Breaking!! กลุ่มนักรบฮูตี โจมตีเมืองหลวงของ UAE ดันราคาน้ำมันทั่วโลกขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี

ราคาน้ำมันขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 ปีเป็นที่เรียบร้อย หลังกลุ่มนักรบฮูตีกู้ชาติโจมตีเมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates) อย่าง เมืองอาบูดาบี จนมีผู้เสียชีวิตไป 3 คน และด้วยความตึงเครียดครั้งใหม่นี้ได้ไปผลักดันราคาน้ำมันทั่วโลกให้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 ปีเลยทีเดียว โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent เป็นเกณฑ์มาตรฐานของระดับนานาชาติ) พุ่งขึ้น 1.6% ไปอยู่ที่ 87.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ฝากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐพุ่งมากกว่า 2% ไปอยู่ที่ระดับ 85.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงเช้าที่ผ่านมา

ด้านนักวิเคราะห์หลายฝ่ายก็ประเมินว่าจากนี้ราคาน้ำมันทั่วโลกหน้าจะปรับขึ้นกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากปริมาณอุปทานน้ำมันที่ลดลงที่มาพร้อมกับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นในระยะสั้นถึงกลางนี้ ประกอบกับความกังวลในเรื่องการเมืองระหว่างประเทศฟากของประเทศรัสเซียที่อาจจะตัดสินใจใช้กำลังทหารเข้ายึดครองประเทศยูเครนได้ตลอดเวลา

โดยการโจมตีครั้งนี้ของกลุ่มนักรบฮูตีทำให้แท็งก์เก็บน้ำมัน 3 แท็งก์ระเบิด ซึ่งจุดที่ระเบิดดังกล่าวอยู่ใกล้กับบริษัทรัฐวิสาหกิจของประเทศอย่าง ADNOC โดย UAE ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตน้ำมันใหญ่เป็นอันดับ 3 ของ โอเปก (OPEC) ขณะที่ ADNOC หรือ the Abu Dhabi National Oil Company เป็นผู้ควบคุมการดำเนินงานกิจการพลังงานในเมืองอาบูดาบี ซึ่งเป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ ขณะที่ตอนนี้พวกเขาถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกด้วยปริมาณมากกว่า 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน

โดยการโจมตีครั้งนี้คาดว่าจะมาจากโดรน UAE ถอนตัวออกจากสงครามเยเมนไปตั้งแต่ปี 2019 แต่ยังคงให้กับสนับสนุนทางอ้อมอยู่ (เบื้องหลัง นักรบฮูตี คือ ประเทศอิหร่าน)

แปลและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ที่มา : CNBC

ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ราคาน้ำมัน #โอเปก #UAE #สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์