัว” หรือหม่าล่าผัดแห้ง ที่มีไฮไลท์ที่บาร์วัตถุดิบสดกว่า 50 รายการ ครบทั้งผัก เนื้อสัตว์ ลูกชิ้น และเส้นก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกตักตามต้องการเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังสามารถเลือกน้ำซุปได้ถึง 3 ประเภทที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี ปรุงจนได้รสชาติความอร่อยแบบต้นตำรับประเทศจีน ได้แก่ ซุปหม่าล่าคอลลาเจน ซุปคอลลาเจน และซุปมะเขือเทศ เพื่อสอดรับกับความนิยมของหม่าล่าทั่งและเซียงกัวที่กำลังได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้ เป็นอีกกลยุทธ์กระตุ้นยอดใช้บริการได้เป็นอย่างดี
- สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง (Customer Engagement) นอกจากสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า ยังมีการสื่อสารและจัดกิจกรรมการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและ LINE OA ของร้านเพื่อเสริมสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงต่อยอดสู่การพัฒนาระบบ Loyalty Program ในอนาคต
“จากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า” เป็นหนึ่งในร้านอาหารจีนสไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวน ที่สามารถยืนหยัดและสร้างการเติบโตท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดร้านอาหารจีนในประเทศไทยได้สำเร็จ” นายธันยเชษฐ์ กล่าวสรุป
สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารจีนสไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวน หลากหลายรายการ และหม่าล่าสูตรต้นตำรับได้ที่ ร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า ทั้ง 2 สาขา ได้แก่ ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 9 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเฟซบุ๊กแฟนเพจ Riverside Grilled Fish TH หรือบัญชีอินสตาแกรม @riversidegrilledfish.th และสามารถแอด LINE เพื่อดูเมนูและสำรองที่นั่งได้ที่ @rgfandmalath