วิรัตน์ เอื้อนฤมิต เบื้องหลังผู้ทรานส์ฟอร์ม บมจ.ไทยออยล์ ได้สำเร็จ

 

สิ่งที่ทำให้ “บมจ. ไทยออยล์” ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มโรงกลั่นชั้นนำ เกิดจากความพร้อมและการปรับตัวในหลาย ๆ ด้านให้เข้ากับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารจัดการธุรกิจเชิงรุกในการดูแลกระบวนการผลิตให้มีการปฏิบัติการที่เป็นเลิศและมีความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็วและเกิดประโยชน์สูงสุด

 

“บมจ. ไทยออยล์” อาศัยการปฏิบัติงานของฝ่ายต่าง ๆ ในรูปแบบบูรณาการให้มีความสอดประสานกันผ่านจุดเด่นของบริษัทในหลายด้าน อาทิ ทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญของพนักงาน ความยืดหยุ่นของกระบวนการผลิตของกลุ่มไทยออยล์ และนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้งานตลอดห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองต่อความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญ “บมจ. ไทยออยล์” บริหารงานอย่างยั่งยืน ครอบคลุมมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) ด้านสังคม (Social) และด้านบรรษัทภิบาล (Governance) เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุลในทุกด้าน

 

จะเห็นว่า แนวทางการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตของรายได้และกำไร ทั้งในระยะกลางและระยะยาวของ “บมจ. ไทยออยล์” เกิดจากวิสัยทัศน์ของคุณวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP จนทำให้ มีผลงานในการบริหารงานที่โดดเด่น ทั้งในด้านการเปลี่ยนแปลง องค์กร การขับเคลื่อนองค์กรผ่านพ้นสถานการณ์โควิด และการวางกลยุทธ์องค์กรเติบโตก้าวหน้าสูองค์กร 100 ปี

 

จึงเป็นคำถามสำคัญว่า ก้าวย่างบนความสำเร็จต้องปรับ Business Model ใหม่ให้ทันต่อปรากฏการณ์ Technology Disruption จึงต้องทำ “Digital Transformation” ควบคู่ไปกับการแสวงหา New S-curve เพื่อสร้างการเติบโตใหม่ โดยคุณวิรัตน์ เล่าให้เราฟังว่า คติประจำตัวสำหรับการบริหารงานจะต้องมีแนวคิดแบบ Positive Thinking ทุกปัญหามีทางแก้ไข ให้มองว่าการที่เราต้องแก้ไขปัญหาเป็นโอกาสที่ทำให้เราต้องยกระดับการทำงาน และความสามารถของตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม

 

“แนวคิดแบบ Positive Thinking  คอยบอกตัวเองเสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีความเป็นไปได้ ทุกปัญหามีทางแก้ไข สำหรับตัวผมเองก็ชอบมองหาความตื่นเต้นใหม่ ๆ และท้าทายความสามารถ ยากมากเท่าไรยิ่งดี เพราะทำให้เรามีโอกาสได้พัฒนาตัวเอง มีแนวคิดเชิงกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างสถานการณ์ได้ทันท่วงที มองว่าการที่เราต้องแก้ไขปัญหาเป็นโอกาสที่ทำให้เราต้องยกระดับการทำงานและความสามารถของตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม”

 

นอกจากนี้ คุณวิรัตน์ มองว่า สถานการณ์คับขัน มักสร้างโอกาสเสมอ โดยมองเห็นว่าโอกาสจะมาพร้อมกับวิกฤตเสมอ ขึ้นอยู่กับวิธีมองของเรา ซึ่งความฉลาดเพียงอย่างเดียวนั้นไม่อาจทำให้อยู่รอด แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ความสามารถในการปรับตัวมากกว่า

 

“นอกจากการคิดบวกแล้ว ผมคิดว่าการรักในงานที่ทำและมีความสุขกับการทำงานก็เป็นเรื่องสำคัญ คือหากรักในสิ่งที่ตัวเองทำ จะยิ่งเกิดความทุ่มเทตั้งใจทำงานให้ถึงเป้าหมาย ในขณะเดียวกันก็จะทำให้เรามีความสุขในการทำงาน ไม่เกิดความเครียดหรือท้อถอย”

 

การบริหารงานภายใต้ความท้าทายต่าง ๆ

ปัจจุบันทุกธุรกิจต่างเจอกับความผันผวนและความไม่แน่นอนของตลาดไม่ว่าจะเกิดจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ความตึงเครียดในสงคราม การค้า รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี สังคม และพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งส่งผลให้โมเดลของธุรกิจในอนาคตมีการเปลี่ยนแปลง เปิดโอกาสให้เห็นถึงแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการ ของลูกค้า

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ ไทยออยล์ รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกและทิศทางของตลาดที่จะมีความผันผวนเพิ่มยิ่งขึ้นได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้จากสถานการณ์โควิด-19 ไทยออยล์สามารถปรับสัดส่วนการผลิตของน้ำมันอากาศยาน จาก 20% ลงเป็น 10% ตามอุปสงค์ของตลาดที่ลดลงในช่วงสถานการณ์โควิด โดยเป็นเพียงโรงกลั่นเดียวในกลุ่ม ปตท. ที่ยังคงผลิตน้ำมันอากาศยานในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯ มีต้นทุนการผลิตและจัดส่งที่ถูกที่สุด รวมถึงความสามารถในการจัดหาวัตถุดิบ และการปรับเปลี่ยนแผนการซื้อน้ำมันดิบ การผลิต และการจำหน่าย การรักษาระดับต้นทุนให้อยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้

 

นอกจากนี้่ ไทยออยล์ เตรียมพร้อมปรับพอร์ตการลงทุน ด้วยการลดการพึ่งพา ในธุรกิจน้ำมัน ต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจที่มีการเติบโตและมีความมั่นคง เช่น ธุรกิจปิโตรเคมี และ HVP เช่น อุปกรณ์รถยนต์อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หน้ากากอนามัย ฯลฯ รวมการถึงการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าธุรกิจพลังงานทดแทน การหาโอกาสทางธุรกิจในธุรกิจใหม่และธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (New Business) ที่สอดรับกับแนวโน้มอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานในอนาคต

 

ไทยออยล์ เป็นโรงกลั่นอันดับหนึ่งของประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรที่ ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ด้วยการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มานับไม่ถ้วน สิ่งหนึ่งที่มองเห็นคือศักยภาพ “พลังคน” โดยพนักงานไทยออยล์มีความสามารถ มีองค์ความรู้ ประสบการณ์ มีความภูมิใจในองค์กร ถ่ายทอดส่งต่อจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่งมาโดยตลอด เป็นจุดแข็งที่ส่งเสริมให้ไทยออยล์สามารถยืดหยัดได้อย่างแข็งแกร่งในทุกวิกฤต