ไขปริศนาคาใจ ทำไมชาวอิตาลีถึงจริงจังเรื่องอาหาร?

หลาย ๆ คนคงอาจจะเคยได้พบเจอกับข่าวหรือคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับชาวอิตาลีที่มักจะจริงจังเป็นพิเศษเกี่ยวกับอาหารประจำชาติของพวกเขา และถึงขั้นเกิดอาการ ‘หัวร้อน’ เมื่อมีการดัดแปลงเมนูอาหารให้ผิดเพี้ยนไปจากสูตรดั้งเดิม อาทิ การใส่สับปะรดบนหน้าพิซซ่า หรือการหักเส้นสปาเกตตี้ตอนต้ม ล้วนแล้วแต่นำมาซึ่งความไม่พอใจให้แก่ชาวอิตาลีด้วยกันทั้งนั้น จนบางครั้งถึงกับบอกว่าการทำสิ่งเหล่านั้น เป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นผิดกฎหมายกันเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้มักจะถูกนำมาพูดถึงกันเป็นวงกว้าง และนำมาซึ่งการแซวกันถึงความจริงจังดังกล่าวอยู่เสมอ

 

ด้วยเหตุนี้ ทาง Business+ จะพาทุกท่านไปร่วมไขปริศนาคาใจไปพร้อมกันว่าทำไมชาวอีตาลีถึงได้มีความจริงจังในเรื่องของสูตรอาหารแบบดั้งเดิมนัก

 

ก่อนอื่น มาทำความรู้จักอาหารอิตาลีกันก่อน

 

อาหารอิตาลีมีจุดเริ่มต้นมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุคสมัยที่อาณาจักรโรมันแผ่ขยายครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ ไปจนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเมื่อจักรวรรดิโรมันพิชิตพื้นที่ต่าง ๆ ได้ สิ่งที่ตามมาคือ วัตถุดิบอาหาร รวมถึงเครื่องเทศของดินแดนเหล่านี้ได้มีการผสมผสานเข้าด้วยกันกับอาหารโรมัน ส่งผลให้อาหารของจักรวรรดิโรมันมีทั้งดั้งเดิมและอาหารแปลกใหม่ สำหรับวัตถุดิบหลักของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่พบได้ในช่วงแรก ประกอบด้วย ไวน์, น้ำมันมะกอก, ขนมปัง, ผัก, พืชตระกูลถั่ว และชีส เป็นต้น นอกจากนี้ ชาวโรมันยังได้ทดลองกับส่วนผสมต่าง ๆ เช่น เนื้อนกกระจอกเทศ, น้ำปลา อีกด้วย

 

ส่วนหนึ่งในอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของอิตาลี อย่าง ‘พาสต้า’ นั้น เชื่อกันว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน โดยย้อนไปถึงชาวอิทรัสคันที่พิชิตกรุงโรมเมื่อ 800 ปีก่อนคริสตกาล นักประวัติศาสตร์ด้านอาหารระบุว่าภาพจิตรกรรมฝาผนังในหลุมฝังศพของชาวอีทรัสคันแสดงให้เห็นการทำพาสต้า โดยพ่อครัวกำลังผสมแป้งกับน้ำ พร้อมด้วยอุปกรณ์ทำอาหาร เช่น ไม้นวดแป้งและเครื่องตัด เป็นต้น

 

 

 

สำหรับอาหารอิตาลีนั้น สามารถแบ่งตามประเภทของอาหารในแต่ละมื้อได้ดังนี้

 

อาหารว่างและของกินเล่นระหว่างมื้อ ที่เป็นที่รู้จักดีคือพิซซา โดยพิซซาในอิตาลีจะเป็นแผ่นแป้งอบทาซอสมะเขือเทศ แต่งหน้าด้วยเนื้อสัตว์ มะเขือเทศ หรือเห็ด เน้นที่ชีสยืดเหนียวด้านบน

 

อาหารเรียกน้ำย่อยหรืออันตีปัสโต (Antipasto) ถ้าเป็นเมืองตามชายฝั่งทะเลจะเน้นอาหารทะเลสด ส่วนทางตอนในจะเป็นไส้กรอกหรือแฮม กินกับผักสดและผักชุบแป้งทอด มิฉะนั้นจะเป็นขนมปังกระเทียมหรือซุปต่าง ๆ นอกจากนั้น อาหารเรียกน้ำย่อยยังรวมไปถึงพาสตานานาชนิดและข้าวแบบอิตาลีที่เรียกว่ารีซอตโต

 

อาหารจานหลัก ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อสัตว์ล้วนที่ปรุงด้วยวิธีการต่าง ๆ กินคู่กับผักและมันฝรั่ง ถ้าเป็นเมืองชายฝั่งทะเลจะเน้นเนื้อปลา ถ้าเป็นทางตอนเหนือจะเน้นเนื้อวัวและเนื้อแกะ

 

ของหวาน ของหวานที่พบบ่อย ได้แก่ ไอศกรีมที่กินกับผลไม้สด ปันนาค็อตตา และซาบาโยเน

 

ทีนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญว่าทำไมชาวอิตาลีถึงได้จริงจังเรื่องการทำอาหารที่ผิดเพี้ยนไปจากสูตรดั้งเดิมนัก ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้มีคำตอบที่เป็นเชิงวิชาการมาช่วยไขปริศนาคาใจต่อคำถามนี้ แต่ก็พอจะมีคำตอบจากชาวอิตาลีบางส่วนที่พอจะช่วยไขความกระจ่างให้กับเราได้ไม่มากก็น้อย

 

โดยในวันนี้ Business+ ได้หยิบยกตัวอย่างคำตอบจากชาวอิตาลีนามว่า ‘PAOLA’ บล็อกเกอร์สาวที่เกิดและเติบโตที่อิตาลี ที่ได้ออกมาให้คำตอบถึงเรื่องนี้ผ่านบล็อกของเธอ โดยระบุว่า ชาวอิตาลีนั้นชื่นชอบอาหารมาก โดยชาวอิตาลีใช้เวลาในช่วงวันหยุดไปกับอาหารอยู่เสมอ นอกจากนี้ วิถีชีวิตทางสังคมและครอบครัวก็ยังเชื่อมโยงกับอาหารอยู่เสมอ ซึ่งมองว่าการทำอาหารให้กับผู้อื่นเป็นการแสดงความรักและความห่วงใย ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือการที่บรรดาแม่ ๆ ต่างก็ทำอาหารให้ลูก ๆ ในทุก ๆ วัน ด้วยความใส่ใจที่จะมอบอาหารที่ดีต่อสุขภาพและอร่อยแก่ลูกอยู่เสมอ ดังนั้น อาหารจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของแม่ นอกจากนี้ อาหารยังถือเป็นพิธีกรรมของครอบครัวอีกด้วย โดยผู้คนมักแบ่งปันสูตรอาหารแบบดั้งเดิมกับครอบครัวในช่วงเทศกาล โดยชาวอิตาลีส่วนใหญ่มีพิธีกรรมเช่นนี้ในทุกสัปดาห์ ซึ่งความทรงจำต่าง ๆ ที่มีร่วมกับครอบครัวในการช่วงเวลาเหล่านั้นทำให้อาหารถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวอิตาลี

 

นอกจากนี้ วัฒนธรรมอาหารอิตาลีเปรียบเสมือนเป็นศาสนาสำหรับชาวอิตาลีเลยทีเดียว เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วการปรุงอาหารแบบดั้งเดิมนั้นได้รับการปลูกฝังและส่งต่อผ่านชาวอิตาลีทุกคน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ชาวอิตาลีได้ทำการแบ่งปันถึงกันอย่างแท้จริง เนื่องจากในประเทศอิตาลีไม่ได้ใช้ภาษาเดียว โดยแม้ว่าผู้คนในอิตาลีจะพูดภาษาอิตาลีได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วในอิตาลีมีภาษาถิ่นถึง 34 ภาษาด้วยกัน ซึ่งมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อการพูดภาษาอิตาลีของผู้คน นอกจากนี้ ด้วยความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างผู้คนในประเทศ แต่อย่างไรก็ดี ชาวอิตาลียังคงแบ่งปันความรักให้กันผ่านอาหาร โดยผู้คนสามารถพูดคุยกันเรื่องอาหารได้เป็นชั่วโมง รวมถึงร่วมแบ่งปันสูตรอาหารที่มาจากต้นตระกูลถึงกัน ทำให้อาหารเปรียบเสมือนสิ่งที่เชื่อมผู้คนเข้าหากัน

 

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ คงพอเป็นคำตอบให้ได้ว่าทำไมชาวอิตาลีถึงได้จริงจังเรื่องอาหารนัก นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารเป็นอย่างมากนั่นเอง หากจะให้เห็นภาพก็คงคล้าย ๆ กับกรณีที่คนไทยเราก็รู้สึกไม่พอใจเวลาที่เห็นชาวต่างชาตินำใบโหระพาใส่ลงไปในเมนูผัดกะเพรา หรือการนำผักมากมายนอกเหนือจากกะเพราใส่ลงไปในเมนูนั่นเอง

 

ที่มา : toscanaslc, วิกิพีเดีย, theelephantmum

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

.

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ItalianCuisine #อาหารอิตาลี #อิตาลี #พิซซา #พาสต้า #สปาเกตตี้ #Pizza